เมื่อช่วงอาทิตย์ก่อน ทางทีมงานได้เคยเสนอข่าวใหญ่ของวงการเกมเกาหลีไปแล้ว เรื่องของมาตรการจัดการอุตสาหกรรมเกมด้วยการที่รัฐบาลออกมาประกาศเตรียมยัดเกมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในยาเสพติด โดยตั้งให้อยู่ในประเภทที่ 4 นั่นคือประเภทเดียวกับ การพนัน บุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ซึ่งในทางเกาหลีถือว่าเป็นสิ่งเสพติดประเภทนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดความชั่วร้าย หรือร้ายแรงไม่ได้ แต่ทว่าอุตสาหกรรมเกมจะตกอยู่ในการควบคุมครั้งใหญ่ และมีมุมมองที่ด้านลบมากยิ่งขึ้น เกมจะไม่ได้เป็นสีขาวที่น่าสนับสนุนอีกต่อไป
การประชุมว่าด้วยวาระกฏหมายเกมเสพติด – หรือมันอาจจะเป็นกระแสการเมืองก็เป็นได้
และจนถึงปัจจุบันนี้เอง ทางรัฐบาลก็ยังคงเดินหน้าและพยายามร่างกฏหมายให้เสร็จสมบูรณ์ แต่ผลกระทบนี้กลับสร้างความลำบากให้กับอุตสาหกรรมเกม รวมถึงคนในวงการเกมอย่างกับคลื่นตกกระทบที่มาเป็นระลอกๆ โดยเฉพาะงานครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ นั่นก็คือ G-STAR 2013 ซึ่งปีที่แล้วทางรัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งท่านประธานาธิบดี ปาร์ค กึน ฮเย เองเพิ่งจะมาทำการเปิดงานด้วยตนเอง ก็จะยากลำบากและมีความเสี่ยงที่จะในการจัดงานเกมเหล่านี้ด้วย
และอีกอย่างหนึ่งที่จะกลายมาเป็นปัญหาคือผลกระทบจากเศรษฐกิจที่มาจากอุตสาหกรรมเกม ที่ทางเกาหลีเองสร้างรายได้ให้กับประเทศจากการส่งออกเกมเกาหลีอย่างมหาศาล เทียบเท่ากับตลาดเกมสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น งานนี้หากว่าโดนผลกระทบจากกฏหมายเกมเสพติด การพัฒนาเกมต่างๆ ก็ต้องมีการหยุดชะงักไปด้วย รวมถึงการผลักดันจากรัฐบาลก็อาจจะน้อยลงอีกด้วย และรับรองเลยว่าเป็นโอกาสอันดีที่ทางอุตสาหกรรมเกมจากจีนจะพุ่งแซงหน้าเกาหลีไปได้อย่างรวดเร็วแน่ๆ
สำหรับกฏหมายเกมเสพติดนี้ได้มีข่าวออกมา ก็มีชาวเน็ตเกาหลีออกมาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย มีทั้งเห็นไปทางเดี่ยวกัน และคัดค้าน โดยผู้ที่เห็นด้วยกับกฏหมายดังกล่าวก็ได้กล่าวว่าถึงแม้เกาหลีจะมี E-SPORTS ชื่อดัง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า อีก 50% ของคนเล่นเกม ก็เป็นเพียงเกมเมอร์ติดเกมธรรมดา ที่น่ามีการควบคุมจริงๆ ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วยก็กล่าวว่า การเล่นเกมไม่ได้ร้ายแรงเท่าการดื่มสุรา ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น ที่เมาอาละวาด ปล้นจี้แท็กซี่ หรือก่ออาชญากรรม ฯลฯ
