ทุกปี นิตยสารและหนึงสือพิมพ์ Time จะจับอับดับสิ่งที่ดีและไม่ดีในสาขาต่างๆ ซึ่งก็เหมือนเป็นธรรมเนียมที่เค้าปฏิบัติกันมาทุกปีครับปีนี้ก็เช่นกัน เราไปดูกันครับว่า Gadgets ที่ดีที่สุดของปีนี้จะตกเป็นของใคร
อันดับ 10 Nook Color
Nook Color มาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัสความสามารถในการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi (ยังไม่มีรุ่นสนับสนุน 3G) และใช้ระบบปฎิบัติการ Android โดยทาง B&N ยังประกาศถึงแผนการในการเปิดตัว Nook Developer Program ที่อนุญาตให้บริษัทต่างๆ สามารถพัฒนาแอพฯ Android เพื่อใช้รันบน Nook Color ได้อีกด้วย สำหรับซอฟต์แวร์ Nook Color จะมีการเชื่อมโยงกับโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่าง Facebook และ Twitter ได้อีกด้วยสำหรับหน้าจอแสดงผลของ Nook Color ที่เรียกว่า VividView จะมีความละเอียด 1024×600 พิกเซล สามารถแสดงผลได้ 16 ล้านสี ด้านบนของหน้าจอจะเคลือบด้วยฟิล์มลามิเนต (Lamination film) เพื่อช่วยลดแสงที่อาจจะสว่างเจิดจ้าเกินไปจากแบ็คไลท์ ซึ่งช่วยให้สบายตาเวลาอ่านมากขึ้น แน่นอนว่า การเลือกใช้เทคโนโลยีจอ LCD แทน e-Ink ระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ก็จะสั้นลงไปด้วย โดย Nook Color จะสามารถใช้งานได้ 8 ชั่วโมงต่อเนื่องโดยไม่เปิด Wi-Fi (เทียบกับ Nook ปกติได้ 10 วัน โดยปิด Wi-Fi) สนนราคาเริ่มต้นของ Nook Color อยู่ที่ 249 เหรียญฯ หรือประมาณ 7,500 บาท ในขณะที่ Nook รุ่นปัจจุบันยังคงมีราคาอยู่ที่ 149 เหรียญฯ (ประมาณ 4,500 บาท)
อันดับ 9 Kinect
Kinect คือ อุปกรณ์เสริมของเครื่องเล่นเกมส์ Xbox360 จาก Microsoft โดยสามารถจดจำผู้เล่น(Facial Recognition)และให้ผู้เล่นควบคุมเกมส์ผ่านทางการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้เล่นโดยตรง(3D Motion Recognition)โดยไม่จำเป็นต้องมี joystickอีกต่อไป และสามารถจดจำเสียงของผู้เล่นได้ (Voice Recognition) และนอกจากใช้ฟังค์ชั่นพวกนี้เล่นเกมส์แล้วเรายังใช้Kinectควบคุมการดูหนัง ฟังเพลง เล่น Window live messenger ได้ด้วย
อันดับ 8 Toshiba Libretto Dual-Screen Laptop
Toshiba Libretto Dual-Screen Laptop Toshiba Libretto W100 ที่มีเทคโนโลยีจับการเคลื่อนไหวแบบแนวตั้งและแนวนอนและสามารถป้อนข้อความ ด้วยระบบสัมผัสแบบหน้าจอ มีหน่วยความจำถึง 62GB แบบ SSD รองรับการเชื่อมต่อ USB WIFI Bluetooth [3G] รองรับ OS Windows 7 อีกด้วย แถมยังมีน้ำหนักเบาเพียง 819 กรัม เพราะว่าขนาดตัวเครื่องที่ทาง Toshiba
รายละเอียดต่างๆของ Libretto W100
– จอแสดงผล ความกว้าง 7 นิ้ว ความละเอียด 1024 x 600 พิกเซล
