ข้อมูลจำเพาะของคีย์บอร์ด
วัสดุและรูปทรงภายนอก
ระบบของปุ่มกด: Mechanical
การเชื่อมต่อ: USB
แสงบนปุ่มคีย์บอร์ด: 16.8 ล้านสี
ปุ่ม Multimedia: 6 ปุ่ม
พอร์ตเสริม: USB 1 Port, Audio, Mic
ประเภทสาย: ไนลอนถัก
การเซ็ตค่าปุ่มบนคีย์บอร์ด
ตั้งมาโคร: ทำงานได้
เซ็ตมาโครบนปุ่มที่ใช้พิมพ์: ทำงานได้
แก้ไขเวลาหน่วงระหว่างมาโคร: ทำงานได้
จำนวนโปรไฟล์ที่ตั้งได้: ไม่จำกัด
คีย์บอร์ดตัวนี้อัพเกรดจาก Blackwidow Ultimate โดยการเพิ่มสีสันแสงไฟบนปุ่มคีย์บอร์ดให้หลากหลาย เบื้องต้นตัวเคสเป็นแบบดำด้าน มีความทนทานสูง น้ำหนักอยู่ที่ 1.5 kg วางยึดกับโต๊ะได้อย่างดี มีพอร์ท USB 1 ช่อง, เสียงและไมค์ให้เชื่อมต่อจากตัวคีย์บอร์ดได้เลย
แสงไฟ Backlight เป็นจุดเด่นของ Razer Blackwidow Ultimate Chroma เราสามารถเลือกตั้งสีแต่ละปุ่มบนคีย์บอร์ดเองได้เลยว่าจะให้ปุ่มไหนเป็นสีอะไร เลือกการกระพริบได้หลายแบบ ทั้งยังมีแบบ Wave ที่ไล่สีรุ้งจากซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้ายได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีรูปแบบอื่นๆ ให้เลือกใช้ด้วยเช่น FPS, RTS, MOBA, MMO ซึ่งจะมีแสงขึ้นมาตามปุ่มที่ใช้งานของแต่ละแนวเกม ยอมรับเลยว่าแสงสีของคีย์บอร์ดตัวนี้สวยงามและเลือกใช้ได้หลากหลายจริงๆ
สวิตช์เป็น Mechanical แบบพิเศษสีเขียวที่ Razer ทำขึ้นมาเอง ให้สัมผัสแตกต่างจากสวิตช์ทั่วไปคือต้องออกแรงกดพอสมควร มีการดีดกลับที่ดีมากๆ ทำให้กดรัวไม่ยากเลย ปุ่มลึก 2 จังหวะคล้ายสวิตช์ฟ้า และมีเสียงตอนพิมพ์ดังเหมือนกัน อีกจุดเด่นนึงของสวิตช์ตัวนี้อยู่ตรงความทนทานที่การันตีการใช้งาน 60 ล้านครั้ง ซึ่งมากกว่าสวิตช์ Mechanical ทั่วไปถึง 10 ล้านครั้งเลยทีเดียว การ Anti-Ghosting หายห่วงกดพร้อมกันกี่ปุ่มก็ได้ จากที่ทดลองใช้งานพบว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่และให้สัมผัสดีสุดๆ ไปเลย
รุ่นนี้ใช้ Razer Synapse 2.0 ในการปรับเปลี่ยนค่าคีย์บอร์ด เลือกตั้งค่าได้หมดไม่ว่าจะเป็นมาโคร, แสง, Gaming Mode ทั้งยังเก็บสถิติการใช้งานได้อีกด้วย โดยรวมแล้ว Blackwidow Ultimate เป็นรุ่นที่มีความสามารถครบเครื่องสุดในตระกูล Blackwidow พอมาทำแบบ Chroma จึงกลายเป็นคีย์บอร์ดที่น่าใช้งานอย่างมาก ต้องขอขอบคุณทาง ARC เป็นอย่างสูงด้วยครับที่นำคีย์บอร์ดตัวนี้มาให้ทดสอบกัน