…….ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่าวงการ E-Sports ในบ้านเราได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งหนึ่งคนที่ช่วยผลักดันมาโดยตลอดก็คือ “คุณสมชัย พัฒนพงษ์ชัย” หรือที่เหล่าเกมเมอร์จะรู้จักกันดีในนาม “GMTH Pchai” แห่ง Garena นั่นเอง แทบจะทุกงานเรามักจะได้เห็นผู้ชายคนนี้ขึ้นวาดลวดลายอยู่บนเวีที ประหนึ่งเหมือนเข้าเป็นมาสค็อตของการีน่าเลยทีเดียว แต่แล้วเมื่อกลางปีเขาก็ได้ลาออกทั้งๆ ที่ทิศทางของบริษัทและวงการ E-Sports กำลังไปได้สวย โดยที่เจ้าตัวบอกแค่ว่าเป็นเพราะเหตุลส่วนตัวบางประการ จึงทำให้เหล่าเกมเมอร์และคนในวงการเกมต่างสงสัยถึงสาเหตุที่ออก และวันนี้เขาจะมาเปิดเผยถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ต้องลาออกจากบริษัทการีน่า
• ช่วยแชร์ประสบการณ์ที่ประทับใจในช่วง 1 ปีให้ฟังหน่อยครับ
…….ในปี 2013 เป็นปีที่ผมมีทั้งความสุข ความสนุก ตื่นเต้น เสียใจ เศร้าใจ และลำบากใจที่สุดในชีวิตครับ เรียกได้ว่าครบรสจริงๆ ทำให้รู้ซึ้งถึงการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น ก็เหมือนกับน้องๆ พี่ๆ เล่นเกมแล้วเลเวลอัพนั่นแหละ ผมคิดว่าเลเวลผมน่าจะอัพมาหลายสิบเลเวลเลยทีเดียว
The Show Must Go On…
…….ก่อนอื่นวันที่ผมจำได้ไม่มีวันลืมคือ 13/1/13 เป็นวันที่ผมรูซึ้งถึงคำ ว่า “The Show Must Go On” อย่างแท้จริง เหตุมีอยู่ว่า ผมดำเนินรายการอยู่บนเวทีเนื้อที่กว่า 800 ตร.ม. ซื่งในขณะนั้นรายการแข่งขันของเกมอันดับ 1 ของโลกอย่าง League of Legends กำลังดำเนินไปด้วยความมันส์แบบหยุดไม่อยู่ ฟาดฟันกันสนุกสนาน พร้อมของแจกแบบไม่อั้นตามสไตล์ Playinter & Garena และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อสุนัขตัวโปรดของผม “เฮนเบะ” ที่อยู่ด้วยกันมาอย่างยาวนานถึง 13 ปี โดนรถทับรุนแรงชนิดที่ว่าหมอไม่สามารถช่วยได้ ในขณะที่รู้ข่าวนั้นแฟนผมได้พา “เฮนเบะ” มาหาผมด้านหน้าเวที พร้อมกับเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง ทำให้ผมถึงกับช็อค!!! น้ำตาผมไหลแบบไม่สามารถหยุดได้ ทุกอย่างมันมืดไปหมด ทำอะไรไม่ถูก ผมได้แต่นั่งเศร้าอยู่ข้างเวทีโดยมีน้องๆ ทีมงานดูแลและส่งกระดาษทิชชูแบบไม่หยุดหย่อน แต่เวลาไม่เคยคอยท่า เมื่อถึงรอบที่ผมต้องขึ้นเวทีไปดำเนินรายการต่อ ผมได้แต่หลับตาท่องสคริปต์ในใจ ตั้งจิต ตั้งใจ ให้อยู่กับงานให้ได้มากที่สุด ให้มันผ่านไปให้้ได้ รอบต่อรอบ ต่อรอบและต่อรอบจนจบ
…….ผมบอกได้เลยครับว่ามันเป็นงานที่ยากที่สุดในชีวิต เพราะในใจผมมีแต่ความเสียใจที่น้องหมามาจากไป แต่ในขณะเดียวกันผมจะต้องสร้างความบันเทิงให้กับคนดูนับพันที่อยู่ตรงหน้าเวที นี่จึงเป็นเหตุการณ์นึงที่ผมขอจำกัดความใว้ว่า “The Show Must Go On”
GSL 2013 @ Bitec Bangna…
