พาลุยดันเจี้ยน 110 Forgotten Temple B1F

29,458 views
Share

อีกหนึ่งดันเจี้ยนที่อัพเดทเข้ามาใหม่เมื่อไม่นานมานี้ เป็นดันเจี้ยนที่เรียกได้ว่าแหล่งขุมทรัพย์อีกหนึ่งแห่งเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นดันเจี้ยนที่ลุ้นดร็อปแรร์ไอเทมระดับสูงสุดในแพทช์นี้ ส่วนวิธีการและเทคนิคต่างๆ ในการลงดันเจี้ยนจะเป็นอย่างไรไปดูกันได้เลย

Forgotten Temple B1F
เลเวลที่ต้องการ : เลเวล 110 ขึ้นไป
ไอเทมบัตรผ่านดันเจี้ยน : Muster Card Forgotten Temple B1F
การมาดันเจี้ยนนี้ต้องระวังผู้เล่นที่อยู่คนละประเทศด้วย เพราะสามารถโจมตีผู้เล่นด้วยกันเองได้ แน่นอนว่าการยืนรอเข้าดันก็เหมือนกันควรระวังเอาไว้ให้มาก เพราะคุณอาจจะต้องวิ่งมาใหม่จากจุดเริ่มต้น

โซนที่ 1 บอส Nestbite

เมื่อเข้ามาให้เราเข้าไปคุยกับ “นาฬืกาทราย” ที่อยู่ตรงกลางเพื่อปิดประตูไฟที่ขวางทางเราอยู่ จากนั้นก็ไปคุยกับ “รูปปั้นหน้าสิงโต” ที่อยู่ด้านบนตรงทางเดิน

จากนั้นก็ให้เดินต่อไปเรื่อยๆ จะเจอกับสะพานที่มีกำแพงไฟกั้นอยู่ ให้รอจนกว่ากำแพงไฟจะหายไป แล้วก็รีบข้าม ไม่ควรใกล้กับกำแพงไฟเกินไปเพราะจะโดนดาเมจจากการเผาไหม้ทำให้เสียพลังชีวิตไปแบบฟรีๆ แถมกำแพงไฟยังเผาแรงอีกต่างหาก

เมื่อผ่านสะพานมาแล้วให้คุยกับแท่นหินที่อยู่ปลายทาง เพื่อเปิดหินที่ขวางทางออกไป จากนั้นก็ให้กำจัดมอนสเตอร์ที่อยู่แถมนั้นให้หมด เพื่อจะได้เดินเควสท์ต่อไปง่ายและสะดวก

เมื่อเคลียร์มอนสเตอร์แถวนั้นหมดแล้ว ให้คุยกับ “แท่นหน้ายักษ์” เพื่อปลดกำแพงไฟที่กั้นห้อง เมื่อเข้าไปในห้องให้รับตีกำแพงไฟอันที่ 2 ให้แตกให้เร็วที่สุด

เควสท์หน้าห้องบอส

เมื่อทำลายกำแพงไฟอันที่ 2 จนแตกแล้วจะมีเควสท์โผล่ออกมา ให้เรากำจัด Obidiant จำนวน 10 ตัว (อยู่ตามทางเดินนั่นแหล่ะ มี 10 ตัวพอดิบพอดี)

กำจัดเสร็จแล้วให้เข้าไปคุยกับ “หัวงู” ที่อยู่หน้าห้องก็จะวาร์ปไปหาบอสในห้องได้ กำจัดมันได้ก็จะสามารถไปด่านต่อไปได้เลย

** เพิ่มเติมและสำคัญมาก

ในห้องบอสจะมี Serpent ที่เกิดมุมห้องทั้ง 4 มุมห้อง จะเกิดวนตามเข็มนาฬิกามาไปเรื่อยๆ ถ้าหากเราไม่ฆ่า Serpent เมื่อมันเกิดครบ 4 ตัว ห้องนี้จะระเบิด ความแรงจะขึ้นอยู่กับ Serpent ที่เรายังไม่ได้กำจัด เพราะฉะนั้นใครที่ของไม่แรงพอให้กำจัด Serpent ไปด้วย

โซนที่ 2 บอส Chakris

เมื่อผ่านบอสที่ 1 มาแล้ว ให้เรากำจัดมอนสเตอร์ตามทางเพื่อทำเควสท์ให้เสร็จ ไอเทมเควสท์ได้จากมอนสเตอร์ จากนั้นให้เดินไปจนสุดทางจะเจอกับ Beetle Tomb ให้เราตีแล้วเก็บไอเทม Record of the Mutant เพื่อเอาไปแลกเปลี่ยนเป็นผ้าคลุม (ให้เดินกลับมาบริเวณทางออกห้องบอสแรกจะเจอกับกระถางไฟ คุยกับกระถางไฟก็จะเปิดทางลับเพื่อแลกผ้าคลุม)

เมื่อได้ผ้าคลุมแล้วย้อนกลับมาทางเดิม เข้าห้องทดลองไป จะเจอกับแท่งทดลองสีม่วง (มีแท่งเดียวในห้อง) คุยกับเจ้าแท่งที่ว่านี้มอนสเตอร์ก็จะออกมาโจมตีเรา แนะนำให้เข้าไปในมุมห้องแล้วกำจัดมอนสเตอร์ให้หมด เมื่อเรากำจัดมอนสเตอร์แล้ว ประตูไฟก็จะเปิด (ประมาณ 10 วินาที) ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ทัน แต่เราสามารถทำลายประตูไฟเพื่อไปต่อได้ ในห้องถัดไปก็จะเจอกับบอสแมวหรือ Chakris นั่นเอง

