[Review] Darksiders Genesis จุดเริ่มต้นแห่งสงครามสุดเดือดระหว่างเทพและปิศาจ

หลังจากที่ปล่อยให้ชาว PC ได้มันส์กันไปก่อนแล้วในเกม Darksiders Genesis ล่าสุดเวอร์ชั่นของคอนโซลก็ถูกปล่อยออกมาให้เล่นกันเรียบร้อยแล้วทั้งบน Nintendo Switch, PlayStation 4, และ Xbox One ซึ่งในไทยเองก็มีแบบแผ่นออกมาวางจำหน่ายให้ได้ซื้อกันแล้ว บอกเลยว่าใครที่เป็นแฟนของซีรี่ส์ Darksiders ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

Darksiders เป็นเกมที่มักจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของ Gameplay ให้พวกเราได้เห็นกันอยู่ทุกภาค ซึ่งในภาคใหม่อย่าง Darksiders Genesis นี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้ง ทั้งในส่วนของมุมมองในการเล่นและเรื่องการเล่นแบบ Co-op รวมถึงการใช้ Unreal Engine 4 ที่ได้กราฟิกสวยงามและการเล่นที่ไหลลื่น เป็นผลงานการพัฒนาโดยสตูดิโอ Airship Syndicate และได้ทาง THQ Nordic มารับหน้าที่ในการจัดจำหน่าย

เรื่องราวภายใน Darksiders Genesis ภาคนี้ได้นำเสนอจุดเริ่มต้นของเรื่องราวไตรภาคที่ผ่านมา โดยเล่าถึงจอมปิศาจ Lucifer ที่กำลังวางแผนบางอย่างเพื่อที่จะทำลายความสมดุลของทุกภพภูมิลง และได้มอบพลังอำนาจให้กับพวก Master Demons เพื่อรวบรวมกองกำลังในการบรรลุเป้าหมายในครั้งนี้ ส่วนทางตัวเอกนั้นเราจะได้รับบทเป็น War และ Strife สองในสี่จตุรอาชา (Horsemen) ที่ได้รับคำสั่งจาก The Council เพื่อไปหยุดยั้งในเรื่องนี้ แต่เมื่อสืบลึกเข้าไปเรื่อยๆ กลับพบเรื่องที่เหนือความคาดหมายยิ่งกว่านั้น ส่วนจะเป็นยังไงต้องไปติดตามกันต่อในเกมครับ โดยส่วนของคัทซีนในเกมนั้นจะเล่าผ่านฉากที่เป็นเหมือนกับหนังสือการ์ตูน และการพูดคุยแบบสนทนากันระหว่างตัวละคร ไม่ได้ใช้เรื่องของ CG แบบในภาคก่อนๆ ทำให้ดูแปลกและก็เท่ห์ไปอีกแบบ แต่ก็ช่วยให้ติดตามเรื่องราวได้อย่างเข้าใจไม่ยาก

รูปแบบการเล่นของ Darksiders Genesis ยังคงเป็นเกมที่เน้นฉากเอคชั่น Hack and slash สุดมันส์เช่นเดิม แค่เปลี่ยนมุมมองในการเล่นไปเป็น Bird Eye View แบบมองจากที่สูงลงมาหรือให้นึกภาพง่ายๆ เลยก็จะคล้ายกับสไตล์ของเกม Diablo นั่นเอง ตัวละครเองหากเราเล่นโหมดเนื้อเรื่องคนเดียวก็สามารถสลับไปมาได้ระหว่าง Strife ที่มีอาวุธปืนไว้โจมตีระยะไกล กับ War ที่ใช้ดาบใหญ่โจมตีระยะใกล้ โดยสามารถสลับไปมาได้ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันก็ยังมีโหมด Local Co-op แบบแบ่งหน้าจอแนวตั้งไว้เล่นสองคนหรือจะ Co-op กันแบบออนไลน์กับเพื่อนก็ได้ ซึ่งตรงส่วนนี้ทำให้ความสนุกของเกมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตัวยังมีระบบ Creature Corse หรือ Skill Trees ไว้สำหรับอัพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถของตัวละครได้ โดยใช้ Material ที่หาได้จากการผจญภัยมาใช้ในการอัพเกรด รวมถึงใช้ค่า Soul เพื่อมาปลดล็อก Shard และ อัพเกรด Passive ของตัวละครด้วย รวมถึงยังมีม้าให้คอยขี่เพื่อให้เคลื่อนที่ตามฉากได้อย่างรวดเร็ว

โดยรวมแล้ว Darksiders Genesis เป็นเกมที่เล่นง่ายไม่ยุ่งยาก เน้นการฟาดฟัน Hack and slash เดินหน้าลุยอย่างดุเดือด เพิ่มเติมมาด้วยการเล่น Co-op ที่ทำให้เกมสนุกขึ้น แถมในแต่ละด่านเองก็ยังมีปริศนาให้คอยแก้ไขอยู่เรื่อยๆ ใครชอบเกมเดินหน้าฟันแหลกจะเอาไปเล่นคนเดียวหรือเล่นกับเพื่อนก็ซื้อไปเล่นเพลินๆ ได้ครับ