[Review] Resident Evil Village มาพร้อมความสยองขวัญแบบจัดเต็ม ไม่ทำให้เหล่าสาวกต้องผิดหวัง

5,870 views
Share

จนถึงตอนนี้คาดว่าหลายคนก็คงจะเล่นจบกันไปแล้วสำหรับเกม Resident Evil Village ซึ่งเป็นภาคใหม่ล่าสุดของซีรีส์ผีชีวะ และนับว่าเป็นภาคที่ทาง Capcom กล้าที่จะหยิบเรื่องราวจากภาคที่ 7 มาเล่าต่อให้ได้เล่นกัน โดยนับว่าเป็นครั้งแรกที่เนื้อเรื่องของภาคถัดมาจะต่อกันจากภาคที่แล้วด้วย โดยวันนี้เราจะมารีวิวกับเล่าความรู้สึกในการเล่นภาคนี้จนจบมาให้อ่านกันครับ

Resident Evil Village ยังคงพัฒนาขึ้นมาโดย Capcom แต่เป็นการเปลี่ยน Director มาเป็นคุณ Morimasa Sato และได้ยอดฝีมืออย่างคุณ Antony Johnston มารับหน้าที่ในการเขียนบทให้โดยผลงานที่ผ่านๆ มาคือการเขียนบทให้ทั้ง Shadow of Mordor, ZombiU และ Dead Space ทุกภาค ซึ่งบอกเลยว่าพอเล่นจบแล้วคงมีคนลุกขึ้นมาปรบมือให้กับบทของเกมในภาคนี้ที่มีครบทุกรสได้อย่างแน่นอน

กราฟิก
สำหรับสิ่งที่แรกที่ขอพูดถึงกันก่อนก็คือกราฟิกในเกมยังมีการใช้ RE Engine เหมือนกับภาคที่ 7 แต่มีการพัฒนาและปรับปรุงใหม่ในหลายๆ ส่วน มันก็เลยทำให้งานภาพออกมาดูดีมาก ทั้งรายละเอียดของฉาก แสงเงา หรือบรรยากาศโดยรวมที่ชวนขนลุก ซึ่งแน่นอนเมื่อมุมมองในการเล่นยังเป็นแบบ FPS เหมือนกับภาคที่แล้ว มันก็ยิ่งทำให้เราเข้าถึงประสบการณ์อันตื่นเต้นและน่ากลัวได้แบบสมจริงกว่ามุมมองแบบ CCTV แม้ว่าบางคนจะมีอาการปวดหัวและไม่ถูกกับมุมกล้อง FPS อยู่บ้าง ส่วนเรื่องเสียงในเกมนี้ก็ยังคงทำให้เราหวาดระแวงได้ตลอดเวลา ยิ่งบางฉากที่เงียบๆ ก็สร้างความกดดันได้อย่างดีเลยล่ะครับ

เรื่องราว
อย่างที่บอกไปแล้วว่านี่คือการหยิบเรื่องราวจากภาคที่ 7 มาสานต่อและเล่าเหตุการณ์ต่อมาว่าจะเกิดอะไรขึ้นในภาคที่ 8 นี้ มันก็เลยยิ่งทำให้เราอินกับตัวตัวละครเก่าๆ ที่เพิ่งได้เล่นไป ซึ่งเราจะยังคงได้เล่นเป็น “Ethan Winters” ที่หนีไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับภรรยา “Mia” และมีลูกด้วยกันหนึ่งคนชื่อว่า “Rosemary” จนวันหนึ่ง “Chris Redfield” ก็ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาและพรากลูกไปจากอีธานจนเราต้องเดินทางออกไปตามหาและหาคำตอบให้ได้ว่ามันเกิดบ้าอะไรขึ้นตามตัวอย่างของเกมที่ได้เห็นกัน ส่วนใครอยากรู้ทางเราก็ไม่ขอสปอยนะครับ ไปหาซื้อมาเล่นกันได้รับรองว่าคุ้มค่า

