DCUO เปิดศึก PVP ในหมู่ผู้มีพลังพิเศษ ปล่อยความเป็นฮีโร่ในตัวคุณ

992 views


หนึ่งในความเป็นเสน่ห์ของเกมแนว Action MMORPG นั้นก็คงจะหนีไม่พ้นฟีเจอร์สุดมันส์ที่ปล่อยให้เหล่าเกมเมอร์นั้นแสดงเทคนิคต่างๆ และความสามารถในการต่อสู้กันระหว่างผู้เล่น หรือที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า PVP แต่สำหรับ DC Universe Online นั้นจะมีความต่างออกไปในโหมด PVP ที่มีหลากหลายรูปแบบ แต่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบหลักๆ ด้วยกัน

สำหรับรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือการ PVP ในรูปแบบของ “Arena” คือการใช้ตัวละครที่สร้างขึ้นมาเองเข้าร่วมการต่อสู้ได้ โดยจะได้ใช้ทั้ง Power รวมถึงสไตล์ของ Equipment ของตนเองได้อย่างเต็มที่ เป็นรูปแบบการ PVP ที่เปิดกว้างมากที่สุดและให้อิสระที่จะคิดจะทำ และจัดการตัวละครของตนเอง จึงไม่แปลกที่ทำให้โหมดนี้นั้นได้รับความนิยมเพราะได้ใช้ตัวละคนที่ตนเองสร้างและถนัดมากที่สุด

และอีกโหมดนึงนั้นเรียกได้ว่าเหมาะสำหรับคนชอบลองอะไรใหม่ๆ ใช้พลังแบบใหม่ๆ ไอเทมรูปแบบใหม่ๆ หรือที่เรียกว่าโหมด “PVP Legend” โดยเหล่าเกมเมอร์จะได้เลือกตัวละครชื่อดังจากจักรวาล DC Comic มาต่อสู้กัน ไม่ว่าจะเป็น Batman, Robin, Steel, Huntress ,Green Lantern ไปจนถึง Joker, Bane, Zod, Sinestro และ Harley Quinn โดยตัวละครทั้งหมดที่มีให้เลือกอยู่นั้นก็จะมี พลัง, อาวุธ และวิธีการต่อสู้ที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็ยังอยู่บนความสมดุล คือไม่มีตัวละครใดที่สร้างความแตกต่างในด้านพลังได้อย่างชัดเจน ทำให้เกิดความเท่าเทียมและวัดกันที่ฝีมือของผู้เล่นจริงๆ โดยสามารถเข้าเล่นโหมดนี้ได้ตั้งแต่เลเวล 6 ซึ่งการจะไปถึงจุดนั้นใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียวก็เข้าไปมันส์กับโหมด Legend ได้แล้ว

แต่สิ่งที่ DC Universe Online ใส่เพิ่มเข้ามาในระบบ PVP ให้กับเหล่าเกมเมอร์นอกเหนือการฆ่ากันแล้วตาย(Deathmatch) ก็คือ กฎ-กติกาในการตัดสินซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 6 แบบด้วยกัน

 

Deathmatch

– การทำคะแนน: ได้คะแนนจากการฆ่าฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น

– เงื่อนไขเอาชนะ: ทีมที่ได้คะแนนครบตามที่กำหนดก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ หรือหากเวลาหมดก่อน ทีมที่มีคะแนนมากกว่าในขณะนั้นจะเป็นฝ่ายชนะ

Deathmatch นั้นมีให้เลือกเล่นได้ในโหมด 5 และ 8 Players เท่านั้น โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะมีจุดเริ่มต้นของตัวเอง และสามารถเกิดใหม่ได้เรื่อยๆหากถูกโจมตีจนตาย การที่ไม่มีเงื่อนไขการทำคะแนนอื่นๆ เลยทำให้ Deathmatch เป็นโหมดที่ดิบเถื่อนที่สุด แต่ก็ไม่ได้เรียบง่ายซะทีเดียว ผู้เล่นสามารถใช้แทคติกต่างๆ นานาในการเอาชนะ แต่โดยรวมแล้ว ผลมักจะอยู่ที่ความสามารถโดยรวมของทีมมากกว่าความเก่งกาจส่วนบุคคล

 

Best of Five Deathmatch

– การทำคะแนน: ได้คะแนนจากการฆ่าฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น

– เงื่อนไขเอาชนะ: ทีมที่ได้คะแนนครบตามที่กำหนดก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ หรือหากเวลาหมดก่อน ทีมที่มีคะแนนมากกว่าในขณะนั้นจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ในโหมดนี้จะแข่งกันว่าทีมไหนจะชนะก่อน 3 ครั้ง จึงจะเป็นผู้ชนะ Match นี้จริงๆ