– แป้นพิมพ์ระบบสัมผัส 6 รูปแบบ
– ระบบ OS Windows 7
– หน่วยประมวลผล Intel Pentium Processor U5400 1 ความเร็ว 1.2 GHz
– หน่วยความจำ Ram DDR3 2GB
– หน่วยความจำตัวเครื่อง 62 GB
– รองรับหน่วยความจำ MicroSD
– ระบบเชื่อมต่อ Wireless Lan 802.11 b/g/n, Bluetooth 2.1 , USB 2.0
– กล้อง Webcam 1 ล้านพิกเซล พร้อมระบบการจดจำใบหน้า ( Face Recognition )
– แบตเตอรี่ 8 เซลล์
– ขนาดของตัวเครื่อง 20.19 x 12.29 x 3.04 เซนติเมตร
– น้ำหนักของตัวเครื่อง 819 กรัม
อันดับ 7 Apple TV
Apple TV ใหม่ ยังรองรับการดูวีดีโอออนไลน์หรือสื่อบันเทิงต่างๆ ไม่่ว่าจะ Netfrix / Youtube / frickr / Mobileme ผู้ใช้สามารถโหลดวีดิโอ ภาพ ความบันเทิงจากเว็ปเหล่านี้ดูที่ตัวเครื่องได้ทันที เช่นเดียวกัน ผู้ใช้งานสามารถดึงข้อมูลความบันเทิงต่างๆที่มีในเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้มาเล่นที่หน้าจอทีวี โดยไม่ต้องซิงค์มาใช้งาน นอกจากนี้ Apple TV ใหม่ ยังรองรับ AirTune ที่เป็นความสามารถของ iPad ทำให้ความบันเทิงต่างๆ สามารถเปิดจาก iPad แต่ให้แสดงผลที่หน้าทีวีที่ใช้งานได้ทันที เรียกว่า เพลง หนัง รายการทีวี รูป เพลง
อันดับ 6 iPhone 4
Phone 4 เป็นโทรศัพท์ในแบบ SmartPhone ที่ตัวบางที่สุดในโลกในเวลานี้ โดยมีขนาดความบางเพียง 9.3 mm เท่านั้น ซึ่งบางลงกว่าเก่าถึง 24% นับว่าเป็นการทุบสถิติใหม่ให้กับวงการเรียบร้อยแล้ว ตัวเครื่องนอก จากออกแบบสวยแล้ววัสดุต้องดีด้วยตามสไตล์ของ Apple โดยด้านหน้าเครื่องและด้านหลังตัวเครื่องจะมาในลักษณะอาคิริคแก้ว หรือ Glass style และเครื่องรุ่นนี้รอบๆตัวจะเป็น แสตนเลสจะคล้ายๆกับกล้องของ Leica รุ่นเก่า การที่มี สแตนเลสรอบตัวนอกจากความสวยงามแล้วมันยังถูกใช้เป็นเสาอากาศไปในตัว จะสังเกตว่าตัวเครื่องจะมีร่องรอยต่ออยู่ซึ่งเป็นเสาอากาศของเครื่องนั่นเอง เพราะขอบทั้งสองฝั่งจะวิ่งมาเจอกันโดยมีร่องกลางคั่นเอาไว้ สิ่ง ที่รอกันมานานสำหรับ iPhone 4 ก็คือกล้องด้านหน้า ซึ่งกล้องในเครื่องรุ่นนี้จะมี LED Flash ให้มาครบ โดยความละเอียดตัวกล้องจะเขยิบมาที่ 5 ล้านพิกเซล พร้อม Zoom 5 เท่าในแบบ Digital Zoom มี “backside illuminated sensor,” สามารถบันทึก HD video ได้ที่โหมด 720p / 30fps สำหรับการแสดงผลหน้าจออันนี้ก็เด็ดสุดเช่น กันเพราะว่าหน้าจอรุ่นใหม่สามารถแสดงความละเอียดได้ถึง 4 เท่าที่ 960 x 640 พิกเซล 326 pixels per inch ซึ่งทาง Apple เองเรียกการแสดงผลแบบใหม่นี้ว่า Retina Display ที่เรต 326ppi ซึ่งเหนือกว่าสายตาของคนเราที่จะแยกความแตกต่างในความละเอียดขนาดนี้ได้ ซึ่งจะคล้ายๆกับเครื่อง iPad ที่เป็น IPS display โดยมีคอนทราสที่ 800:1 บนความใหญ่หน้าจอในขนาดเดิมๆที่ 3.5 นิ้ว สำหรับการทำงานตัวเครื่องนั้นจะใช้ Processsor แบบเดียวกับ iPad นั่นก็คือ A4 processor เมื่อเครื่องแรงภาระก็ตกมาอยู่ที่เรื่องแบตเตอรี่อีก สำหรับ iPhone 4 มีการพัฒนาแบตเตอรี่ให้ใช้งานทนทานขึ้นด้วย ซึ่งความจุของแบตเตอรี่