…….ต่อจากนั้นเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยทำมา เป็นงานที่ทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อสรรค์สร้างให้ความฝันของผมได้เป็นจริง นั่นก็คือ GSL 2013 ในวันที่ 30-31 มีนาคม 2013 ณ ไบเทค บางนา ฮอลล์ 103 ผมได้รวบรวมสิ่งที่เห็นมาในงานอีเว้นท์ต่างๆ ทั่วโลกเข้าด้วยกันเพื่องานนี้โดยเฉพาะ เมื่อเวทีที่สวยที่สุดในตอนนั้นคือ เวทีจากงาน League of Legends Season 2 @ Los Angeles USA การวางร้านขายของที่ดูดีและเป็นระเบียบที่สุดมากจากงาน China Joy รวมถึงมินิสเตจที่คอยดึงดูดผู้คนมากมายให้มาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกอย่าง Tokyo Game Show และที่ขาดไม่ได้คือ คอมพิวเตอร์จำนวนมหาศาลที่ชวนให้ขนลุกทุกครั้งที่เห็นจากงาน Dream Hack ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงเป็นสาเหตุให้เกิดงาน GSL 2013 บนพื้นที่กว่า 5,000 ตร.ม. ขึ้น ซึ่งก็ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ ผมยังได้สร้างฝันให้มันเกิดขึ้นจริง โดยการดึงดารา นักร้อง นางแบบสุดเซ็กซี่ และ Facebook Idol มาร่วมสร้างความสนุกในครั้งนี้ถึง 9 ทีมด้วยกัน มันเป็นการดีลงานที่สุดมันส์ และสนุกทุกครั้งเมื่อเห็นเกมเมอร์ชาวไทยได้มีรอยยิ้มแบบไม่ขาดสาย
• ในเมื่อคุณสนุกและแฮปปี้แล้วทำไมถึงได้ลาออกจาก Garena ทั้งๆ ปลุกปั้นมากับมือ?
…….เป็นคำถามที่ผมโดนถามบ่อยที่สุดในปี 2013 เลยก็ว่าได้ มันเป็นคำถามที่สื่อ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ และผู้ใหญ่ใจดีทุกๆ คนถามผมตลอดระยะเวลาที่ผมห่างหายไป ก่อนอื่นผมต้องกราบขอบพระคุณท่านผู้ใหญ่ใจดี และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกท่านด้วยที่แสดงความห่วงใยผมมาโดยตลอด ผมจึงขอโอกาสนี้เป็นที่แรกในการเขียนถึง “ความจริง” ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับผมจนทำให้ผมต้องลาออกจาก Garena Thailand เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2013 ที่ผ่านมา
10 นาทีที่กลับคำ….
…….เรื่องเริ่มมาจากร้าน Sticker เป็นร้านเกมเล็กๆ ร้านนึงที่ผมเปิดมานานและเป็นที่พักอาศัยของครอบครัวผม ถูกพาร์ทเนอร์รายหนึ่งที่เติบโตมาด้วยกันตลอดปีที่ผ่านมา จนเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จทั้งคู่ก็ว่าได้ มาเปิดกิจการติดๆ กับผมแบบใช้ผนังเดียวกัน และผมได้ข้าไปคุยกับทางหัวหน้าของผม ซึ่งขณะนั้นผมได้เตรียมใจ “ลาออก” ไว้แล้ว เพราะผมไม่อยากใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่ไม่ดี แต่หัวหน้าผมก็ได้ตอบด้วยความมั่นใจและแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า “มันไม่ถูกต้อง ทำไมเค้าต้องมาทำกับพี่แบบนี้ด้วย มันไม่ถูกต้อง พี่ชัยจัดการเลยครับ” หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือนเศษ ผมก็พยายามไกล่เกลี่ยทุกอย่างก่อนที่จะสายเกินแก้ และยังไม่ได้ใช้อำนาจในทางที่ผิดใดๆ ทั้งสิ้น จนกระทั่งวันนึงร้านของพาร์ทเนอร์รายนี้ได้ต่อเติมจนสำเร็จพร้อมเปิดให้บริการ และมาพร้อมกับของสมนาคุณลดแลกแจกแถมบวกกับรายการแข่งขันที่เข้มข้น (ทุกอย่างถูกอนุมัติโดยปลายปากกาของผม) เป็นเหตุให้ผมทนไม่ได้ ผมจึงต้องทำอะไรสักอย่าง