[Review] Saints Row แกงค์สีม่วงสุดป่วน ฉบับรีบูทใหม่

ชื่อของ Saints Row คงเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์เกมแนว Open World ที่หลายคนชอบและเคยสัมผัสความมันส์ในแบบฉบับของมันมาบ้างแล้ว ในครั้งนี้ชาวแกงค์สีม่วงกลับมาอีกครั้งแต่มันไม่ได้เป็นจักรวาลหลักเหมือนที่คุ้นเคย เพราะทีมพัฒนา Deep Silver Volition จับแฟรนไชส์นี้มารีบูตใหม่ที่เป็นการรีบูตจริงๆ คือให้ลืมทุกอย่างที่เกี่ยวกับ Saints Row ไปให้หมด ถึงใครจะเล่นมาทั้ง 4 ภาคแล้วก็โยนมันทิ้งไปซะ เพราะ Saints Row เวอร์ชั่นนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นและการปูเรื่องราวของแกงค์สีม่วงใหม่ทั้งหมดให้อิงกับโลกและสถานการณ์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งวันนี้เราจะมารีวิวเกมนี้พร้อมกับความรู้สึกหลังจากที่ได้เล่นให้ได้อ่านกันเหมือนเช่นเคยครับ

เรื่องราว
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาคนี้จะถูกย้ายมาเริ่มต้นกันที่เมืองกลางทะเลทรายอย่าง Santo Ileso ที่ดูๆ ไปก็คล้ายกับ Las Vegas อยู่เหมือนกัน ในเมืองนี้มีฝ่ายที่มีอำนาจอยู่ 3 พวกใหญ่ๆ คือ กองทหารรับจ้าง Marshall Defense Industries, แกงค์ซิ่ง Los Panteros และ The Idol แกงค์ไนท์คลับสายปาร์ตี้ซึ่งต้องการปลดปล่อยผู้คนจากทุนนิยม ส่วนตัวเราเองจะมีฉายาว่า The Boss ที่รวมกลุ่มอยู่กับเพื่อนอีก 3 คนคือ Neenah, Kevin และ Eli ที่ประเด็นสำคัญคือเพื่อนรวมถึงตัวเรานี่แหละที่ทำงานแยกกันอยู่ในทั้งสามแกงค์ดังกล่าว แน่นอนนั่้นหมายความว่าอยู่คนละฝั่งกันหมด แต่วันดีคืนดีทั้งสามแกงค์เกิดถล่มกันเอง ทำให้แต่ละคนต้องแยกตัวออกมาและมารวมตัวกันตั้งชื่อแกงค์ใหม่ว่า The Saints

หลังจากที่ลองเล่นไปแล้วพบว่าเนื้อเรื่องของเกมในภาคนี้มาแหวกแนวกว่าภาคเก่าๆ ทั้งหมดที่เน้นเรื่องธุรกิจอาชญากรรมเป็นหลัก การทำผิดกฎหมาย ไม่ก็หลุดโลกกันไปเลย แต่ในภาคนี้ประเด็นหลักที่หยิบมาเป็นแก่นของเรื่องก็คือ “มิตรภาพระหว่างผองเพื่อน” เราจะได้เห็นการเติบโตของแกงค์ The Saints ตั้งแต่การอยู่ในห้องเช่ารูหนูไปจนถึงตอนมีฐาน HQ หลัก และยังมีการเล่าเรื่องผ่านการทำภารกิจต่างๆ ที่เหมือนกับหนังวัยรุ่นผสม Action Comedy แบบเติมกาวเข้าไปหนักๆ จะเรียกว่าขายขำก็ไม่ผิด การกระทำของตัวละครแต่ละตัวก็เอามาจากวัยรุ่น Gen Z ที่พบเห็นได้ในปัจจุบันนี่แหละ งานนี้อาจจะทำให้แฟนๆ Saints Row ที่เล่นภาคเก่าๆ มาก่อนไม่ค่อยชอบอย่างแน่นอน

เกมเพลย์
เกมเพลย์ในภาคนี้เริ่มต้นจากการให้ผู้เล่นได้สร้างตัวละครที่สามารถเลือกได้ว่าจะเล่นเพศไหน มีปรับแต่งรูปร่างหน้าตากับพวกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายให้ใช้กันเต็มที่ และสามารถปลดล๊อคหรือซื้อหาจากในเกมได้ตลอดทั้งเกม ทางด้านเกมเพลย์หลักก็ตามสไตล์เลยคือเป็นเกม Action Open world ผ่านมุมมองบุคคลที่สามเหมือนกับในภาคเก่าๆ ที่จะว่าไปก็ไม่มีความต่างหรือความแปลกใหม่อะไรนักในส่วนของเกมเพลย์ โดยเราจะต้องทำทั้งภารกิจแบบทั้งหลัก ทั้งเสริม ที่เน้นไปในเรื่องของการยิงแหลก บู๊ระห่ำ ถล่มระเบิดภูเขาเผากระท่อม โดยเฉพาะการเพิ่ม Gunplay ในส่วนของการขึ้นไปอยู่บนหลังคารถและคอยถือปืนสาดกระสุนใส่ศัตรูไปด้วยถือเป็นของใหม่จากภาคนี้ที่ใส่เพิ่มเข้ามาแล้วมันส์สะใจอยู่เหมือนกัน ส่วนความยากของศัตรูในเกมนี้บอกได้เลยว่าง่ายมาก AI ก็ไม่ฉลาด ไม่มีหลบไม่มีแผนอะไรทั้งนั้น แถมฝั่งเราเองก็มี AI กลุ่มเพื่อนที่จัดว่าเก่งเอาการ เลยทำให้รู้สึกว่าการบู๊แต่ละทีนั้นเน้นชิลๆ เอามันส์เสียมากกว่า

ภารกิจหลักๆ เลยจะเป็นการรับงาน ออกไปลุย แล้วจบภารกิจรับรางวัล แต่สิ่งที่ส่วนตัวแอบชอบมากก็คือพวกภารกิจเสริม ที่ดูหลายย่างจะเข้ากับโลกจริงๆ ในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะการรับงานมารีวิวบอมม์ร้านอาหาร ให้ดาวน้อยๆ จนมีการส่งมาเฟียมาตามกระทืบ หรือพวกการหาเงินบางอย่างที่มีเรื่องเกี่ยวกับการเทรดบิตคอย การวางจุดธุรกิจต่างๆ ไว้ในเมืองเพื่อทำรายได้ เป็นต้น แต่จะว่าไปแล้วแผนที่ Open world ในภาคนี้แอบรู้สึกว่ามันเล็กและไม่ได้กว้างแบบในภาคก่อนๆ ยิ่งมีรถแรงๆ ให้ขับ มี Fast Travel ให้ใช้ด้วยแล้วยิ่งรู้สึกว่าเมืองมันแคบไปเลย โดยตัวเราจะมีการจัดการทุกอย่างผ่านทางสมาร์โฟน ไม่ว่าจะการดูแผนที่ การรับภารกิจ หรือการอัพพวกสกิลกับ Perk เป็นต้น ซึ่งก็ดูยิ่งเข้ากับยุคปัจจุบันจริงๆ

กราฟิก
ในส่วนของกราฟิกในเกมนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้สวยงามในระดับหนึ่ง แต่ไม่ถึงกับว้าวอะไรมาก สภาพแวดล้อม บ้านเมืองก็ดูใช้ได้ ยิ่งต้นกลางคืนนี่สีสันจัดเต็มสุดๆ ส่วนโมเดลตัวละครเองก็ดูทำมาแบบหยาบๆ อยู่เหมือนกัน ฉากแผนที่บางจุดก็มีอาการโหลดไม่ทันให้เห็นอยู่บ่อยๆ แถมบอกเลยว่าในตอนที่เล่นนี่เกมเต็มไปด้วยบั๊กจริงๆ ไม่ว่าจะกดยิงปืนไม่ได้ กดขึ้นรถไม่ได้ บางทีขึ้นแล้วตัวเราลอยอยู่ก็มี นี่ไม่นับเรื่องของระบบฟิสิกส์ในเกมที่บางทีก็ไม่รู้ทีมพัฒนาเค้าตั้งใจหรือมันบั๊ก บางทีเล่นไปก็นั่งขำอยู่คนเดียวก็มี การเลือกปรับกราฟิกในเกมนี้ถ้าใครเล่นบน PS5 แนะนำว่าให้เลือกปรับแบบเน้นเฟรมเรทเล่นได้ลื่นๆ ไปจะดีที่สุด เพราะถ้าเลือกเน้นภาพแล้วล่ะก็คุณจะพบกับแฟรมเรทที่ต่ำติดดิน

สรุปโดยรวมแล้ว Saints Row ภาครีบูตนี้เป็นเกมที่ไม่ได้แย่ แต่รู้สึกเหมือนมันยังดีได้กว่านี้อีก มันเป็นเกมเล่นสนุกเพลินๆ เต็มไปด้วยการออกไปยิง สาดกระสุน ถล่มเละแบบสะใจ มีมุขตลก มีภารกิจกาวๆ และเรื่องราวความสัมพันธ์ของกลุ่มวัยรุ่นช่วงสร้างตัวและการตั้งแกงค์ให้เราได้ติดตาม ซึ่งพอมารวมกันแล้วมันสนุกเฉย สนุกแบบอย่าไปคิดอะไรมาก ใครที่กำลังหาเกมเล่นมันส์ๆ ชิลๆ ก็ลองไปหามาเล่นกันได้ครับ เกมมีวางจำหน่ายให้เล่นกันเรียบร้อยแล้ว