1.คุยบนเครือ ข่าย 3G ได้นาน 7 ชม ต่อเนื่อง
2.เล่น Net บนเครื่อข่าย 3G ได้นานต่อเนื่อง 6 ชม
3.เปิด WiFi เล่น Net ได้นานต่อเนื่อง 10 ชม
4.ดู VDO ต่อเนื่องได้นาน 10 ชม
5.ฟังเพลงต่อเนื่องได้นาน 40 ชม
อันดับ 5 Nexus One
Nexus One (เน็กซัส วัน) เป็นสมาร์ทโฟนที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 2.1(เวอร์ชันใหม่ล่าสุดของกูเกิ้ล) โดยฮาร์ดแวร์ของมือถือได้รับการพัฒนาโดยบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำในไต้หวันนั่นก็คือ HTC นั่นเอง สเป็กโดยสังเขปของ Google Nexus One หน้าจอทัชสกรีน WVGA OMLED 3.7 นิ้ว (คอนทราส 100,000:1) โพรเซสเซอร์ Snapdragon ความเร็ว 1GHz ของ Qualcomm ระบบปฏิบัติการ Android 2.1 (Eclair) กล้อง 5 ล้านพิกเซล หน่วยความจำ 512MB การ์ดหน่วยความจำ Micro SD ได้ 4GB (สูงสุดได้ 32GB) เชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 802.11 b/g/n 3G และ Bluetooth 2.1+EDR ความหมายของคำว่า Nexus แปลว่า “การเชื่อมต่อ” Nexus One จึงหมายถึง การเชื่อมต่อโทรศัพท์กับเว็บ (webs meet phone) ให้เป็นหนึ่งเดียวนั่นเอง
อันดับ 4 Google TV Via Logitech Revue
Logitech Revue หรือ Google TV set-top box อุปกรณ์ต่อพ่วงอีกชุดที่มีไว้เพื่อเปลี่ยน HDTV ให้เป็น Google TV มาพร้อมด้วยแป้นพิมพ์ควบคุมการทำงาน นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมอีกหลายอย่าง เช่น กล้องวิดีโอ เพื่อใช้วิดีโอคอลกับเพื่อนๆ ผ่านไปยังพีซี หรือ แมค คอมพิวเตอร์ได้ สามารถใช้มือถือ iPhone หรือ Android ควบคุมการทำงานของ Revue ได้ลงโปรแกรมกับ Revue ได้ เช่น Netfilx, NBA.TV, Pandora และโปรแกรมที่รองรับ Google TV ใน Android Marketสามารถเชื่อมต่อ Wireless หรือ Ethernet กับ Revue ได้สิ่งที่จำเป็นต้องมีในการเชื่อมต่อกับ Revue HDTV พร้อมพอร์ต HDMI ขาเข้า (Sony กำลังจะเปิดตัว HDTV เพื่อรองรับ Google TV) Internet (Ethernet หรือ Wi-Fi)กล่องรับสัญญาณเคเบิ้ล หรือ สัญญาณดาวเทียม พร้อมพอร์ต HDMI ขาออก Set-top box คือ อุปกรณ์เชื่อมต่อระหว่างเครื่องแสดงผล (โทรทัศน์) กับสัญญาณภายนอก เพื่อแปลงการทำงานจากดิจิตอลเป็นอนาล็อค ออกทางจอภาพ
อันดับ 3 11-In. MacBook Air
