WoWS เลือกระสุนให้ถูกแล้วยิงให้โดนจมได้แน่นอน

เล็งให้แม่นแล้วยิงให้โดน
…….สิ่งแรกเลยที่จะทำให้เพื่อนสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงนั้นก็คือต้อง…. ยิงให้โดนก่อน 5555+ อันนี้ไม่ใช่มุกแต่อย่างใดเพราะมันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม หุหุ ซึ่งการจะยิงให้โดนนั้นเราก็จะต้องทำการเล็งเป้าก่อน ซึ่งจังหวะนี้แหละ ปุ่ม Alt จะมีความสำคัญขึ้นมาทันที ก็เพราะเมื่อกด Alt จะแสดงรายละเอียดต่างๆ ของเป้าหมายขึ้นมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชื่อ ระดับชั้น ระยะห่าง องศาปืน เวลาที่กระสุนถึงเป้าหมาย ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ล้วนมีผลต่อการเล็งทั้งสิ้น เราจะต้องคำนวณและกะระยะให้ถูก และจะต้องจำค่าต่างๆ ไว้ เนื่องจากบางครั้ง ถ้าเป็นผู้เล่นที่มิใช่มือใหม่ การเคลื่อนที่จะมีทั้งโยกซ้ายโยกขวาช้าบ้างเร็วบ้างสลับกันไป ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะทำให้เราเล็งยากนั่นเอง

การเลือกกระสุน
อย่างที่สองการเลือกกระสุน กระสุนของปืนใหญ่ในเกมจะมี อยู่ 2 แบบให้เพื่อนๆ ผู้การได้เลือกใช้ นั่นคือ

…….กระสุนเจาะเกราะ (AP) เป็นกระสุนที่ออกแบบมาเพื่อการทะลุทะลวงเจาะเกราะในส่วนที่หนาของตัวเรือ กระสุน AP หากเจาะเกราะเข้าและไปโดนจุดสำคัญจะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงแ ต่ถ้าหากยิงไปเจอเกราะที่หนาและไม่สามารถเจาะเข้าไปได้ก็อาจจะทำได้แค่สะกิดกระสุนไม่ระเบิด หรือไม่ก็เด้งออก ทำความเสียหายได้น้อย

…….กระสุนหัวระเบิด (HE) เป็นกระสุนมีความรุนแรงในการระเบิดสูง และทำให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย แต่กระสุน HE มีความสามารถในการเจาะเกราะที่ต่ำ หากยิงไปในส่วนที่แข็งจะทำให้สร้างความเสียหายได้น้อย แต่ถ้าโดนส่วนที่เกราะบางหรือจุดสำคัญอาจสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล อาจถึงขั้นชุดเดียวดับก็เป็นได้

คำนวณระยะห่างของเรือ
…….ระยะห่างของเรือก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการยิงเรือในระยะต่างๆ จะทำให้เกิดองศาของปืนและมุมที่ลูกกระสุนจะตก ทำให้ความเสียหายที่ได้ก็จะแตกต่างกันไป เช่น
การยิงระยะใกล้ จะทำให้เกิดวิถีกระสุนในแนวระนาบ ทำให้เกิดการเจาะเกราะได้ง่าย การเลือกใช้กระสุน AP ยิงใส่โมดูลที่สำคัญของเรือก็จะทำให้สร้างความเสียหายได้อย่างรุนแรง แต่การจะเข้าไปคลุกวงใน ซัดกันในระยะใกล้นั้นอาจจะมีความสี่ยงสูงที่จะโดนสวนกลับมาด้วยเช่นกัน

…….การยิงระยะกลางในจุดนี้องศาที่กระสุนจะโดนเรือส่วนใหญ่จะเจอเกราะในส่วนหน้าทำให้กระสุน AP อาจจะเด้งออกหรือไม่ก็ไม่สามารถเจาะเกราะได้ การเลือกใช้ HP เพื่อให้กระสุนระเบิดออกทำให้ไฟไหม้อย่างต่อเนื่องก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี

