ระหว่างที่เราแสดงจุดยืนเกี่ยวกับเรื่องของนโยบายการลง CafeThai ของ Garena ให้กับสมาชิกร้านเน็ตทั่วประเทศ ล่าสุดวันนี้ (24 เมษายน) ทาง Garena ก็เดินทางเข้ามาเยี่ยมพวกเราถึงคอมพ์เกมเมอร์ ยอมรับกันตามตรงเลยครับว่า ก่อนหน้านี้ไม่ทราบถึงจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้เหมือนกัน ว่าแท้ที่จริงมีจุดมุ่งหมายอะไร เพราะจะให้ดีน่าจะไปหาสมาชิกร้านเน็ดไม่ดีกว่าเหรอ แต่สุดท้าย ก็ต้องเข้าใจว่าทำไมถึงต้องเป็นเรา เพราะในฐานะที่เป็นสื่อ และเป็นสื่อรายหนึ่งที่เล่นข่าวเกี่ยวกับนโยบาย CafeThai ในขณะนี้
การมาครั้งนี้ผมถือว่า Garena ให้เกียรติคอมพ์เกมเมอร์เต็มที่ เพราะไม่ได้มาเพียงแค่พนักงานทัพหน้า แต่นำทีมมาโดยผู้บริหารที่ต้องถือว่าน่าจะใหญ่ที่สุดของ Garena ในประเทศไทยแล้ว จุดประสงค์ของการมาก็มีอยู่ 2 ประเด็นครับ และได้ร่วมพูดคุยกับ นายคลั่ง บิ๊กบอสของผม เกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้ ประเด็นแรกคือเรื่องของเจ้าตัวโปรแกรม CafeThai โดยทีม Garena ได้บอกไว้ว่า เสียงของกลุ่มสมาชิกร้านเน็ตไม่ได้เบาไปจนเขาไม่ได้ยินหรอกครับ ทางทีมงานเองก็รับทราบถึงปัญหาที่ทางกลุ่มสมาชิกร้านเน็ตประสบอยู่ และก็เข้าใจแจ่มแจ้งทั้งหมดเป็นอย่างดี และพร้อมที่จะ “ถอย 1 ก้าว” หลังจากนี้ โดยการปรับปรุงตัวโปรแกรม CafeThai ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น จนไม่เกิดปัญหากับทางร้านเน็ตอีกต่อไป
ส่วนอีกประเด็นนั่นคือ เรื่องของการชี้แจงเกี่ยวกับสถานภาพปัจจุบันของ Garena ดังที่เราเคยตั้งข้อสงสัยกัน นั่นคือ Garena เป็นบริษัทที่ลงทุนจากต่างประเทศ เพราะฉะนั้นเงินทุกบาททุกสตางค์ที่กอบโกยจากเกมเมอร์ชาวไทย อาจจะไหลไปอยู่ในมือชาวต่างชาติ ทาง Garena ก็ชี้แจงในจุดนี้ว่า ถึงแม้ว่า Garena จะมีบริษัทนายทุนจากต่างประเทศเข้ามาหนุน แต่ขอย้ำตรงนี้เลยว่า รายได้ที่ได้จากช่องทางต่างๆ จะไม่ไหลไปไหนแน่ ยังคงอยู่ในประเทศไทย และรับปากด้วยว่า จะดันวงการเกมบ้านเรา รวมถึงการแข่งขัน E-Sports อย่างสุดกำลังแน่นอน
จากการพบปะพูดคุยทั้งหมด คอมพ์เกมเมอร์ในฐานะสื่อ และถือเป็นคนกลางที่พอจะช่วยให้ปัญหาดังกล่าวค่อยๆ คลี่คลายลง เพราะบอกตามตรงนะครับว่าคนกลางมักเห็นการวางเกมของทั้ง 2 ฝ่าย เห็นมุมมองต่างๆ ได้ดีกว่า หมายถึงว่า เราสามารถเปิดกว้างรับฟังเสียงของทุกฝ่ายได้นั่นเอง ซึ่งทาง Garena ก็รับปากไว้ด้วยว่า จะมีการได้พบปะพูดคุยกับกลุ่มสมาชิกร้านเน็ตแน่ อยู่ที่ว่าเมื่อไหร่เท่านั้นเอง
เรื่องของเรื่องมันเกิดจากปัญหาทางนโยบาย เชื่อมโยงไปถึงปัญหาของโปรแกรม ดังนั้นหากวันนี้ทาง Garena ก็รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วว่าจะดำเนินการแก้ปัญหาเจ้าตัวโปรแกรมให้สมบูรณ์ ส่วนคอมพ์เกมเมอร์ในฐานะสื่อกลาง รวมถึงสมาชิกร้านเน็ตในฐานะคู่กรณี ก็ต้องจับตาดูกันต่อไปละครับ ว่าหลังจากนี้ Garena จะทำอย่างที่รับปากไว้หรือไม่ ถ้าไม่ทำก็ถือเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองแน่นอน แต่ถ้าทำได้ ผมเชื่อว่าทางสายนี้ยังเปิดกว้างกับทุกฝ่ายเสมอ
บทความนี้อาจจะไม่ดุเด็ดเผ็ดมัน ไม่ร้อนแรงตามกระแสของคนชอบดราม่า แต่การไม่ดุเด็ดนี่แหละครับ ที่ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าจะมีการประนีประนอมกันเกิดขึ้น เราก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า เรื่องทั้งหมดมันมีเรื่องธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นทางเลือกมีไม่มาก ถ้าถูกใจก็ลงโปรแกรมไป ถ้าไม่ถูกใจก็ไม่ต้องไปลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องยอมรับเหมือนกันว่า เกมของ Garena เองก็เป็นตัวสำคัญที่ดึงดูดเกมเมอร์เข้าร้าน เป็นตัวชูโรงของบ้านเราเวลานี้ การจะแบนจึงต้องเป็นเรื่องที่คิดหนักกันไม่น้อย ทาง Garena ก็ต้องคิดให้เยอะ หากร้านเกมพร้อมใจกันแบนเกมในเครือ รับรองได้รับผลเช่นกัน เพราะงั้นแหละถึงต้องบอกว่าพูดคุยกันให้รู้เรื่อง ว่าสุดท้ายแล้วจะออกหัวหรือออกก้อย ติดตามกันให้ดีๆ เพราะหลังจากนี้ทางเราเองจะเกาะติดไม่ปล่อยแน่นอน