ช่วงนี้่ติดเล่น EA Sports FIFA Online 3 แบบเข้าเส้น นั่งทำงานสลับเล่น วันนึงๆ ขออย่างต่ำ 5 แมตช์ 10 แมตช์ ถ้าว่างหน่อยก็เล่นกันทั้งวัน ^^ เพราะคิดว่ายังไงเกมนี้มันขึ้นอยู่กับฝีมือล้วนๆ บวกกับชั้นเชิงจากการที่เคยเล่น Winning ก็ไม่ได้ขี้แหล่ เลยคิดว่าฝีมือเรามันก็พอสู้เขาไหวอยู่หรอก เลยเล่นกันแบบเป็นบ้าเป็นหลังเพราะโอกาสเฮิร์ทมันน้อยกว่าแฮปปี้ แต่พักหลังๆ เริ่มจะแฮปปี้ไม่ออก เพราะทางตัวเกมเริ่มทยอยส่งไอเทมเสริมความเทพเข้ามาเรื่อยๆ มีมากมายหลายแบบให้เลือกใช้ตามความชอบ เปิดการ์ดเอานักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ออกมาใช้กันเป็นแถว แต่โชคยังดีที่ของแบบนี้ไม่ีมีฝีมือก็เท่านั้น ไอ้เราก็เลยยังพอสู้ได้ อุอุ แต่สุดท้ายตกเข้าไปอยู่ในวังวนของการเติมเงินเพื่อซื้อไอเทมวัดดวงกับเขาบ้าง เพราะคิดคำนวนแล้วว่ามันคุ้มจริงๆ ให้ดิ้นตาย ยอมผิดแนวทางของตัวเองที่จะบอกว่าเราคือเกมเมอร์ขี้ตืด เล่นแต่ของฟรีไม่เติมเติมกะตังค์ ซึ่งไอ้นิสัยแบบนี้เป็นมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว
ตั้งแต่จำความได้เริ่มเล่นเกมตั้งแต่ยังแก้ผ้ากระโดดน้ำตามคลองแถวบ้านนอก (มาเดี๋ยวนี้คงแก้ไม่ไหวเพราะคงจะมีคนตกใจเป็นแถว) ซึ่งนั่นมันก็นานมาแล้ว อย่าไปสนใจเลยครับว่าตกลงมันกี่ปีกันแน่ เพราะแต่ก่อนมักจะเริ่มเล่นกันด้วยเกมกดธรรมดาๆ อันละไม่กี่ร้อย จนมาถึงวันนี้ เริ่มเล่นเกมแบบจริงๆ จัง กับเกมออนไลน์ ถ้าจะให้นับกันจริงก็คงต้องย้อนไปเป็น 10 ปีกับเกมออนไลน์เกมแรกที่ได้ลอง หลายคนคงเดาว่าผมน่าจะลอง Ragnarok เป็นเกมแรก เพราะช่วงนั้นบอกกันตรงๆ ว่าใครที่ไม่ได้เล่น RO คงต้องเชยระเบิด เพราะเขาเล่นกันทั้งบ้านทั้งเมือง แต่ผมบอกเลยครับว่าผมไม่ได้เริ่มต้นด้วยเกม RO และก็ไม่ได้เริ่มเล่นเกมออนไลน์ก่อนหน้านั้นมาก่อน เพราะต้องยอมรับตามตรงว่าช่วงนั้นติดเล่น Counter Strike แบบเข้าเส้น ว่างเป็นไม่ได้จริงๆ ส่วนเกมออนไลน์เกมแรกที่เล่นกลับกลายเป็นเกมเล็กๆ อย่าง Laghaim เกมที่มายุคเดียวกับ Ragnarok นั่นแหละ
เจอแบบนี้หลายคนคงบอกว่าทำไมไม่เล่น RO มันก็มีเหตุผลอยู่นิดหน่อยที่ผมค่อนข้างจะนอกคอก เพราะช่วงนั้นบอกตามตรงเลยว่า เป็นคนที่นิยมของฟรีมากกว่า เพราะอย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า RO เป็นการเล่นเกมโดยใช้ระบบ Airtime คือการเติมเงินเล่น เดือนนึงก็ 349 บาทขาดตัว เพื่อนผมมันก็ชวนแต่เราก็จะตอบปฏิเสธไปเสมอๆ จนพักหลังมันไม่ชวนซะแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องเข้ามาสู่อ้อมอกเกมออนไลน์จนได้กับเกม Laghaim ของค่าย GameWorld หลายคนสมัยนี้อาจจะไม่รู้จักหรอกครับ แต่ถ้ายุคนั้นคงรู้จักกันดีอยู่ เพราะเขาบอกกับตัวเองว่าเขาคือเกม MMORPG Full 3D เกมแรกที่เข้ามาเปิดให้บริการในบ้านเรา ส่วน RO เป็นเพียงแค่ 2.5D เท่านั้น และข้อดึงดูดที่ทำให้ผมต้องเข้าไปเล่นกับเหตุผลที่สำคัญคือ มันฟรีไม่มีรายเดือนนั่นเองครับ