เกมเพลย์
รูปแบบในการเล่นของภาคนี้จะเหมือนกับภาคที่ 7 คือเป็นมุมมองแบบ FPS ยิงซอมบี้และแก้ปริศนาต่างๆ ตามสไตล์ของ Resident Evil แต่เปลี่ยนจากบ้านแคบๆ หรือพื้นที่ขนาดเล็กมาเป็นหมู่บ้านที่กว้างใหญ่ซึ่งมีทางเชื่อมต่อไปยังอีกหลายสถานที่ เช่น ปราสาทของแวมไพร์สาว Lady Alcina Dimitrescu และบรรดาลูกๆ ของเธอ ด้วยความที่แผนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจึงทำให้เรามีเวลาในการสำรวจมากขึ้น ค้นพบเส้นทางใหม่ๆ ที่เชื่อมต่อกัน แต่ก็ยังคงแฝงไปด้วยความน่ากลัวและบรรยากาศของแต่ละสถานที่ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

นอกจากอาวุธปืน ยาหรือการคราฟของแล้ว ระบบการจัดการทรัพยากรยังคงคล้ายกับภาคเก่าๆ โดยเรายังสามารถซื้อขายอาวุธและไอเทมได้ (คล้ายกับ RE4) ผ่านพ่อค้าที่ชื่อว่า Duke และยังสามารถล่าสัตว์บางชนิดในหมู่บ้านเพื่อนำมาปรุงเป็นอาหารได้ โดยการกินอาหารจะทำให้ผู้เล่นได้รับประโยชน์แบบถาวรให้กับตัวละคร เช่นเพิ่มเลือดสูงสุด หรือเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ เป็นต้น

การต่อสู้กับศัตรูในภาคนี้จะมีหลากหลายรูปแบบมาก ทั้งยิงโจมตีซึ่งหน้าหรือจะอาศัยการป้องกันและพลักศัตรูออกเพื่อหลบหนีก็ทำได้ โดยศัตรูในแต่ละสถานที่ก็จะค่อนข้างแตกต่างกัน และยิ่งการต่อสู้กับศัตรูระดับบอสจะเป็นอะไรที่สะใจมากๆ เช่นกัน ส่วนปริศนาในภาคนี้ก็ถือว่าออกแบบมาได้ดีนะครับไม่ยากหรือง่ายจนเกินไป แถมเมื่อกดแผนที่ดูจะบ่งบอกด้วยว่าเราเก็บของในพื้นที่นั้นๆ ไปหมดหรือยัง เช่นสีแดงคือยังไม่หมด ถ้าเก็บหมดแล้วจะเป็นสีฟ้า เป็นต้น

สรุปภาพรวม
หลังจากเล่นจบไปแล้วต้องยอมรับว่า Resident Evil Village คือภาคที่ประทับใจที่สุดของผู้เขียนและเชื่อว่าหลายคนที่ได้เล่นก็คงจะชอบเช่นกัน มันเป็นภาคที่มีครบรสทุกอารมณ์ มีบทและเรื่องราวที่ชวนติดตาม และแถมเกมนี้ยังมีภาษาไทยจากทาง Capcom มาให้ด้วยยิ่งเล่นกันเข้าถึงเนื้อเรื่องกันมากขึ้น โดยหากใครที่เล่นจบก็จะมีโหมด The Mercenaries ให้เล่นเก็บคะแนนเพื่อปลดล๊อคไอเทมกันด้วย พร้อมกับในอนาคตก็จะมีการเปิดให้เล่นฟรีอีกหนึ่งโหมดคือ Resident Evil Re:Verse

Resident Evil Village มีวางจำหน่ายให้เล่นกันแล้ววันนี้พร้อมกับการรองรับภาษาไทย สามารถหาซื้อมาเล่นกันได้ทั้งบน PC, PS4, PS5, Xbox One, Xbox Series X/S และ Stadia

Share

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Ragnarok Online x Sonic the Hedgehog ชวนคุณย้อนวัยออกผจญภัยแบบ HI – SPEED พร้อมกันได้แล้ววันนี้
Dokapon: Sword of Fury remaster ประกาศเปิดตัวสำหรับ Nintendo Switch
Lords of the Fallen อัปเดตเวอร์ชั่น 1.5 ในชื่อ Master of Fate
SaGa Emerald Beyond พร้อมปล่อย Demo เนื้อหาพิเศษให้ลองบน PS4, PS5 และ Nintendo Switch
Histera เกม FPS แนว fast-paced ปล่อยตัวอย่างใหม่พร้อมเผยวัน Early Access
Metaphor: ReFantazio ยืนยันวางจำหน่ายทั่วโลก 11 ตุลาคม 2024