[กุนซือรีวิว] Mass Effect: Andromeda เกม Action-RPG ที่บอกเลยว่าอาจจะทำให้คุณเบื่อได้ไวกว่าที่คิด
Mass Effect: Andromeda เป็นเกมภาคล่าสุดของตระกูล Mass Effect ที่สร้างชื่อไว้อย่างถล่มทลายให้สามภาคที่ผ่านๆ มา โดยเกมนี้เป็นเกม Action-RPG ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เลือกบทบาทว่าอยากเป็นคนดีหรือเลวก็ได้ แต่ภารกิจนั้นยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงนั่นก็คือการปกป้องโลกของเราให้พ้นจากเหล่าวายร้ายทั้งหลาย (แต่จะด้วยวิธีสันติแบบคนดี หรือโหดเถื่อนก็ตามใจ) วันนี้เรามาดูว่าเกม Mass Effect: Andromeda มีจุดเด่น – จุดด้อยอะไรบ้างครับ
ความเห็นทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว อาจถูกใจหรือไม่ถูกใจบ้างต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ
จุดเด่น
1. ภาพงาม
ด้วยขุมพลังของ Frostbite 3 ทำให้ภาพของเกมนี้มีความสวยงามระดับสูงมาก รายละเอียดของพื้นผิวต่างๆ ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม เห็นแม้กระทั่งรูขุมขนหรือสิวบนหน้าของตัวละคร รวมถึงฉากต่างๆ ในเกมทำออกมาได้งามล้นเหลือครับ อันนี้ต้องบอกว่าเป็นข้อดีสุดๆ ของเกมนี้เลย
2. สกิลที่อัพได้หลากหลายมากขึ้น
ปกติแล้วเกม Mass Effect จะอนุญาตให้ผู้เล่นเลือกอัพสกิลในสายที่ตนเองเลือกไว้ตอนต้นเท่านั้น แต่ภาคนี้ได้ปรับเปลี่ยนใหม่ให้ผู้เล่นนั้นเลือกอัพสกิลได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่นหากเราเลือกเล่นสาย Scrapper ที่เน้นการปะทะระยะประชิด แต่เราก็สามารถอัพสกิลของ Biotic ที่ใช้พลัง Pull เพื่อดึงศัตรูเขามาใกล้ๆ แทนที่จะวิ่งไปหาแทนก็ได้ (ในภาคก่อนนี้ไม่สามารถทำได้)
3. เนื้อเรื่องน่าสนใจ
เนื่องจากเป็นการเริ่มต้นเนื้อเรื่องใหม่ทำให้ทีมพัฒนาทำการบ้านเรื่องเนื้อเรื่องของเกมมาเป็นอย่างดี ทำให้เกมนี้ไม่ว่าจะเป็นภารกิจหลัก และภารกิจรอง โดยภารกิจหลักในการตามหาบ้านใหม่ของมนุษยชาติ ภารกิจรองเช่นการสืบหาความจริงของคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นบนดาว การช่วยนักเทคนิคในการซ่อมยานและสืบหาความจริงว่าใครเป็นคนสร้างปัญหาบนยาน หรือภารกิจรองอื่นๆ ที่มีก็น่าติดตามทั้งสิ้น
4. AI ฉลาดขึ้น
เกมนี้ได้ยกระดับ AI ขึ้นมาให้เห็นพอสมควรครับ โดยเฉพาะในเรื่องการเข้าโจมตี AI จะไม่ยืนอยู่กับที่แล้วยิงสุ่มๆ มาทางเรา แต่ AI จะพยายามหาทางวิ่งมาขนาบข้างเรา หรือปาระเบิด รวมถึงการโจมตีเป็นกลุ่ม ทำให้การต่อสู้ในภาคนี้นั้นต้องใช้การวางแผนมากกว่าการยิงแบบปกติทั่วไป นอกจากนี้ศัตรูยังพยายามขยับไปพร้อมกับหาที่กำบังไปทำให้การโจมตีไม่ง่ายเหมือนภาคก่อนๆ ที่ศัตรูจะเน้นวิ่งมาหาเราอย่างเดียวครับ
5. สำเนียงในการพูดของมนุษย์มีหลากหลาย