ผมเริ่มอยู่ในวังวนและคิดอยู่เสมอว่าเราจะไม่ยอมเสียเงินสักบาทเพื่อการเล่นเกมที่ไม่ได้มีผลมากมายกับชีวิต เพราะเล่นเพื่อแก้เครียดแก้เซ็งไปวันๆ เท่านั้น เอาเงินที่ได้มาไปทำอย่างอื่นท่าจะเหมาะกว่า ก็อาศัยเล่น Laghaim เรื่อยมาจนติดระดับ TOP 10 ของเซิร์ฟเวอร์ โดยไม่เสียเงินสักบาท ส่วนพวกเพื่อนๆ ผมที่เล่น RO ก็เสียกันไปเดือนละหลายร้อย ยิ่งเล่นหลายไอดีด้วยแล้วไม่ต้องสืบครับ บางคนหมดเป็นพัน อันนี้กะตังค์เขาไม่ใช่ของเราก็แล้วแต่จะบริหารกัน ซึ่งผมก็ถามเหมือนกันนะครับว่า คุ้มเหรอกับการเสียเงินเพื่อเล่นเกม เพื่อนผมบอกคำเดียวว่าโคตรคุ้ม เพราะไอเทม RO และเงินในเกมมันขายได้ *0* แหม่ เล่นเกมเชิงธุรกิจไปซะแล้ว มิน่าเล่นกันจนหามรุ่งหามค่ำไม่หลับไม่นอน จะนอนก็ปล่อยหุ่นยนต์กันดั้มออกปราบพวกมอนสเตอร์ เออเอาเข้าไป แต่ก่อนใครจะเล่น 24 ชม. นี่ไม่ใช่เล่นได้เลยนะครับ ต้องไปไปรษณีย์เพื่อส่งหลักฐานขอเล่น 24 ชม. ด้วย ไม่งั้นเล่นได้แค่ 4 ทุ่มเท่านั้น แต่เมื่อลงทุนไปแล้ว มีเหรอครับจะปล่อยให้ชั่วโมงที่เหลือสูญเปล่า มันก็เลยต้องเล่นให้ครบ 24 ชม. ต่อวัน เพื่อชดเชยกับเงินที่เสียไปนั่นเอง
ต่อมาการเล่นเกมของเด็กไทยเริ่มมีนิสัยเหมือนผมขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะเกมหลังๆ ที่เข้ามาเปิดต่างเปิดให้บริการกันแบบฟรีๆ ไม่ต้องมีรายเดือนเฉกเช่น RO แต่เพิ่มระบบที่เรียกว่า Item Selling เข้ามาชดเชย คือเล่นเกมอะฟรีไม่ต้องเสีย แต่จะมีระบบการเติมเงินเพื่อซื้อไอเทมอีกจำพวกเข้ามา โดยเกมพวกนี้จะมีการขายไอเทมทั้งเงินในเกมและเงินจริง ซึ่งใครที่นิยมเล่นฟรีเหมือนผมก็จะซื้อเฉพาะไอเทมที่ใช้เงินในเกมเท่านั้น ส่วนใครที่มีเงินก็เติมและซื้อไอเทมที่ใช้ด้วยเงินจริง ซึ่งทีแรกผมคิดว่าระบบนี้มันดีมากทีเดียว เพราะให้โอกาสสำหรับคนที่มีเบี้ยน้อยหอยน้อย ซึ่งเกมแรกที่ใช้ระบบนี้น่าจะเป็นเกม PangYa หากจำผิดขออภัย และก็ PangYa อีกนะแหละที่ฉีกกฏการเล่น 24 ชม. โดยไม่ต้องปลดล็อค เรียกว่าเป็นผู้บุกเบิกอย่างแท้จริง
ถึงอย่างนั้นผมเองก็ยังไม่วายที่จะไม่อุดหนุน เพราะยังคงความคิดแบบเดิม ใครจะซื้อซื้อไปเราไม่เกี่ยว จะเด่นจะเท่ห์เท่าไหร่ก็ไม่สน แต่ที่สนเอามากๆ นั่นเพราะไอเทมบางชิ้น มันมีความสามารถพิเศษที่มีเหนือกว่าไอเทมที่ซื้อด้วยเงินในเกม เรียกว่าเห็นความต่างอย่างชัดเจน ซึ่งตรงนี้หากไม่คิดอะไรมากก็เล่นกันต่อไป เพราะของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับฝีมือไม่ใช่ไอเทม