[Review] Marvel’s Spider-Man 2 การกลับมาอันน่าตื่นเต้นและเร้าใจของสองคู่หูไอ้แมงมุม

2,212 views
Share

กลับมาสานต่อความสนุกได้อย่างยิ่งใหญ่เลยทีเดียวสำหรับเกม Marvel’s Spider-Man 2 ผลงานอันสุดยอดของทีมพัฒนา Insomniac Games ที่ตอนนี้ก็วางจำหน่ายให้แฟนๆ ได้เล่นกันเรียบร้อยแล้วบน PlayStation 5 เท่านั้น หลังจากที่ทางผู้เขียนได้เล่นเกมนี้จนจบแบบ 100% แล้ว วันนี้จะมารีวิวรายละเอียดของเกมและความรู้สึกให้ได้อ่านกันครับ

Marvel’s Spider-Man 2 จากที่เคยประกาศเปิดเผยข้อมูลออกมาว่าเราจะได้เล่นเป็นปีเตอร์ ปาร์กเกอร์และไมลส์ โมราเลสก็ยิ่งทำให้ต่อมความอยากเล่นนั้นพุ่งกระฉูดเลยทีเดียว คิดดูว่าเราจะได้เล่นเป็นไอ้แมงมุมสลับไปมาในเมืองใหญ่อันเปิดกว้าง ทำภารกิจไปพร้อมกับฟีเจอร์และลูกเล่นใหม่ๆ ที่ต่อยอดเข้ามาในภาคนี้จะเป็นอะไรที่น่าลิ้มลองขนาดไหน ซึ่งหลังจากที่ได้เล่นแล้วบอกเลยไม่ผิดหวังและคุ้มค่าสำหรับเงินที่ซื้อภาคนี้มาเล่นแน่นอน

เรื่องราว (ไม่สปอย)
ในส่วนของเรื่องราวในภาคนี้เราจะสามารถเล่ยสลับไปมาระหว่างปีเตอร์และไมลส์ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว โดยเกิดขึ้นหลังผ่านจากภาค Miles Morales มาร่วมหลายเดือนแล้ว ซึ่งเรื่องราวในส่วนของปีเตอร์นั้นจะเน้นไปที่ชีวิตวัยทำงาน ความรับผิดชอบ และการเสียสละ พร้อมกับเนื้อหาที่ดรามากินใจ ที่บอกเลยว่าปัญหาชีวิตต่างๆ พากันเข้ามาถล่มปีเตอร์แบบจุกกันไปข้าง ดูซีเรียสจริงจังมากกว่าภาคแรกขึ้นหลายเท่าตัว บ่งบอกถึงความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น

ในขณะที่ฟากฝั่งของไมลส์นั้นถ้าใครที่เล่นภาคก่อนหน้านี้มาจะเห็นว่าเป็นเรื่องราวการเปลี่ยนผ่านจากช่วงวัยรุ่น และการค้นหาตัวตนบวกกับดราม่าในชีวิตที่หนักหน่วง แต่สำหรับในภาคใหม่นี้เรื่องราวของไมลส์จะเป็นการมีส่วนร่วมกับชุมชนมากขึ้น มิตรภาพของเพื่อนฝูง และการทำภารกิจให้กับสถาบันการเรียน และยังคงเป็นฝั่งที่มีมุขตลกสอดแทรกอยู่พอสมควรให้ผู้เล่นได้เฮฮาอยู่บ้าง และเป็นคนที่ต้องคอยช่วยเหลือสนับสนุนปีเตอร์อย่างมาก

จังหวะการเล่าเรื่องราวของภาคนี้ถูกวางบทมาอย่างดีเยี่ยม ถือเป็นจุดแข็งของเกมจาก Sony PlayStation ที่ทำได้ดีในทุกเกม มีการแบ่งช่วงในการดำเนินเรื่องได้ต่อเนื่องและพาผู้เล่นอินไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมได้ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉากเอคชั่นคัทซีนทำมาได้ตื่นเต้น อลัง ยิ่งกว่านั่งดูภาพยนต์ ฉากดราม่าก็ทำมาได้กินใจสุดๆ งานนี้ต้องลองไปพิสูจน์กันเอาเองครับรับรองไม่ผิดหวัง

เกมเพลย์
สำหรับเกมเพลย์โดยรวมถ้าใครที่เคยเล่นภาคแรกมาก่อนก็จะคุ้นเคยกันดี ในรูปแบบของ Action adventure Open World โดยมีฉากหลังเป็นมหานครใหญ่อย่าง New York ที่แบ่งพื้นที่เป็นสองส่วนคือ ย่าน Queen และ Brooklyn ซึ่งถ้าจะพูดกันตรงๆ ตัวเกมไม่ได้สร้างความตื่นเต้นหรือความแตกต่างจากภาคแรกมากนัก เพราะมันยังคงการเล่นแบบเดิม เพียงแต่มีการต่อยอดเพิ่มลูกเล่นท่าทางสกิลใหม่ๆ เข้ามา ตัวอย่าง เช่น การโหนใยของไอ้แมงมุมเองในภาคนี้มีเพิ่มความสามารถในการร่อนไปในอากาศด้วย web wings ซึ่งช่วยเพิ่มสีสันในการเคลื่อนที่ได้อย่างดีและดูรวดเร็วขึ้นด้วย เพราะถ้าเราร่อนไปเจอตรงที่สายลมพัดก็จะช่วยทำให้เร็วขึ้นไปอีก แต่ตัวเกมก็มี Fast Travel ให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

