กฏหมายใหม่ทำอุตสาหกรรมเกมเกาหลีช็อก! “ห้ามซื้อขายไอเทม” ในเกม

2,413 views

หลังจากเมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา เราคงได้ยินเรื่องราวของกฏหมายเล่นเกมของชาวเกาหลีกันไปแล้ว ในเรื่องของการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี เล่นเกมหลังเที่ยงคืน และมีผลบังคับใช้อย่างจริงจังไปเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งประกาศกฏหมายในครั้งนั้นก็ถือว่าส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกมในส่วนหนึ่งแล้ว แต่ทว่ามาในวันนี้ทางด้านรัฐบาลเกาหลีกลับออกมาเพิ่มเติมกฏหมายซึ่งเรียกได้ว่าเป็นข่าวเลวร้ายสำหรับอุตสาหกรรมเกมเลยทีเดียว เพราะว่าทางรัฐบาลเกาหลีห้ามเยาวชนเกาหลีใต้ที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ซื้อขายไอเทมในเกมด้วยเงินจริง

โดยกฎหมายที่ออกมานั้น นั่นหมายความว่าเกมเมอร์ในช่วงอายุดังกล่าวไม่สามารถที่จะเติมเงินภายในเกมเพื่อใช้บริการในส่วนของ Item Mall ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นรายได้หลักและการอยู่รอดของอุตสาหกรรมเกม โดยทางรัฐบาลเกาหลีประกาศกฏหมายฉบับนี้ออกมาเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนแต่ยังไม่มีผลบังคับใช้ และกำลังนำเข้าสู่สภาเพื่อยื่นเรื่องอนุมัติในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ซึ่งหากการร่างกฏหมายดังกล่าวที่ประกาศออกมานั้นผ่านและอนุมัติก็จะมีผลเริ่มบังคับใช้ทันทีตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป!

การที่ทางรัฐบาลเกาหลีออกกฎหมายเพิ่มเติมดังกล่าว ทางสื่อเกาหลีได้ตีแผร่มาว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนเล่นเกมมากจนเกินไป ซึ่งหากมีการซื้อขายในเกมนั้นก็ยิ่งเหมือนสร้างแรงกระตุ้นของเยาวชนในส่วนของการเล่นเกมมากขึ้น และตีความเหมือนกับการขายสุราและบุหรี่ให้กับเยาวชน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

“การปิดตลาดจากค่ายเกม สร้างตลาดมืด”

การออกกฎหมายห้ามซื้อขายไอเทมของเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีนั้น ไม่ใช่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของตลาดอุตสาหกรรมเกมอย่างเดียว แต่ทว่ามีหลายฝ่ายมองถึงผลกระทบอีกด้านอีกการเกิดตลาดมืด ที่จะเป็นตลาดกลางสำหรับเด็กเล่นเกมที่ซื้อไอเทมไม่ได้ด้วยตนเอง แต่มีนายหน้าหรือพ่อค้าคนกลางมาเป็นผู้ซื้อแทน และเกิดการทุจริตหรือความไม่สมดุลของตลาดอุตสาหกรรมเกมเกิดขึ้น พร้อมกันนี้อาจทำให้การแฮ็กข้อมูลหรือระบบจะเกิดบ่อยมากยิ่งขึ้น และผู้เล่นหดตัวลงอีกด้วย

กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวและกีฬา ทำให้เกมเมอร์เป็นอาชญากรอีกครั้ง // ไม่ได้!!! อุตสาหกรรมเกมเกาหลีจะตายหมด! ไม่ได้!!

งานนี้ถือว่าผลกระทบกว้างและมากขึ้นทวีคูณ หากกฎหมายใหม่นี้มีผล ซึ่งหลายบริษัทที่ได้เห็นเรื่องดังกล่าวแล้วต่างก็ไม่เห็นด้วยกับกฏหมายดังกล่าวและคาดว่าคงมีการหารือของกลุ่มใหญ่ในอุตสาหกรรมเกมอย่างแน่นอน แต่ในสุดท้ายผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบใด คงต้องติดตามกันต่อไป

—————

credit : nate.com