…….ก่อนที่จะรีวิวกันไปยืดยาว ขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่าผมไม่ได้เป็นกูรูที่ผ่านการใช้ Gaming Gear มาอย่างโชกโชน เพียงแต่มาบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับอุปกรณ์ชิ้นนี้เท่านั้น การเลือกใช้และเลือกซื้ออุปกรณ์แต่ละชิ้นแนะนำว่า ควรจะหาข้อมูลประกอบและตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ด้วยตัวเองให้ดี เพราะอุปกรณ์ทุกชิ้นมีจุดเด่น, ข้อจำกัดและความเหมาะสมต่างๆ ในตัวของมันเอง และคนที่ตัดสินได้ดีที่สุดว่าอุปกรณืชิ้นนี้ดีหรือไม่ก็คือตัวผู้ใช้เองเท่านั้น
…….พอดีว่าเมื่อวันเกิดของ บ.ก. HunterX ของเราที่ผ่านมา พี่เขาได้รับของขวัญชิ้นใหญ่โตมโหฬารมาจากทาง Com7 นั่นคือเมาส์รุ่นใหม่ล่าสุด, รุ่นแรงที่สุดของ Steelseries นั่นคือ Gaming Mouse รุ่น Sensei หรือที่แปลจากภาษาญี่ปุ่นเป็นไทยได้ว่า “รุ่นปรมาจารย์” และเนื่องในโอกาสที่ได้ของแรงมาทั้งที พอแอดมึนเห็นก็เลยอดไม่ได้ ต้องขอเอามาขอเทส ขอลอง (แบบไม่ขอเจ้าของ) กันเสียหน่อย แม้จะน่าเสียดายอยู่บ้างที่ไม่ได้สัมผัสความรู้สึกตอนที่แกะกล่อง เลยไม่สามารถบรรยายได้ว่าความรู้สึกเป็นอย่างไร แต่แอดมึนก็เชื่อว่า ลำพังแค่ได้เทส Sensei ตัวนี้ก่อนชาวบ้านเขา ก็สามารถสร้างความอิจฉาตาร้อนให้กับแฟนๆ ของ Steelseries ได้หลายคนแล้ว (ถึงจะไม่ได้ใช้ถาวรก็เถอะ T-T)
หน้าตา
…….หน้าตาของ Sensei ถือว่าดูดีมีชาติตระกูลในสไตล์ของ Steelseries เลยครับ รูปทรงอาจจะไม่ได้ต่างจากรุ่นอื่นของค่ายนี้สักเท่าไหร่ เทียบกับ Xai ถือว่าคล้ายกันมาก แต่จุดเด่นของของเมาส์รุ่นนี้คือพื้นผิวด้านบนของมันเคลือบเงา ให้อารมณ์แบบเมทาลิค ดูแต่ไกลก็รู้สึกถึงความหรูหราราคาแพง แต่ขอแอบบ่นนิดว่าด้วยความหรูหราส่วนนี้ เลยทำให้ปุ่มคลิกซ้ายขวาเลอะรอยนิ้วมือได้ง่ายไปหน่อย โดยเฉพาะคนที่ชอบหยิบขนมกินแล้วเอามือมาจับเมาส์แบบแอดมึน แต่อย่างไรก็ตามสำหรับคนที่รักสะอาดและดูแลดีๆ ก็เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาครับ (ดูดีไว้ก่อนดีกว่าเนอะ)
ไฮไลท์เด็ด
…….ไฮไลท์เด็ดของเมาส์ตัวนี้มีอยู่ 2 ส่วนหลักๆ ครับ อย่างแรกคือระบบแสงสีของตัวเมาส์ ที่มีสีไฟให้ปรับอยู่ 3 จุดด้วยกันนั่นคือ กงล้อของเมาส์, ตัวแสดงสถานะ CPI แล้วก็ตรงโลโก้บนตัวเมาส์ โดยสีที่ปรับได้ก็ไม่อั้นครับ อยากจะแดง เขียว ขาว เหลือง น้ำเงิน จะให้เป็นน้ำเงินเข้ม น้ำเงินเข้มมาก น้ำเงินเข้มที่สุด น้ำเงินอมม่วง หรือน้ำเงิ๊นน้ำเงิน ก็ปรับได้แบบแยกจุดต่อจุด นอกจากนั้นที่ด้านใต้ของตัวเมาส์ ยังมีหน้าจอแสดงผลแบบขาวดำ เอาไว้ให้เราใส่ชื่อหรือรูปโลโก้ส่วนตัวได้ด้วย บอกทุกคนไปเลยว่าเมาส์อันนี้สำหรับข้าคนเดียว!!