เราสามารถสลับไปมาระหว่างปีเตอร์และไมลส์ได้ตลอดเวลาในฉาก Open World ของเมือง ซึ่งจะมีบางภารกิจที่สามารถทำได้เฉพาะปีเตอร์หรือไมลส์เท่านั้นด้วย โดยทั้งคู่จะมีสไตล์และสกิลในการต่อสู้ที่แตกต่างกันไป ซึ่งให้อารมณ์ในการเล่นที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ซึ่ง Skil Tree จะถูกแยกออกเป็น 3 สาย คือ ปีเตอร์, ไมลส์ และสายสุดท้ายก็คือสกิลร่วมกัน อย่างไรก็ตามเลเวลของทั้งคู่จะไม่แยกกันเป็นการใช้ร่วมกันไปเลยทำให้ค่อนข้างลำบากใจในช่วงแรกๆ ว่าจะอัพสกิลให้กับตัวละครไหนดี ส่วนพวกอุปกรณ์ Gadget ต่าง ๆ ก็จะใช้ร่วมกันด้วย ในขณะที่ชุดสกินของไอ้แมงมุมในภาคนี้จะมีเยอะมากๆ แบบเยอะมากกกกกกก ให้เราได้ปลดล๊อคมาใช้งาน แต่ชุดจะไม่มีความสามารถใดๆ ใส่เพื่อความสวยงามเท่านั้น ส่วนสิ่งที่เพิ่มมาในการต่อสู้อีกอย่างของภาคนี้ก็คือระบบ Parry ที่ช่วยทำให้การต่อสู้ดูท้าทายขึ้นมากเช่นกัน

กราฟิก
ด้วยขุมพลังของ PS5 ทำให้กราฟิกของ Marvel’s Spider-Man 2 นั้นสวยงามและสมจริงขึ้นมาก ทั้งเรื่องแสงสี โมเดล เงา แสงสะท้อน โดยเฉพาะ Ray Tracing ที่ให้รายละเอียดสมจริงจนสายถ่ายรูปน่าจะเพลินเลยทีเดียว แถมภาคนี้รู้สึกได้ชัดเจนเลยว่าเมือง New York ดูมีชีวิตชีวามาก ทั้งผู้คนในเมือง การปฏิสัมพันธ์ ให้อารมณ์เหมือนเราเข้าไปอยู่ในเมืองนั้นจริงๆ แถมการแสดงสีหน้าแววตาของตัวละครก็สมจริงสื่อถึงอารมณ์ได้อย่างดีเลยทีเดียว

สำหรับเรื่องกราฟิกในรอบนี้ตัวเกมมาพร้อมกับโหมดความแม่นยำที่กำหนดเฟรมเรทอยู่ที่ 30FPS และนำเสนอคุณภาพและความละเอียดของภาพในระดับสูงสุด รวมไปถึงเปิดใช้งานคุณสมบัติ Ray Tracing ทั้งหมด รวมไปถึงความหนาแน่นของผู้คนกับการจราจรในเมืองด้วย ใครชอบภาพสวยๆ โหมดนี้ภาพจะจัดเต็มมากละเอียดยันเส้นผม ยิ่งถ้าใครเล่นบนจอหรือมอนิเตอร์ที่รองรับ 120Hz บอกเลยสวยสุดๆ ส่วนกราฟิกอีกโหมดคือโหมดประสิทธิภาพจะให้เฟรมเรทอยู่ที่ 60FPS ทำให้การเคลื่อนที่หรือต่อสู้นั้นไหลลื่นไม่มีสะดุด เพียงแต่ว่าจะลดทอนในเรื่องของกราฟิกลง อยู่ที่ว่าใครจะเลือกเล่นแบบไหน

สรุปภาพรวมของ Marvel’s Spider-Man 2 ถือเป็นการกลับมาได้อย่างยิ่งใหญ่ ทั้งในเรื่องของกราฟิก เกมเพลย์ และเนื้อหาที่ทีมพัฒนาใส่มาจัดเต็มทั้งเฮฮา ดราม่า และสิ่งเซอร์ไพรส์มากมาย ภารกิจเนื้อเรื่องกับภารกิจย่อยก็สนุกน่าสนใจ ในส่วนที่สำคัญอย่างการรองรับภาษาไทยของเกมนี้ก็อยู่ในคุณภาพที่แปลออกมาได้ดี แต่แอบมีการตัดคำที่ติดขัดบ้าง หรือซับขึ้นมาช้าเร็วบ้าง คงต้องรอให้ทางทีมงานอัพแพทช์แก้ในภายหลัง ใครที่เป็นแฟนของเกมนี้บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาดครับ

Share

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดตัว Jurassic Park: Survival เตรียมลงให้เล่นกันทั้งบนพีซีและคอนโซล
Skull and Bones ประกาศทดสอบครั้งใหม่พร้อมยืนยันวางจำหน่าย 16 กุมภาพันธ์ 2024
Rise of the Ronin ปล่อยตัวอย่างใหม่พร้อมเผยวันวางจำหน่าย
Mecha BREAK เกมแนวหุ่นยนต์ Action ประกาศลงคอนโซลและพีซี
God of War Ragnarok พร้อมส่งฟรี DLC Valhalla ให้แฟนๆ ได้มันส์
Bethesda Softworks ประกาศเปิดตัว Marvel’s Blade นักล่าราตรี