รีวิวหนัง Kingsglaive Final Fantasy XV และภาพบรรยากาศก่อนรับชม [ไม่สปอยล์]

เสร็จสิ้นกันไปอีกครั้งหนึ่งแล้วสำหรับกิจกรรมดีๆ ที่ทาง NGIN จับมือร่วมกันกับ Sony Playstation โดยคราวนี้ได้นำเอาภาพยนตร์สุดยิ่งใหญ่อย่าง Kingsglaive Final Fantasy XV มาให้สาวกในบ้านเราได้ดูกันพร้อมๆ กับทางอเมริกา และที่พิเศษไปกว่านั้นคือจัดฉายแค่รอบเดียวเท่านั้นในเมืองไทย คือรอบวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา เวลา 17.00 น. โดยมีทั้งสื่อและผู้เล่นที่สั่งซื้อเกม Final Fantasy XV ล่วงหน้าที่ได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์มาร่วมดูภาพยนตร์พร้อมกัน ณ โรงภาพยนตร์ Siam Pavalai ที่สยามพารากอน

ในส่วนของตัวหนัง Kingsglaive Final Fantasy XV นั้นเป็น CG ทั้งเรื่อง เหมือนกับที่ทาง Square Enix เคยทำออกมาแล้วทั้ง Advent Children และ Spirits Within ในอดีต แต่เรื่องนี้ต้องบอกว่า CG นั้นเหนือกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมา สร้างความแตกต่างได้แบบชัดเจนถ้าใครเคยดู 2 เรื่องก่อนหน้าดังกล่าวมากแล้ว เรียกว่าทำออกมาได้สวยมากและใส่ใจรายละเอียดสุดๆ โดยเฉพาะรายละเอียดบนใบหน้าของตัวละคร การแสดงสีหน้าท่าทาง อารมณ์ต่างๆ มันทำให้ดูเรียลมากๆ บางฉากที่ซูมใบหน้าตัวละครเราจะได้เห็นความสมจริงยันเส้นขนเลยทีเดียว อีกสิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากๆ ก็คือแววตาของตัวละครที่ทีมสร้างสามารถสื่ออารมณ์ผ่านแววตาได้ดีสุดๆ จนลืมว่ามันคือ CG ด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีบางฉากบางจุดที่ดูเหมือนจะทำออกมาแบบเร่งๆ มีหลุดรายละเอียดไปบ้าง แต่โดยรวมๆ แล้วงานด้านภาพทำออกมาได้เด็ดขาดจริงๆ

เรื่องนี้ตอนไปดูนี่จะเป็นเสียงพากย์อังกฤษและคำบรรยายเป็นภาษาไทย แรกๆ ก็แอบหวั่นว่าโมชั่นของการขยับปากนั้นจะเพี้ยนๆ หรือเปล่า แต่ปรากฏว่าตัวหนังทำโมชั่นขยับปากมาจากเสียงอังกฤษเลยไม่ใช่แปลงมาจากญี่ปุ่น ทำให้ดูลื่นไม่ขัดๆ สาเหตุหนึ่งเพราะว่าตัวออริจินอลของเรื่องนี้ทำมาจากภาษาอังกฤษโดยนำดาราระดับฮอลลีวูดมาให้เสียงพากย์นั่นเอง ทั้ง Aaron Paul พระเอก Need for speed มาพากย์เป็น Nyx Ulric หรือ Sean Bean มาพากย์เป็นราชา Regis Lucis Caelum CXIII และ Lena Headey ราชินีจากซีรี่ส์ Game of Thrones มาให้เสียงเป็นองค์หญิง Lunafreya Nox Fleuret