MacBook Air รุ่นใหม่ที่มีหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว ส่วนที่หนาที่สุดจะบางแค่ 0.68 นิ้ว บางสุดแค่ 0.11 นิ้ว และหนัก 2.3 ปอนด์ (ประมาณ 1.05 กิโลกรัม) จอบส์ย้ำว่า เขาไม่ได้ต้องการแมคบุ๊คที่บางทีสุดเพียงอย่างเดียว แต่ต้องแข็งแรงทนทานด้วย ดังนั้นตัวถังของ MacBook Air จึงใช้เป็นอะลูมิเนียมขึ้นรูปชิ้นเดียว (unibody) ในส่วนของสเป็กเครื่อง MacBook Air รุ่นใหม่จะมาพร้อมกับหน้าจอ 11.6 นิ้ว ความละเอียด 1366 x 768 พิกเซล (16:9) ภายในใช้ซีพียู Intel Core 2 Duo ความเร็ว 1.4GHz (อัพเกรดเป็น 1.6GHz ได้) สตอเรจมี 2 ขนาดให้เลือกคือ SSD ความจุ 64GB ราคารุ่นนี้จะอยู่ที่ 999 เหรียญฯ หรือประมาณ 30,000 บาท และควาามจุ 128GB จะอยู่ที่ 1,199 เหรียญฯ หรือประมาณ 36,000 บาท ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมไร้รอยต่อตลอดชิ้น (unibody construction) หน่วยความจำ DDR3 มีให้เลือก 2 ขนาดเช่นเดียวกันคือ 2GB และ 4GB กราฟิกการ์ดที่ใช้เป็น NVIDIA GeForce 320M แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 5 ชม. ดูแล้วน่าใช้ดีนะครับ นอกจากจะมีดีไซน์ที่สวยงามน่าใช้แล้ว MacBook Air รุ่นใหม่ยังมาพร้อมกับ USB แทนแผ่น DVD ที่ภายในจะมีซอฟต์แวร์ระบบ Mac และชุดซอฟต์แวร์ Life 11 โดยเมื่อผู้ใช้เสียบมันเข้ากับเครื่อง แล้วกดปุ่ม “C” ค้างไว้ตอนบูีต MacBook Air จะมองเห็นมันเป็นไดรฟ์ออปติคัล ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งรันการตรวจสอบระบบภายในเครื่อง หรือล้างเครื่องเพื่อติดตัง OS X ใหม่ได้อีกด้วย
อันดับ 2 Samsung Galaxy S
Samsung Galaxy S เป็นการผสมผสานกันที่ลงตัวของฮาร์ดแวร์ขั้นสูงและการใช้งานของโทรศัพท์ เคลื่อนที่ ที่เหนือกว่าคู่แข่ง ด้วยขนาดเพียง บาง 9.9mm Samsung Galaxy S หน้าจอกว้างขนาดใหญ่ 4.0″แสดงผลด้วยจอแบบ Super AMOLED, หน่วยประมวนผล 1GHz processor, ทำให้การถ่ายโอนข้อมูลเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและความจุภายในเครื่องมากถึง 16GB และสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย Micro SD ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 4.0″ Super AMOLED ให้คุณจะสามารถเพลิดเพลินไปกับการชมและบันทึกวิดีโอการเล่นเกมและอ่าน e – books ได้อย่างเต็มอารมณ์ Samsung Galaxy S ด้วยจอลักษณะพิเศษจึงแสดงสีสดใส แม้ในที่ ที่มีแสงแดดจ้า ตารางข้อมูลส่วนตัว Samsung Galaxy S เป็นเครื่องมือที่ทำให้การทำงานของคุณสะดวกมากยิ่งขึ้น เป็นเสมือนเลขาส่วนตัวของคุณ ช่วยให้คุณจัดระเบียบและปรับปรุงข้อมูลรายวันของคุณได้ดั้งใจ โปรแกรม Google Maps Navigation ช่วยให้คุณสามารถค้นหาปลายทางของคุณได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วไม่ว่าทางจะ ซับซ้อนเพียงใดก็ไม่เป็นปัญหา ด้วยมุมมองที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นถนนต่างมุมมองจริงดูการจราจรและดูดาวเทียมเพื่อให้คุณสามารถ หาสถานที่พร้อมกันเช่นสถานีบริการน้ำมันธุรกิจและที่จอดรถ ด้วยระบบ Hyperspeed’ ของSwype เทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณสามารถพิมพ์ข้อความของคุณได้เร็วกว่าเดิม 1.5 เท่าเร็วกว่า texting มาตรฐาน คุณลักษณะและ’Write & Go’ช่วยให้คุณสามารถเลือกข้อความก่อนเขียนและเลือกที่จะส่งในภายหลังโดย SNS, SMS, MMS, อีเมลปฏิทินหรือบันทึก! Phonebook ต่อเนื่องรวมทั้งหมดของ SNS, IM อีเมลของคุณและบัญชีปฏิทินคุณจึงไม่จำเป็นต้องใช้เวลาตรวจสอบเว็บไซต์ที่แยก Samsung Galaxy S ช่วยให้คุณสามารถติดต่อกับครอบครัวและเพื่อน ด้วยการส่งข้อความรวม Samsung Galaxy S ของคุณสามารถ sync โดยอัตโนมัติและจัดการประวัติทั้งหมดของ SNS และบัญชี IM ของคุณเพียงจากหน้าจอ.
และอันดับ 1 ของปี 2010 ได้แก่ iPad
iPad จะมีความหนาเพียง 0.5 นิ้ว และหนักแค่ 1.5 ปอนด์ (ประมาณ 680 กรัม) ใช้สำหรับท่องเว็บ อีเมล์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง เกมส์ และอีบุ๊ก คุณสมบัติโดยรวมจะคล้ายกับไอพอดทัช (iPod Touch) ที่มีขนาดใหญ่กว่า “เราตั้งใจทำให้ไอแพดเป็นทั้งเทคโนโลยี และศิลปะ” สตีฟจอบส์กล่าว “การรวมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน ทำให้เราได้คำตอบออกมาเป็น iPad ” กล่าวโดยสรุป iPad จะสามารถรันแอพพลิเคชันทั้งหมดที่อยู่บนไอโฟน และไอพอดทัชได้ โดยไม่ต้องมีการปรับแต่งการทำงานแต่อย่างใด เพียงแค่ขยายหน้าจอเดิมเป็นสองเท่า มันมาพร้อมกับ iTunes และ App Store คีย์บอร์ดเสมือนสำหรับพิมพ์ และเมนูป๊อปอัพ สนับสนุนการเล่นวิดีโอไฮเดฟฯ เชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 802.11n และ Bluetooth 2.1+EDR ระบบเซ็นเซอร์ Accelerometer เข็มทิศ ลำโพง ไมโครโฟน และคอนเน็คเตอร์ขนาดมาตรฐาน (30 พิน) ของแอปเปิล ภายใน iPad จะใช้ชิป Apple A4 ความเร็ว 1GHz (เป็นชิพที่พัฒนาเอง) และมีหน่วยความจำแฟลชที่มีให้เลือกตั้งแต่ 16GB ถึง 64GB จอบส์อ้างว่า แบตเตอรี่ของมันสามารถทำงานได้นานต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง และสแตนด์บายได้นานมากกว่าหนึ่งเดือน ไอแพดไม่มีสารพิษอย่างสารหนู BFR (Brominated flame retardant) ปรอท พีวีซี และสามารถรีไซเคิลได้แทบทุกชิ้น iPad สนับสนุนการใช้งานเป็น”อีบุ๊ก”ที่มาพร้อมกับร้านหนังสือออนไลน์ “ไอบุ๊กส์” (iBooks) นั่นหมายความว่า แอปเปิลตอนนี้มีร้านค้าออนไลน์ถึง 3 ร้านด้วยกันคือ แอพ สโตร์, ไอจูนส์ สโตร์ และไอบุ๊ก สโตร์ โดยไอแพดรองรับการเปิดไฟล์เอกสาร สเปรดชีต และพรีเซนเทชั่น (iWork ที่ได้รับการปรับแต่งให้ใช้งานบน iPad) ในขณะที่ iPad มี Wi-Fi แต่ก็สามารถเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายไร้สาย 3G (ผ่าน AT&T) โดยขึ้นอยู่กับเวอร์ชันของบริการ โดยหากเลือกใข้แบนด์วิดธ์ขนาด 250MB จะต้องเสียค่าบริการ 14.99 เหรียญฯต่อเดือน หรือประมาณ 500 บาท และแบบไม่จำกัดจะอยู่ที่ 29.99 เหรียญฯต่อเดือน หรือประมาณ 1,000 บาท ซึ่ง iPad 3G ทุกเครื่องจะปลดล็อค (ไม่ผูกติดกับโอเปอเรเตอร์) และใช้ GSM microSIM card สำหรับข้อตกลงการใช้งานในประเทศต่างๆ นอกจากนี้ iPad ยังจะมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมทีมีลักษณะเป็น”ด็อคกิ้ง”ที่มีฟังก์ชัคล้ายกรอบรูป พร้อมด้วยคีย์บอร์ด (สามารถเปลี่ยน iPad ให้กลายเป็นแอคบุ๊ก)
ขนาดตัวเครื่อง 242.8 x 189.7 x 13.4 มิลลิเมตร
น้ำหนัก
– 680 กรัม (รุ่น Wi-Fi)
– 730 กรัม (รุ่น Wi-Fi พร้อม 3G)
จอแสดงผล ระบบสัมผัส Multi-Touch พร้อมเทคโนโลยี IPS
– ความละเอียด 1024 x 768 พิกเซล (132 ppi)
– เคลือบผิวป้องกันรอยนิ้วมือ
– หมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)
– ปรับแสงสว่างอัตโนมัติ (Ambient light sensor)
เครือข่ายการเชื่อมต่อ รุ่น Wi-Fi
– รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n
– การเชื่อมต่อ Bluetooth 2.1 + EDR
– USB 2.0
เครือข่ายการเชื่อมต่อ รุ่น Wi-Fi พร้อม 3G
– รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n
– เครือข่าย UMTS/HSDPA (850, 1900, 2100 MHz) * ใช้สำหรับ รับ/ส่ง ข้อมูล
– เครือข่าย GSM/EDGE (850, 900,1800, 1900 MHz) * ใช้สำหรับ รับ/ส่ง ข้อมูล
– รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n
– การเชื่อมต่อ Bluetooth 2.1 + EDR
– USB 2.0
ระบบนำทาง A-GPS พร้อมเข็มทิศดิจิตอล
หน่วยความจำในตัว มีให้เลือก 3 ขนาด 16 GB / 32GB / 64 GB
ระบบปฏิบัติการ Mac OS X v10.5.8
– หน่วยประมวลผล 1 GHz
เครื่องเล่นเพลง AAC, MP3, Apple Lossless, AIFF, WAV
เครื่องเล่นวีดีโอ H.264, M4V, MP4, MOV
อีเมลสนับสนุนการแนบไฟล์
– ไฟล์รูปภาพ JPG, TIFF, GIF
– เอกสาร doc, docx, pdf, ppt, pptx, txt, .rtf, vcf, xls และ xlsx
– เว็บเพจ htm และ html
แบตเตอรี่มาตรฐาน Lithium-Polymer
– ใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi, ชมวีดีโอ หรือ ฟังเพลง นานสูงสุด 10 ชั่วโมง
ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ไมโครโฟน และ ลำโพงในตัว
ช่องเสียบซิมการ์ด เฉพาะรุ่น Wi-Fi พร้อม 3G
ขอขอบคุณ : time.com