โหมดนี้โดยรวมแล้วเหมือนกับ Deathmatch ทุกอย่าง ยกเว้นว่าต้องเอาชนะกันหลายครั้ง ซึ่งนั่นทำให้มีโอกาสแก้มือ ปรับแผน หรือแม้แต่ปรับ Power และ Equipment เพื่อเปลี่ยนแนวทางการต่อสู้เลยก็ได้


Bomb Disposal

– การทำคะแนน: ได้คะแนนจากการปลดระเบิด และได้คะแนนเล็กน้อยจากการฆ่าฝ่ายตรงข้าม

– เงื่อนไขเอาชนะ: ทีมที่ได้คะแนนครบ 1,000 ก่อนเป็นฝ่ายชนะ หรือหากเวลาหมดก่อน ทีมที่มีคะแนนมากกว่าในขณะนั้นจะเป็นฝ่ายชนะ

โหมด Bomb Disposal นี้จะมีให้เล่นในแบบ 4 vs 4 เท่านั้น เมื่อเริ่มเกม ผู้เล่น 2 ฝ่ายจะเริ่มที่จุดเริ่มต้นของฝ่ายตัวเอง ซึ่งจะมี “หุ่นยนต์” อยู่ฝ่ายละ 1 ตัว ผู้เล่น 1 คนในแต่ละฝ่ายจะต้องเข้าควบคุมหุ่นยนต์ตัวนั้นเพื่อไปหาระเบิดที่สุ่มเกิดอยู่ภายในแผนที่ และทำการปลดระเบิดเพื่อทำคะแนน (ปลดสำเร็จ 1 ครั้งได้ 200 คะแนน) และผู้เล่นที่เหลือจะมีหน้าที่ในการคุ้มครองหุ่นของฝ่ายตน ก่อกวนหรือทำลายหุ่นของฝ่ายตรงข้าม หรือแม้แต่วิ่งหาตำแหน่งของระเบิดก็ได้
การปลดระเบิดนั้นจะทำได้โดยผู้เล่นที่บังคับหุ่นยนต์อยู่เท่านั้น ซึ่งในจุดนั้นเท่ากับว่าผู้เล่นคนนั้นจะเป็นกุญแจในการเอาชนะ ตัวหุ่นนั้นเมื่อเข้าบังคับแล้วจะมี Power พิเศษของตัวเอง สามารถต่อสู้และป้องกันตัวได้พอสมควร แต่การจะปลดระเบิดได้นั้น ยังไงก็จะต้องอาศัยการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมอย่างแน่นอน เพราะระหว่างการปลดที่กินเวลาประมาณ 5 วินาทีนั้นสามารถถูกขัดขวางได้ง่ายมากๆ เพียงแต่ถูกโจมตีด้วย Power หรือ Combo ที่ทำให้ล้มก็หลุดแล้ว
นอกจากนั้นแล้วตัวหุ่นก็มีเวลาจำกัดในการใช้งาน หากหมดเวลาแล้วผู้เล่นคนนั้นก็จะกลับสู่ร่างปกติ และต้องกลับไปที่จุดเริ่มต้นเพื่อเรียกใช้งานหุ่นยนต์ใหม่ หรือหากหุ่นโดนโจมตีจนตายก็ต้องกลับไปเริ่มใหม่เช่นกัน ทั้งนี้ฝ่ายที่ฆ่าได้ก็จะได้คะแนน 1 คะแนนต่อครั้ง แน่นอนว่ามันน้อยมาก แต่ในกรณีที่ปลดระเบิดได้จำนวนเท่ากันแล้วหมดเวลา คะแนนแค่ 1 แต้มก็ทำให้ชนะได้เหมือนกัน

Capture and Hold

– การทำคะแนน: ได้คะแนนจากการยึด Node และรักษาสถานะการยึดครองนั้นเอาไว้ ซึ่งคะแนนของฝ่ายตรงข้ามจะลดลงเรื่อยๆตราบใดที่ยังยึด Node เอาไว้ได้ รวมถึงการฆ่าฝ่ายตรงข้ามก็จะทำให้คะแนนของอีกฝ่ายลดลงด้วยเช่นกัน

– เงื่อนไขเอาชนะ: ตอนเริ่มต้น ทั้ง 2 ทีมจะมีคะแนนอยู่ 1,000 Point เท่ากัน หากทีมใดคะแนนหมดก่อนก็จะเป็นฝ่ายแพ้ หรือในกรณีที่เวลาหมด ทีมที่มีคะแนนเหลือมากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ
Capture and Hold มีให้เล่นในแบบ 5 vs 5 เท่านั้นและเป็นโหมดการแข่งขันที่ค่อนข้างสากลทีเดียว มักถูกใช้ในการแข่งขันอย่างเป็นทางการหลายครั้ง ในแผนที่นั้นจะมี Node หรือจุดยุทธศาสตร์ที่เราต้องยึด 3 จุด วิธีการยึดก็แค่ไปยืนอยู่บน Node จนกว่าแถบเวลาจะขึ้นจนเต็มก็จะถือว่า Node นั้นเป็นของทีมของเราแล้ว และยิ่งมีตัวละครฝ่ายเราอยู่บน Node จำนวนมากเท่าไหร่ก็จะใช้เวลาน้อยลงเท่านั้น