…….ไฮไลท์เด็ดอีกอย่างคือตัวประมวลผลของเมาส์รุ่นนี้ครับ เขาบอกว่าใช้ Precesser ชนิดเจ๋งโคตรๆ เลยทำให้ CPI ของเมาส์ตัวนี้เลยปรับได้ตั้งแต่ 1 – 11,400 หน่วย เป็น 2 เท่าของค่าที่มันควรจะทำได้ อันนี้ไม่ใช่มุกนะครับ! มันปรับได้สูงขนาดนั้นจริงๆ เอากันชนิดที่ใช้นิ้วเขี่ยเมาส์เบาๆ ก็ทำให้ลูกศรบนหน้าจอก็พุ่งเป็นจรวดได้เลย แล้วที่เจ๋งไปกว่านั้นคือการประมวลผลของเมาส์ตัวนี้มีการประมวลค่าขั้นสูงอีก 4 ค่า ซึ่ง Gaming Mouse ธรรมดาเห็นแล้วจะต้องขนลุก
ปุ่มกดพิเศษ
…….ปุ่มบนเมาส์รุ่นนี้ไม่นับคลิกซ้ายขวา จะมีทั้งหมด 5 แห่งด้วยกัน แบ่งเป็นปุ่มด้านข้างเมาส์ ด้านละ 2 แห่งตำแหน่งเดียวกัน (เมาส์รุ่นนี้เป็นแบบสมมาตร สามารถใช้ได้ทั้งคนถนัดซ้ายและขวา) ส่วนปุ่มสุดท้ายก็คือการกดกงล้อของเมาส์ เพราะปุ่มสามเหลี่ยมซึ่งใช้ปรับ CPI ไม่สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าได้
…….ในการใช้งาน ปุ่มกด 2 ปุ่มตรงนิ้วโป้งถึงว่าถนัดมือดีมาก คนใช้มือใหม่สามารถกดได้คล่องมือไม่ขัดเขิน ทั้งคนที่ถนัดจับเมาส์แบบงอนิ้วและจับแบบราบไปกับเมาส์ แต่ด้วยความที่เป็นเมาส์สมมาตร คนที่จับเมาส์แบบงอนิ้วอาจจะเจอปัญหาโลกแตกนั่นคือ ปุ่มที่อยู่ตรงนิ้วนางอาจจะโดนกดแบบไม่ได้ตั้งใจบ่อยๆ เพราะตอนเคลื่อนทื่ต้องใช้นิ้วนางประคองอยู่ตลอด จนอาจจะต้องถอนการตั้งค่าของปุ่มพวกนี้ออกไป สุดท้ายกับปุ่มบนกงล้อก็ไม่ได้แข็งหรืออ่อนไหวมากนัก อยู่ในระดับที่ใช้งานได้ดีหากไม่ได้ใช้ในรูปแบบที่ต้องกดแบบฉับพลัน (แอบชอบกงล้อของ Sensei ตัวนี้ด้วยซ้ำ รู้สึกว่ามันนุ่มมือดี)
ขนาดและน้ำหนัก
…….ถ้าเทียบกับ Gaming Mouse ทั่วไป เจ้า Sensei ถือว่าขนาดได้มาตรฐานครับ ไม่ได้ใหญ่เทอะทะแต่ก็ไม่ได้เล็กขนาดเด็กประถมใช้คล่องมือ ส่วนน้ำหนักขณะใช้เพื่อเคลื่อนที่ ถือว่าระดับปานกลาง แต่ถ้าเทียบกับเมาส์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเบาหลายรุ่น เจ้าตัวนี้ก็ยังถือว่าเสียเปรียบอยู่เล็กน้อย อย่างไรก็ตามผมจะเน้นทุกครั้งที่แนะนำคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ขนาดและน้ำหนักเป็นส่วนที่ต้องไปลองด้วยตัวเองจะดีที่สุด โดยที่ตอนลองก็ต้องเข้าใจด้วยว่า มันเป็นส่วนเราสามารถทำความเคยชินได้ หากมันไม่ได้เบาหรือหนักจนสร้างปัญหาให้เรามากเกินไป