แม้จะเป็นจุดเล็กน้อยแต่ผมขออนุญาตยกมาเป็นข้อดีเพราะปกติสำเนียงของเกมนี้จะเป็นแบบอเมริกันแต่ในภาคนี้ได้มีการเพิ่มสำเนียงเข้าไปอีกพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นสำเนียงอังกฤษ (บริติช) สำเนียงจีน สำเนียงอินเดีย สำเนียงอเมริกัน ทำให้เกมนี้มีความเป็น “มนุษยชาติ” มากขึ้นครับ
จุดด้อย
1. ต่อให้เล่นมาก่อนก็งงได้ ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนยิ่งมึน
จากที่ได้สัมผัสเองต้องบอกเลยว่าหากไม่ศึกษาเนื้อหามาให้ดีจะงงกับเนื้อเรื่องมากๆ ครับ เพราะเกมนี้เวลาของเนื้อเรื่องจะเกิดในช่วงเวลาเดียวกันกับ Mass Effect 2 ทำให้หลายๆ คนที่เคยเล่นมาแล้วสับสนช่วงเวลาได้ ตัวอย่างเช่นตอนที่ตัวเอกคุยกับเผ่าพันธุ์โครแกน แล้วพูดถึงเชื้อไวรัสเจโนเฟจ (Genophage) ว่ายังคงมีอยู่ แต่ร่างกายค่อยๆ สร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาได้แล้ว ในขณะที่ใครเล่นจบภาค 3 แล้วจะพบว่าจริงๆ แล้วเจโนเฟจถูกรักษาไปแล้วในภาค 3 นั่นเอง
2. ปูเนื้อเรื่องค่อนข้างนาน
เนื่องจากภาคนี้เปรียบเสมือนการเริ่มใหม่ของจักรวาลเกม Mass Effect ทำให้ทีมงานต้องวางเนื้อเรื่องมาพอสมควร ซึ่งจะสังเกตุได้ว่าเวลาที่เราใช้บน Habitat-7 (ดาวดวงแรกที่เราเข้าไปสำรวจ) ใช้เวลาในการผจญภัยค่อนข้างนานและแผนที่ค่อนข้างใหญ่เดินไปเดินมาก็วนมาที่เดิม หากเปรียบกับภาคก่อนๆ ต้องบอกว่าเกมนี้ใช้เวลากับช่วง Intro ของเกมนานที่สุดครับ
3. เริ่มต้นได้แบบติดดินสุดๆ
นอกจากนี้อีกหนึ่งจุดด้อยของเกมนี้คือในช่วง Intro เราจะไม่สามารถเปลี่ยนอาวุธใดๆ ได้ ซึ่งอาจเป็นปัญหาสำหรับใครหลายๆ คนที่ชอบใช้อาวุธอื่นนอกจากปืนพก และไรเฟิลในช่วงท้ายๆ (เช่นผู้เขียนชอบสายสไนเปอร์) ทำให้เล่นได้ค่อนข้างยาก และขัดใจหลายๆ คนมากประกอบกับช่วง Intro ที่นานมากแล้วหากใครไม่ใช่แฟนเกมซีรี่ย์ Mass Effect อาจจะถอดใจเอาง่ายๆ
4. การปรับแต่งตัวละครยังน้อยมาก
อีกหนึ่งความผิดหวังก็คือการปรับแต่งหน้าตาของตัวละครทำได้ค่อนข้างน้อย ซึ่งตามความจริงแล้วทีมงานที่สร้างเกมนี้ก็คือทีมงานที่สร้างเกม Dragon Age: Inquisition ที่สามารถปรับแต่งตัวละครได้มากพอสมควร แต่มาในเกมนี้กลับทำให้ผู้เล่นผิดหวังกับการปรับแต่งตัวละครที่น้อยเหลือเกิน
5. ฉากคัตซีนเยอะมาก
เข้าใจว่าเกมนี้เป็น Action-RPG แต่คัตซีนที่มีในเกมค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะในช่วงต้นที่เกมเน้นการพูดคุยมากกว่าการยิง ทำให้ผู้เล่นหลายคนที่คาดหวังจะได้ยิงกันสนั่นเหมือนภาค 3 ต้องแห้วไปตามระเบียบ
จบแล้วครับสำหรับการเปรียบเทียบจุดเด่น – จุดด้อย ของเกม Mass Effect: Andromeda ผู้อ่านบางท่านอาจมีความคิดเห็นที่แตกต่าง หรือมีความเห็นเสริมเพิ่มเติมสามารถเพิ่มเติมได้ที่คอมเม้นครับ สำหรับวันนี้ขอบคุณ และสวัสดีครับ
Higashi