…….การยิงระยะไกล การยิงเรือที่อยู่ระยะไกลจะทำให้เกิดการยิงแบบ “Plunging” ซึ่งเป็นการยิงแบบมุมโค้ง กระสุนจะย้อยเข้าบริเวณดาดฟ้าของเรือ ซึ่งในส่วนนี้เกราะจะบาง สามารถใช้กระสุนแบบ AP เพื่อเจาะเกราะให้โดนโมดูลที่สำคัญของเรือ ก็จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง

การเลือกเป้าหมายในการยิงและโมดูลที่สำคัญ
…….อีกหนึ่งเรื่องที่ควรจะรู้ก็คือ จุดอ่อน จุดแข็ง ส่วนประกอบต่างๆ ของเรือ โมดูลสำคัญต่างๆ ในส่วนนี้จำเป็นที่จะต้องรู้เพราะจะช่วยให้เราเลือกเป้าหมายในการยิงเพื่อสร้างความเสียหายหนักๆ ได้ง่ายๆ โดยส่วนใหญ่ตำแหน่งของโมดูลต่างๆ นั้นจะอยู่ในจุดที่คล้ายๆ กัน เดี๋ยวเราจะยกตัวมาสักลำเพื่อเป็นตัวอย่างให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจง่ายขึ้น

…..ตรงกลางตัวเรือใกล้กับเส้นผิวน้ำ ห้องเครื่องยนต์และห้องเก็บกระสุน ถึงแม้จะมีการป้องกันเป็นพิเศษ แต่ส่วนนี้ก็ถือเป็นจุดอ่อนของเรือทุกลำ ถ้าเพื่อนๆ ยิงเจาะเกราะและสร้างความเสียหายให้กับห้องเครื่องยนต์ได้ เรือจะไม่สามารถเร่งความเร็วและกลายเป็นเป้านิ่ง ในขณะเดียวกัน การยิงเข้าไปที่ห้องเก็บกระสุนตรงๆ ก็เหมือนเป็นการปลดอาวุธศัตรู แถมยังอาจทำให้เรือระเบิดได้เลย

…..ส่วนท้ายเรือ เฟืองหางเสือ ถ้าคุณสร้างความเสียหายให้กับเฟืองหางเสือได้ เรือศัตรูจะไม่สามารถเปลี่ยนเส้นทางและหลบวิถีกระสุนได้ การสร้างความเสียหายให้กับเฟืองหางเสือได้ระหว่างที่เรือกำลังเลี้ยวถือว่าฝีมือสุดยอดมาก หางเสือจะติดขัดทำให้เรือหมุนเป็นวงกลม กลายเป็นเป้าให้คุณยิงถล่มสบายๆ

…..ดาดฟ้าเรือ ป้อมปืนหลักและป้อมปืนรอง ปืน AA และช่องยิงตอร์ปิโด ส่วนประกอบเหล่านี้มักจะติดตั้งอยู่บนดาดฟ้าเรือโล่งๆ ทำให้กลายเป็นเป้าของการโจมตีจากศัตรู ถ้าเพื่อนๆ สามารถสร้างความเสียหายหรือทำลายส่วนประกอบเหล่านี้ได้ด้วยกระสุน HE จะทำให้อาวุธต่างๆ ไม่สามารถใช้ได้ชั่วคราว

…..การเลือกกระสุนให้เข้ากับเป้าหมายแต่ละชนิด
การเลือกกระสุนไว้ยิงเรือแต่ละประเภทนั้นก็มีส่วนสำคัญ เนื่องจากเรือทั้ง 4 ชนิดนั้นมีจุดอ่อนที่แตกต่างกัน การเลือกกระสุนในการยิงจึงสำคัญไม่แพ้ วิถีการยิงและระยะทาง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเรือที่เราเล่นและข้าศึกที่เจอด้วย

เรือพิฆาต Destroyer
ขนาดปืนหลัก 127mm – 130mm
– หากเป้าหมายเป็นเรือ Destroyer การใช้ AP ยิงทำความเสียหายจากจุดอ่อนได้ดีแต่ต้องแม่นเพราะ DD ส่วนใหญ่จะมีความคล่องตัวสูง / HE เอาไว้ยิงทำลายอุปกรณ์และทำให้ไฟไหม้
– หากเป้าหมายเป็นเรือ Cruiser เน้นการใช้ AP ยิงทำความเสียหายจากจุดอ่อน / HE เอาไว้ยิงทำลายอุปกรณ์และทำให้ไฟไหม้
– หากเป้าหมายเป็นเรือ Battleship กระสุน AP มักจะยิงไม่ค่อยเข้า ต้องใช้ HE ยิงเพื่อให้ติดไฟสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง
– หากเป้าหมายเป็นเรือ Aircraft Carrier HE เพื่อให้ติดไฟ และเมื่อเรือติดไฟจะไม่สามารถปล่อยเครื่องบินได้ ตามด้วยการใช้กระสุน AP เจาะใส่บริเวณท้ายเรือที่เป็นจุดอ่อนเพื่อทำความเสียหาย

เรือลาดตะเวน Cruiser
ขนาดปืนหลัก 152mm – 203 mm
– หากเป้าหมายเป็นเรือ Destroyer ใช้ HE ยิงให้ติดไฟและทำลายอุปกรณ์
– หากเป้าหมายเป็นเรือ Cruiser ใช้ AP ยิงทำความเสียหายจากจุดอ่อน / HE เอาไว้ยิงให้ติดไฟ
– หากเป้าหมายเป็นเรือ Battleship ที่ Tier ไม่สูงมากสามารถใช้ AP ยิงสร้างความเสียหายได้แต่ถ้าเป็น BB ระดับสุด AP มักจะเจอาะไม่เข้าต้องใช้ HE ยิงให้ไฟไหม้
– หากเป้าหมายเป็นเรือ Aircraft Carrier ใช้กระสุน HE เพื่อให้ติดไฟ และเมือเรือติดไฟจะไม่สามารถปล่อยเครื่องบินได้ ตามด้วยการใช้กระสุน AP เจาะใส่บริเวณท้ายเรือที่เป็นจุดอ่อนเพื่อทำความเสียหาย

เรือประจัญบาน Battleship
ขนาดปืนหลัก 305 mm – 460mm
– หากเป้าหมายเป็นเรือ Destroyer ใช้กรุสุน HE ยิงทำลายอุปกรณ์และทำให้ติดไฟ
– หากเป้าหมายเป็นเรือ Cruiser ช้ AP ยิงทำความเสียหายจากจุดอ่อน / HE เอาไว้ยิงให้ติดไฟ
– หากเป้าหมายเป็นเรือ Battleship ใช้กระสุน AP ยิงทำความเสียหายจากจุดอ่อนและเจาะเข้าไปทำลายโมดูลสำคัญต่างๆ ส่วน HE ถึงแม้จะยิงให้ติดไฟได้แต่ด้วยจำนวน HP ที่มีจำนวนมากของ BB จำเป็นจะต้องระดมยิง HE เป็นจำนวนมาก สู้เปลี่ยนเป็น AP ยิงไปที่สุดสำคัญจึงน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
– หากเป้าหมายเป็นเรือ Aircraft Carrier ใช้ HE อย่างเดียวเลยแพราะแค่พลังทำลายจากกระสุน HE ก็มากเพียงพอที่จะทำให้ CL ขวัญหนีดีฝ่อได้แล้ว

………………………………………………………..อัพสกิลผู้การให้พร้อม

…..อีกหนึ่งเทคนิคที่จะช่วยให้การยิงเปลี่ยนกระสุนได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อก็คือการอัพสกิล เชี่ยวชาญเรื่องบรรจุกระสุน ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการเปลี่ยกระสุนลงถึง -30%

…..เป็นยังไงกันบ้างครับหลังจากที่เพื่อนๆ อ่านบทความนี้แล้ว ลองนำเอาไปประยุกต์ใช้ดู อาจจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับผีมือและประสบการณ์ของเพื่อนๆ ผู้การเอง ด้งนั้นอยากเก่งต้องเล่นให้เยอะๆ ครับ 555+