เนื้อเรื่อง [ไม่สปอยล์]
เรื่องราวในหนังผมขอไม่สปอยล์นะครับอยากจะให้ติดตามกันเองมากกว่าตอนที่แผ่น Blu-ray ออก แต่จะบอกแค่ตามตัวอย่างที่ปล่อยออกมาเท่านั้น โดยเรื่องราวจะเป็นเหตุการณ์ช่วงก่อนที่จะเกิดขึ้นในเกม Final Fantasy XV นั่นเอง มันเหมือนกับเป็นการปูเนื้อเรื่องก่อนที่เราจะไปเล่นเกมกันจริงๆ เกี่ยวกับอาณาจักร Lucis ที่ครบครองพลังแห่งคริสตัลซึ่งมีกำแพงเวทย์ที่ไม่สามารถมีใครบุกเข้ามาได้ ที่นี่มีพ่อของพระเอกใน FF XV ปกครองอยู่ แต่ก็ถูกรุกรานจาก Niflheim ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งจักรกลที่กำลังทำสงครามเพื่อขยายดินแดน วันหนึ่ง Niflheim ได้ส่งทูตเข้ามาเพื่อเจรจายุติศึกโดยมีองค์หญิง Lunafreya อดีตเจ้าหญิงแห่งอาณาจักร Tenebrae ซึ่งเป็นเมืองที่ตกอยู่ภายใต้การปกครองของ Niflheim เดินทางมาด้วย โดยมีเงื่อนไขว่าจะให้องค์หญิงได้แต่งงานกับเจ้าชาย Noctis ซึ่งเป็นลูกของราชา Regis และเป็นพระเอกใน FF XV ที่เราเคยเห็นกันมาแล้วในเกมครับ

แต่ทว่าการเจรจาสงบศึกในครั้งนี้มีแผนร้ายซ่อนอยู่ และ Nyx Ulric หนึ่งในทหารองครักษ์ Kingsglaive ได้ล่วงรู้แผนร้ายนี้เข้าจึงทำการเข้ายับยั้ง และในขณะเดียวกันก็ต้องคุ้มครององค์หญิงไปด้วยตามคำสั่งของราชา Regis ซึ่งเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร จะยับยั้งได้หรือไม่ก็อย่าลืมไปดิดตามชมกันได้ครับ

ส่วนตัวแล้วผมให้คะแนนเรื่องนี้ 9/10 ในฐานะที่เป็นแฟนของซีรี่ส์ FF เพราะแค่ฉากต่อสู้ในเรื่องก็ทำ CG ออกมาได้อลังการงานสร้างแล้ว แค่เห็นเดม่อนมาปล่อยมิสไซล์ก็ฟินสุดๆ ไหนจะเสียงเพลงที่สุดยอดอีก โทนของหนังจริงๆ แล้วจะออกไปทางเครียดมากๆ ทั้งเรื่องการเมืองและเรื่องความดราม่า แทบจะไม่มีมุกตลกอะไรปรากฏให้เห็นเลยทีเดียว จะมีติดอยู่บ้างก็ตรงตัวละครบางตัวที่ไปไวมาไวจนไม่รู้ที่มาที่ไป บางตัวก็ตายไปซะดื้อๆ และการเล่าเรื่องแบบเร่งๆ ไปนิด ยิ่งฉากเกี่ยวกับการเมืองนี่บางคนอาจจะถึงขั้นเนือยๆ ได้ แอบบอกว่าหลังจบมี End Credit ให้ติดตามกันต่อด้วย

สรุปว่าถ้าใครที่จะซื้อ Final Fantasy XV ซึ่งจะออกในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 มาเล่น แนะนำให้ไปดูเรื่องนี้ก่อนจะได้รู้ที่มาที่ไปและทำความรู้จักกับตัวละครต่างๆ มากขึ้น เพราะเชื่อว่าตัวละครจากในหนังจะต้องมีไปโผล่ในเกมหลายตัวแน่นอน อีกอย่างผมอยากให้ดูความเท่ของพี่ Nyx Ulric ด้วย อย่าลืมไปหาซื้อมาดูกันครับ

ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณทาง NGIN ที่ได้เชิญคอมพ์เกมเมอร์เข้าไปร่วมชมภาพยนตร์ Kingsglaive Final Fantasy XV ในครั้งนี้ด้วยครับ