และวันนั้นผมก็ตัดสินใจส่งอีเมลไปหาหัวหน้าของผมเพื่อขออนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษร หัวหน้าผมก็ตอบกลับมาว่า ผมไม่ Mind พี่อยากทำอะไรได้เลยครับ แต่ทางที่ดีคุยกับเค้าก่อน ตลอดระยะเวลา 1 เดือนเศษผมได้พยายามติดต่อทางทีมงานระดับเล็กจนถึงระดับเจ้าของของบริษัทพาร์ทเนอร์รายนี้ไปแล้ว แต่ไม่มีทีท่าว่าจะมีอะไรคืบหน้า หนำซ้ำยังคงให้ผมแจกของ จัดการแข่งขันให้ ส่งเสริมการขายให้อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของความไม่พอใจอย่างมาก แต่หลังจากนั้นเราได้มีการเจรจากันอย่างเข้มข้น แต่ไม่มีอะไรคืบหน้าเช่นเคย หนำซ้ำยังคงมีการแจกของ จัดแข่งต่างๆ โดยผ่านหัวหน้าผมโดยตรง (ตัดผมออกจากการเจรจาทั้งหมด) ตลอด 3 เดือนเศษ ผมต้องทนกับคนกลับกลอก กลับคำ ไม่เว้นแม้แต่ละวัน ต่อหน้าผมพูดอีกอย่าง ลับหลังผมพูดอีกอย่าง
…….และแล้ววันที่สิ้นสุดทุกอย่างก็มาถึง วันนั้นเป็นวันที่ 7 พ.ค. 2013 หัวหน้าผมมีประชุมกับทางพาร์ทเนอร์รายนี้ว่าด้วยเรื่องแจกของจัดแข่งสำหรับ League of Legends ซึ่งผมก็โดนเรียกให้เข้าประชุมด้วย ให้ผมสร้างสรรค์ไอเดีย ให้คิดกลไกทางการตลาดให้ แต่ผมทำไม่ได้ครับ ผมทำไม่ลง ผมไม่สามารถฆ่าตัวเอง ฆ่าครอบครัวตัวเองได้อีกแล้ว บวกกับช่วงนั้นร้านนี้ตัดราคาค่าชั่วโมงจาก 20 บาทเหลือเพียง 12 บาท จึงเป็นสาเหตุให้ผมบ้าคลั่งในออฟฟิศด้วยเสียงอันลั่น ด่าหัวหน้าตัวเอง ด่า ด่า ด่า ด่า มีแต่คำด่า คำสบถ คำไม่น่าฟังที่ออกไป เมื่อทีมงานเห็นเป็นเช่นนี้ก็ได้บอกให้ผมกลับบ้านไปสงบสติอารมณ์ น้องๆ ทุกคนเลยพาผมลงมาด้านล่าง แต่หารู้ไม่ว่า วันนั้นเป็นวันที่ผมกับหัวหน้าต้องบินไปที่ประเทศสิงคโปร์เพื่อติดต่อดีลเกมฟุตบอลยักษ์ใหญ่อีก 1 เกม…
…….เวลาผ่านไปไม่นาน หัวหน้าผมก็ได้เดินลงมาเจรจาและขอโทษขอโพย เค้าไม่คิดว่าผมจะโกรธขนาดนี้ ผมก็บอกเค้าไปว่า ครอบครัวผม บ้านผม ร้านที่ผมรัก คุณจะให้ผมส่งมีดให้ศัตรูตลอดเวลาไม่ได้ และทางหัวหน้าผมก็ได้มีการขอร้องให้ผมบินไปประเทศสิงค์โปร์ด้วยกัน ผมตอบทันทีว่า “ไม่” แต่ในขณะนั้นเอง มีน้องผู้หญิงคนนึงร้องไห้ ผมจึงใจอ่อน ผมได้พูดออกไปว่า “ถ้าจะให้ผมไป ผมต้องจัดการร้านพาร์ทเนอร์ดังกล่าวตามที่ผมเคยจัดการ” หัวหน้าผมตอบทันที “ได้ๆๆๆ ได้ครับ พี่กลับไปจัดของก่อนนะ เรามีงานใหญ่ต้องทำ เจอกันสนามบินนะ”
…….เมื่อเจ้านายตบปากรับคำอย่างนั้น ผมจึงยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาสั่งไปยังแผนกที่เกี่ยวข้องทันทีว่า “คุณช่วยจัดการตักเตือนร้านคู่ค้าได้เลยครับ หัวหน้าอนุมัติแล้ว” แต่หลังจากนั้น เพียง 10 นาที หัวหน้าแผนกดั่งกล่าวได้โทรเพื่อขอยืนยันกับหัวหน้าผมอีกครั้งนึง คำตอบที่ได้คือ “คุณหยุดการตักเตือนไว้ก่อน จนกว่าจะมีคำสั่งจากผม”
…….อะไรกัน! ค่าของผมมีเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น เค้าแค่ต้องการหลอกให้ผมกลับไปจัดข้าวของเตรียมการไปต่างประเทศ ด้วยสาเหตุนี้เองทำให้ผมส่งเมลลาออกทั้งน้ำตา ผมไม่สามารถทำงานร่วมกันได้อีกต่อไป!!
