บอกตรงๆ ว่าก่อนหน้านี้เคยได้ยินชื่อเกี่ยวกับระบบเหนือเมฆหรือ cloud computing มาก็ไม่เคยสนใจเท่าไหร่ (เอ้ะ หรือว่ายังมีอีกหลายคนไม่เคยได้ยินคำนี้) เพราะมันคงจะเกี่ยวกับพวกเก็บข้อมูล เก็บ Data ทั้งหลายแหล่ไว้บนเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเกมเมอร์อย่างเราไม่ค่อยจะสนใจหรือข้องเกี่ยวกับอะไรพวกนี้ยกเว้นคนที่ชอบศึกษาการทำเว็บหรือเขียนโปรแกรม
ลองไปค้นหาความหมายของ cloud computing ดันเจอแต่ประโยกแปลกๆ และคำที่อ่านแล้วไม่รู้จะต้องตีลังกาอีกกี่ตลบถึงจะเข้าใจด้วยสมองอันน้อยนิด เอาเป็นว่าสาเหตุที่เรียก Cloud ก็มาจากสัญลักษณ์รูปเมฆ (Cloud) ที่เราใช้แทนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตนั่นแหละ แล้วข้อมูลของเราก็ถูกนำไปเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์หรือบนเมฆที่หลายคนเปรียบเทียบกัน เอาเป็นว่าใครอยากรู้ความหมายที่ลึกซึ่งของมันก็ลองไปเซิร์ทหากันได้ตามสบาย
แต่สิ่งที่เกมเมอร์อย่างผมต้องสะดุดกับไอ้ระบบนี้ก็คงเป็นช่วงหลังๆ มานี่เอง นั่นก็เพราะว่าเริ่มได้ยินคำว่า Cloud บ่อยขึ้นในวงการเกม เลยได้แต่สงสัยว่ามันมาเกี่ยวอะไรกันด้วยกับเกมที่เล่นอยู่ ล่าสุดก็เริ่มเห็นความสำคัญมากยิ่งขึ้นเมื่อเครื่อง PS3 ที่มีอยู่มันเตือนขึ้นมาให้อัพเดทระบบเซฟของเกม โดยให้ความจุถึง 1 GB เพื่อนำเซฟเอาไปเก็บไว้บน Cloud !!
หลังจากที่ได้ลองใช้ดูก็เพิ่งจะซึ้งกับประโยชน์ของมันและทำให้คิดได้หลายอย่างว่าทำไมเกมคอนโซลหรือ PC ในปัจจุบันถึงเน้นนักหนาให้ต่ออินเตอร์เน็ตก่อนทั้งในการติดตั้งและการเล่นเกม ประโยชน์ที่ได้รับหลังจากข้อมูลเซฟถูกนำไปเก็บไว้ใน Cloud ก็คือ แต่ก่อนเซฟเกมในเครื่องของเราก็จะถูกเก็บอยู่แค่ในเครื่องเรา เวลาไปบ้านเพื่อนจะเล่นเกมต่อจากเดิมที่เคยเล่นเอาไว้ก็ไม่ได้เพราะไม่มีเซฟ แต่ด้วยระบบ Cloud ที่เก็บข้อมูลนั้นเอาไว้อยู่ทำให้เราสามารถล๊อคอินไอดีที่เครื่อง PS3 เพื่อนแล้วเข้าไปเอาเซฟที่เก็บไว้มาใช้แบบออนไลน์ได้เลย
ซึ่งหลายเกมของคอนโซลและ PC ในปัจจุบันก็นำระบบนี้มาใช้ให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงเซฟหรือข้อมูลเกมที่เราเก็บไว้ได้แบบออนไลน์จากทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นใน Steam ของ Valvle เอง หรือจะเป็น Uplay ของ Ubisoft ไหนจะค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง EA ที่นำเอาระบบนี้ไปเป็นแนวคิดเพื่อใช้กับบริการ Origin ของตัวเอง มันเลยเชื่อมต่อแนวคิดทำให้เกิดการขายเกมแบบดิจิต้อลดาวน์โหลดในทุกวันนี้ ที่ไม่จำเป็นต้องซื้อกล่องเกมอีกต่อไป แค่มีไอดีและโค้ดของเกมที่ซื้อมาก็สามารถเข้าไปโหลดมาเล่นได้ทุกที่ แถมยังไม่ผุพังอยากจะโหลดมาเล่นตอนแก่ก็ทำได้ไม่ต้องกลัวแผ่นหายด้วย โอ้ว ว้าวววว !!
ต่อไปคาดว่าเราคงไม่ต้องซื้อการ์ดจอซื้ออะไรแพงๆ มาใส่ในคอมแน่ แถมยังไม่ต้องโหลดเกมขนาดใหญ่ๆ มาลงเครื่องด้วย ถ้าเกิดว่าสามารถเข้าไปเล่นเกมกราฟิกเทพๆ ได้จาก cloud computing บนทีวีที่บ้าน เล่นมันบนเซิร์ฟเวอร์เหนือเมฆที่มีคนพัฒนาระบบเอาไว้เหมือน แต่สงสัยว่าต้องใช้เน็ตความเร็วขั้นเทพด้วยแน่นอน..