การตั้งค่า
…….เมาส์ตัวนี้มีเมมโมรี่ในตัว ดังนั้นเราสามารถเซ็ตค่าจากเครื่องเราที่เราใช้ปกติ ทั้งการตั้งค่าปุ่มกด, การใช้มาโครหรือค่า CPI ของเมาส์ ให้เอาไปใช้กับเครื่องอื่นๆ ได้แม้ว่าเครื่องนั้นจะไม่ได้ลงโปรแกรมของเมาส์เอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าการตั้งค่าของปุ่มบน Sensei ตัวนี้ สามารถตั้งได้ทั้งการกดพื้นฐาน ใช้แทน F1 หรือ 7 แค่ปุ่มเดียว, ปรับให้ใช้แทนการกดหลายปุ่มพร้อมกัน หรือตั้งมาโครเพื่อกดปุ่มแบบต่อเนื่องกันตามลำดับก็ได้
…….สุดท้ายกับการตั้งค่าของการประมวลผล ซึ่งอย่างที่บอกไปแล้วว่าเมาส์ตัวนี้มีความละเอียดอ่อนและแม่นยำสูงมาก ตั้งค่า CPI ได้สูงสุดถึง 11400 หน่วย แต่นอกจากเรื่องตั้งค่า CPI ได้สูงสุดติ่งแล้ว การประมวลผลของเมาส์ตัวนี้ยังสามารถตั้งค่าขั้นสูงได้อีกถึง 4 ส่วน นั่นคือการ Exactlift, Exactaim, Exactaccel และ Freemove ซึ่งค่าที่เจ๋งที่สุดสำหรับคอ DotA ก็คงไม่พ้น Exactaim ครับ ค่านี้เวลาเราชะลอการเคลื่อนที่ของเมาส์หรือหยุดเมาส์ จะทำให้ค่า CPI ของตัวเมาส์จะลดจากปกติลงจากเดิม ยิ่งปรับไว้สูงมากเวลาเราหยุด CPI ก็จะยิ่งลดลงไปมาก เวลาเราเล็งใช้สกิลในเป้าหมาย จะทำให้เราขยับแบบมิลลิเมตรต่อมิลลิเมตรได้ง่ายขึ้น แต่แน่นอนว่าค่าขั้นสูงพวกนี้ปกติจะปรับไว้เป็น 0 คือไม่ได้ตั้งไว้ใช้งาน แล้วเวลาใช้ใหม่ๆ ก็ต้องทำความเคยชินกันนิดนึง
…….สรุปแล้วเจ้าเมาส์ตัวนี้ความสามารรถสูงเวอร์ครับ ในด้านการใช้งาน สิ่งที่ Gaming Mouse ควรมีมันมีครบหมด ตั้งค่าให้ใช้แทนการกดหลายปุ่มต่อเนื่องได้, มีเมมโมรี่ในตัว ย้ายเอาไปเล่นเครื่องอื่นได้, ค่า DPI และ Polling Rate ที่สูง แต่ความขั้นเทพของมันคือฟังค์ชั่นเสริมในการตั้งค่า ทำให้เมาส์หน่วงตอนเราชะลอ เร่งปรี๊ดตอนเราขยับไวๆ การตกแต่งสีแสดงความเป็นเอกลักษณ์ ที่สำคัญคือรูปลักษณ์ที่ไฮโซหรูหราน่าเป็นเจ้าของซะเหลือเกิน
รีวิวเป็นคลิปจ้า