แต่สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ ซึ่งหนทางการยอมแพ้ก็มีตัวเลือกไม่มากนัก หนึ่งในนั้นคือเลิกเล่นเพราะแพ้อำนาจเงิน จากที่ฝีมือสูสีแต่แตกต่างด้วยไอเทม ซึ่งหลายคนเหมือนกันที่รับไม่ค่อยได้แล้วก็ทยอยเลิกกัน แต่กลับกัน หากการขายไอเทมด้วยเงินจริง มันไม่ได้มีความเหลือมล้ำกันมากเกินไป หรือเป็นการเพิ่มแค่ความเท่หรือแค่สวยงามมันก็พอรับไหว เพราะยังไงมันคงไม่ส่งผลถึงการเล่นของเราอย่างแน่นอน
สุดท้ายมาจนถึงวันนี้ ความคิดของผมเริ่มเปลี่ยนไป หันมาเติมเงินเพื่อซื้อไอเทมกับเขาบ้าง แต่ไม่ถึงขนาดบ้าเลือดซื้อกันจนเป็นหลักพันหลักหมื่น หลายคนที่อ่านจะบอกว่าเยอะไปมั้ย ขอบอกเลยครับว่าจิ๊บๆ เพราะตามข้อมูลที่ได้รับมาว่าเดือนๆ นึง มีเกมเมอร์ที่เติมเงินเพื่อซื้อไอเทมกันหลักแสนก็มีมาแล้ว ของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะครับ เพราะบางเกมเขามีระบบการปั้มอะไรสักอย่างด้วยเงินจริง ไม่ใช่แค่ขายอย่างเดียว ส่วนผมก็แค่เติมพอเป็นน้ำจิ้ม เพื่อรักษาสิทธิ์ของตัวเองบางอย่าง หรือคิดดีแล้วว่าใช้แล้วมันคุ้มกับการเล่นโดยเสียเงินเพียงไม่กี่ร้อย อันนี้ก็ยอมควักบ้างตามสมควร สุดท้ายพอเติมแล้วยังไง มานั่งเสียดายที่หลังมั้ย บอกตรงนี้เลยครับว่าไม่เสียดายเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะอย่างที่บอกว่าเสียไปไม่เยอะ แต่ได้อะไรกลับมาที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งที่เติมก็เพราะว่ามันคุ้มและดีจริง อะไรที่ดีแต่แพงก็ไม่ต้องสน เอาแค่เราพอไหวน่าจะดูดีที่สุดแล้ว แต่ที่สำคัญนั่นคือเติมเพราะไอ้พวกช่างยุ ยุกันเหลือเกินจนเราต้องเติมเงินแล้วไปสอยไอเทมมาใช้กับเขาบ้าง ก็เฮกันไปเหมือนกัน
ผมไม่ได้มาชี้นำหรือมาหักหาญแนวคิดหรือนโยบายของใครหรอกนะครับ แค่อยากจะบอกว่า การเติมเงินหรือไม่เติมเป็นสิทธิ์ของตัวคุณเอง ทางผู้ให้บริการเขาไม่ได้มาบังคับว่าต้องเติม เพียงแต่เงื่อนไขมันอยู่ที่ว่า เติมแล้วคุณจะได้อะไรแค่ไหนเท่านั้นเอง หากคิดว่ามันคุ้มและไม่ได้เดือดร้อนอะไรก็เติมไปบ้างพอหอมปากหอมคอ แต่ถ้าคิดว่าเติมไปแล้วเสียดายหรือไม่คุ้มก็ไม่ต้องเติมหรอกครับ เพราะบอกตามตรงว่าไอเทมบางอย่างที่เขาขายผ่านระบบ Item Selling นั้นบางอย่างมันก็ไม่น่าจะซื้อเหมือนกัน แต่บางอย่างก็น่าสนใจเป็นอย่างมาก หรือจะคิดอีกแง่เหมือนกับที่ผมแนะมาเสมอ นั่นคือเติมเพื่ออุดหนุนอุตสาหกรรมเกม ไม่ต้องเยอะ เอาแค่ศรัทธาและไม่เดือนร้อนเงินในกระเป๋า เท่านี้ก็วินๆ ทั้งสองฝ่าย ค่ายเกมได้เงิน เราได้ไอเทม เพิ่มความสะดวกสบายบวกเก่ง บอกตามตรงนะครับว่า ถ้ารู้ว่าเติมแล้วมันดีแบบนี้ รู้งี้เติมนานแล้ว