…….ทั้งหมดที่เล่ามานี้ ผมยังคงยืนยันว่า การตัดสินใจลาออกของผมเกิดขึ้นเพราะคนที่ผมทำงานให้ถวายหัวให้ ได้ทำร้ายทำลายสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตมนุษย์อย่างผมไป นั่นก็คือ ความรัก ความใว้ใจ และความเชื่อใจ
• แล้วปัจจุบันทำอะไรอยู่? มีแนวโน้มที่จะกลับมาทำเกมอีกไหม?
ใจสั่งมา…
…….เคยดูหนังจีนกำลังภายในไหมครับ ถ้าเคยคงยังจำภาพคนตกเขาสูงๆ แล้วบาดเจ็บสาหัส แล้วอยู่ๆ ก็มีผู้เฒ่าใต้หุบเขาเข้าช่วยเหลือชุบเลี้ยงให้ฟื้นฟูกำลังกายและกำลังใจให้พร้อมทั้งร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ เตรียมกลับมาท่องยุทธภพอีกครั้ง หลังจากที่ผมลาออกมา ผมได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนของผมที่คบกันมานานมากๆ คนนึง อยู่ๆ เพื่อนผมคนนี้ก็ถามผมว่า “ลาออกทำไมวะ” แล้วผมก็เล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง อีกไม่กี่วินาทีต่อมาเพื่อนผมได้พูดว่า “อยากทำเกมอีกไหม ถ้าอยาก.. มาทำด้วยกัน เอาเงินกรูไปทำ” นั้นแหละครับ เป็นที่มาของบริษัท ClickAlot Co, Ltd.,
…….ClickAlot เป็น บริษัทที่เริ่มจากคนบ้าๆ อย่างผมและเพื่อนของผม ซึ่งตอนนี้เรา ได้เซ็นสัญญาเกมจากทางเกาหลีมาแล้ว โดยวางแผนจะเปิดให้บริการภายในปีนี้อย่างแน่นอน รับรองว่าเกมเราเป็นเกมแนวแข่งขัน จัด E-Sports ได้อย่างแน่นอน และอัดแน่นไปด้วยคุณภาพระดับพรีเมี่ยม
……กระผม GMTH Pchai อยากใคร่ขอโอกาสผ่านมา ณ ที่นี้ด้วย บริษัทของผมเป็นบริษัทของเกมเมอร์ 100% และสร้างมาเพื่อตอบสนองเกมเมอร์อย่างที่เคยทำให้ประจักษ์มาแล้วในบริษัท Garena Thailand และเป็นที่แน่นอนผมจะขอสานต่อคำที่ว่า Fulfill Gamer Life (เติมเต็มชีวิตเกมเมอร์) ครั้งนี้ผมจะทำให้ประเทศไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกให้จงได้ … << นี่คือคำมั่น ของผม
• คิดว่าแนวโน้มวงการเกมในปีจะเป็นอย่างไร
ปีทองของเกมเมอร์ และ เกมมิ่ง…
…….หลังจากที่ E-Sports เริ่มเข้ามาในบ้านเรา นั่นทำให้ผู้ให้บริการเกมเริ่มหันมาให้บริการเกมที่สามารถสร้างการแข่งขันได้มากยิ่งขึ้น และนักเล่นเกมก็หันมาเล่นเกมที่สามารถแข่งขันกันได้เช่นกัน ไม่ใช่แค่เพียงผู้ให้บริการกับนักเล่นเกมเท่านั้นที่มุ่งเป้าไปที่ E-Sports แต่หากผู้จัดจำหน่ายสินค้าต่างๆ อย่าง Gaming Gear และ Hardwarre หรือแม้กระทั่งเจ้าของร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ก็หันมาจัดทีมเพื่อลงแข่งขัน E-Sports เช่นกัน เพราะช่องทางนี้เสียรายจ่ายน้อย แต่ได้ผลตอบแทนมหาศาลในด้านการโฆษณาแบรนด์ของตัวเองไปยังกลุ่มคนต่างๆ อย่างง่ายได้
…….ดังนั้น หากมองจากเทรนด์ในตอนนี้ ผมฟันธงว่า คนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดคือ เกมเมอร์ที่จับกลุ่มก้อนได้ เล่นได้ดีพอประมาณ ก็จะมีแรงหนุนมาจากหลายๆ ภาคส่วนตามที่กล่าวไปด้านบน ไม่ต้องเดินหาสปอนเซอร์ให้เมื่อยตุ้ม เกมมิ่งเกียร์เองก็จะมีนักกีฬาที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของตนขึ้นไปโชว์บนเวทีนั้นๆ ได้อยากแพร่หลายมากขึ้น จะทำให้เกิดแรงจูงใจในการซื้อเพิ่มขึ้นอย่างแพร่หลาย (คาดว่าตลาดเกมมิ่งจะโตกว่าปีก่อนๆ อย่างแน่นอน)