**เพิ่มเติมและสำคัญมาก

เจ้า Chakris นั้นจะมีบาเรียอยู่รอบตัวตลอดเวลา โดยเมื่อมันอยู่ในบาเรียเราจะไม่สามารถโจมตีมันได้และเลือดของมันก็จะฟื้นฟูเรื่อยๆ การจะทำลายบาเรียได้นั้นจำเป็นต้องกำจัดลูกน้องของมันที่เกิดออกมา 3 ตัวก่อน โดยใน 3 ตัวจะมี 1 ตัวที่เป็นตัวจริง เมื่อทำลายตัวจริงบาเรียจะหายไป ช่วงที่บาเรียหายไปนั่นคือ ช่วงที่เราจะโจมตีเจ้า Chakris ได้ เวลาในการกางบาเรียครั้งถัดไป จะอยู่ที่ราวๆ 1 นาที โดยจะเริ่มนับใหม่หลังจากที่มีมอนสเตอร์เกิดจากแท่งหิน แนะนำว่าให้เราฆ่ามอนสเตอร์ 1 ตัวให้ตายก่อน จากนั้นเหลือ 2 ตัวให้เลือดเหลือน้อยที่สุด เมื่อตัวที่ตายเกิดขึ้นมา ก็ให้ตี 2 ตัวที่เหลือให้ตาย แล้วรีบวิ่งไปตีบอสแมว Chakris ได้เลยทันที วิธีนี้จะช่วยให้เรามีเวลาในการตีบอสมาขึ้น ก่อนที่มันจะสร้างบาเรียครั้งถัดไป

หลังจากกำจัดบอสแมวได้ สิ่งที่จะต้องทำต่อไปคือ การย่อนผ้าคลุม ที่แลกมาแล้วก็เข้าไปคุยกับแท่นตรงกลางเพื่อไปยังด่านต่อไปได้เลย

โซนที่ 3 บอสใหญ่ Orca the Origin

ถ้าผ่านบอสแมวไปแล้ว ทางไปสู่บอสใหญ่ไม่ใช่ปัญหาเลย เพียงแค่กำจัดมอนสเตอร์ตามทางไปเรื่อยๆ (ประตูไฟอันแรกก่อนถึงห้องโกเลมต้องทำลายเอง) เมื่อถึงห้องโกเลมให้ตีโกเลมไปเรื่อยๆ จนกว่าประตูไฟจะเปิด จากนั้นก็เข้าไปกำจัด Groga ที่อยู่ตามทาง (ประมาณ 12 ตัว) แนะนำว่าให้กำจัด เพราะบางครั้งบอสจะใช้สกิลเพื่อเรียกมอนสเตอร์ที่อยู่ด้านนอกมาช่วยเหลือด้วย

Orca the Origin

การฆ่าไม่ยากนัก เพราะดูแล้วอ่อนแอกว่าบอส 2 ตัวแรก แต่เราจะมีเวลาเพียงแค่ 3 นาทีในการกำจัด เพราะถ้าเกินบอสจะแปลงร่างและเก่งขึ้น โดยบอสจะมีสูงสุด 5 ร่าง แนะนำว่าให้กำจัดในร่างที่ 1 ให้ตาย เพราะร่าง 2 3 4 5 ก็จะโหดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ร่าง 3 ขึ้นไปก็แทบจะสู้ไม่ไหวแล้วนั่นเอง

เควสท์กุญแจ

ในดันเจี้ยนนี้มอนสเตอร์ทุกตัวจะมีโอกาสสุ่มดร็อปกุญแจ 3 สีด้วยกัน โดยเมื่อเราเก็บกุญแจแต่ละสีแล้วปลดล็อค 3 จุดในดันเจี้ยน จะสามารถไขห้องลับเพื่อลุ้นกล่องสมบัติสีเขียวเพิ่มอีก 4 กล่อง โดยการไขกุญแจ แต่ละสี แต่ละจุดสามารถดูได้จากแผนที่ข้างล่างนี้

Share

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดตัวระบบเสริมประสิทธิภาพการันตีใน Black Desert
บทสรุปสุดท้ายของ Dragonflight ที่มาพร้อมกับกิจกรรมพิเศษใน Dragonflight 10.2.7
Ragnarok Landverse ประกาศ Seasonal เปิด Server ต้อนรับผู้เล่นใหม่ แจกของเทพไม่มีกั้ก
Ragnarok Landverse เปิดตัวอาชีพ “Ninja” ครบจบ ในอาชีพเดียวไม่ว่าจะเป็น สายกายภาพ หรือ สายเวทย์มนต์
Riot Games ผนึกกำลังเกิร์ลกรุ๊ปสุดฮ็อต XG ปล่อยซิงเกิลพิเศษ ‘UNDEFEATED’ เอาใจแฟน ๆ VCT PACIFIC 2024!
‘RAGNAROK THE ORCHESTRA CONCERT’ คอนเสิร์ตบรรเลงเพลง RO แฟนๆ คนไทยแห่ตอบรับกระแสมาแรง ขายบัตรหมดเกลี้ยง