การยึด Node ที่ฝ่ายตรงข้ามครอบครองอยู่นั้นทำได้โดยการยืนที่ Node นั้นเช่นเดียวกัน แต่เราจะต้องเป็นฝ่ายที่อยู่บนนั้นแค่ฝ่ายเดียว หากยังมีฝ่ายตรงข้ามอยู่ด้วย เวลาในการยึดจะหยุด ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องสู้กันจนกว่าจะเหลือเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น แล้วเวลาจะเริ่มนับอีกครั้ง

เงื่อนไขการเอาชนะในโหมดนี้อยู่ที่ฝ่ายใดจะยึด Node ได้มากกว่า และครอบครองไว้ได้นานกว่ากัน


Capture the Flag

– การทำคะแนน: ได้คะแนนจากการขโมย Element ของฝ่ายตรงข้ามกลับมาที่ฐานของตนเอง รวมถึงการฆ่าตัวละครฝ่ายตรงข้ามด้วย

– เงื่อนไขเอาชนะ: ทีมที่ได้คะแนนครบตามที่กำหนดก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ หรือหากเวลาหมดก่อน ทีมที่มีคะแนนมากกว่าในขณะนั้นจะเป็นฝ่ายชนะ

โหมดการแข่งขันแบบ Capture the Flag หรือที่เราคุ้นๆกันในชื่อ “ชิงธง” นั้นก็มักจะคล้ายๆกัน ก็คือต้องไปยึดเอาธงของฝ่ายตรงข้ามกลับมาที่จุดที่กำหนดไว้เพื่อทำคะแนน ใน DCUO นั้นก็จะเป็นลักษณะเดียวกัน โดยโหมดนี้จะมีให้เล่นได้ในแบบ 5 vs 5

กฏที่ต้องจำก็คือ เมื่อตัวละครใดทำการยก Element ขึ้นเพื่อที่จะนำกลับฐาน ตัวละครนั้นจะไม่สามารถใช้ Movement Mode ได้ และเมื่อ Element ถูกปล่อยลงพื้นไม่ว่าจะด้วยตัวคนถือเอง หรือจะโดนโจมตีจนหล่น ฝ่ายเจ้าของ Element สามารถส่ง Element กลับไปที่จุดเริ่มได้ด้วยการกด (E) ค้างที่ Element และสุดท้ายคือ กรณีที่ทั้ง 2 ฝ่ายขโมย Element มาพร้อมกัน ระบบจะไม่คิดคะแนนจนกว่าจะมี Element ใดถูกส่งกลับไปที่จุดเริ่ม

 

King of the Hill

– การทำคะแนน: ได้คะแนนจากการยึด Node และรักษาสถานะการยึดครองนั้นเอาไว้ ซึ่งคะแนนของฝ่ายตรงข้ามจะลดลงเรื่อยๆตราบใดที่ยังยึด Node เอาไว้ได้ รวมถึงการฆ่าฝ่ายตรงข้ามก็จะทำให้คะแนนของอีกฝ่ายลดลงด้วยเช่นกัน

– เงื่อนไขเอาชนะ: ตอนเริ่มต้น ทั้ง 2 ทีมจะมีคะแนนอยู่ 1,000 Point เท่ากัน หากทีมใดคะแนนหมดก่อนก็จะเป็นฝ่ายแพ้ หรือในกรณีที่เวลาหมด ทีมที่มีคะแนนเหลือมากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ
King of the Hill เป็นโหมดการเล่นที่คล้ายกับ Capture and Hold แต่จะแตกต่างกันที่ Node ในโหมดนี้จะค่อยๆปรากฏเพิ่มขึ้นทีละจุดจนครบ และการยึด Node นั้นจะต้องมีอย่างน้อง 1 ตัวละครยืนอยู่ที่ Node นั้นๆตลอดเวลา หากไม่มีตัวละครฝ่ายใดอยู่ที่ Node เลย Node จุดนั้นจะกลายเป็น Natural ซึ่งจะไม่ส่งผลต่อคะแนนของฝ่ายใด
นั่นหมายความว่า เมื่อเกมดำเนินไปซักช่วงหนึ่งแล้ว ฝ่ายผู้เล่นที่เฝ้ารักษา Node เอาไว้ได้ก่อนจะเริ่มลำบากในการแบ่งคนเพื่อไปยึด Node เพิ่ม และทิ้งคนเอาไว้ที่ Node เดิม
ทั้งหมดนี้คือความมันส์รูปแบบใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในช่วง OBT 15 กรกฎาคม 57 เหล่าเกมเมอร์สามารถติดตามรายละเอียดของ DC Universe Online ได้ที่ http://dcuo.playpark.com/th/