ไม่นานมานี้เราได้ทำความรู้จักกับคีย์บอร์ดสัญชาติญี่ปุ่น Filco Majestouch Ninja ที่มีเอกลักษณ์ตรงการซ่อมปุ่มตัวอักษรไว้ด้านหน้าปุ่มกันไปแล้ว แต่ตอนนั้นเป็นคีย์บอร์ดที่ใช้สวิตช์สีน้ำตาล มาคราวนี้จึงอยากแนะนำสวิตช์ใหม่สีแดงที่มีสัมผัสการกดแตกต่างกันบ้าง เชื่อว่าการกดปุ่มของเกมเมอร์แต่ละคนแตกต่างกันอยู่แล้ว มาดูกันว่าสวิตช์แบบนี้จะเหมาะกับสไตล์ของตัวเองหรือไม่
ข้อมูลจำเพาะของอุปกรณ์
วัสดุและรูปทรงภายนอก
ขนาด : 440 x 138 x 38.5 มิลลิเมตร
ระบบของปุ่มกด : Mechanical
การเชื่อมต่อ : USB / PS2
แสงบนปุ่มคีย์บอร์ด : ไม่มี
ปุ่มพิเศษ : ไม่มี
ประเภทสาย : ยาง (ยาว 1.5 เมตร)
การเซ็ตค่าปุ่มบนคีย์บอร์ด
ตั้งมาโครหรือบันทึกโปรไฟล์ : ไม่มีไดรเวอร์
Filco Majestouch Ninja Red Switch มีขนาดพอๆ กับคีย์บอร์ดมาตรฐานทั่วไป เอกลักษณ์อันเป็นที่โดดเด่นเห็นแค่วูบเดียวก็รู้สึกได้คือการซ่อนปุ่มตัวอักษรไว้ด้านหน้าของทุกปุ่ม ทำให้เวลามองจากด้านหลังกลายเป็นคีย์บอร์ดสีดำล้วนที่ไม่มีตัวอักษรอยู่เลย ทำให้มันได้ชื่อว่า Ninja นั่นเอง ข้อดีของการซ่อนปุ่มอักษรแบบนี้คือช่วยให้สกรีนตัวอักษรไม่จางเลือนรางแต่อย่างใด แถมผิวสัมผัสเป็นแบบดำด้าน กดไปไม่มีรอยนิ้วมือติด ส่งผลให้ตัวคีย์บอร์ดดูใหม่อยู่เสมอแม้จะใช้ไปนานแค่ไหนก็ตาม คีย์บอร์ดตัวนี้มีน้ำหนักค่อนข้างมาก แสดงถึงความทนทานที่จะอยู่กับผู้ใช้ไปอีกนาน นอกจากนี้แผ่นยางด้านใต้ก็หนาและยาว พอประกอบกับน้ำหนักที่มากอยู่แล้วจะทำให้ยึดติดกับโต๊ะได้ดี สิ่งที่ไม่เหมือนใครยังมีอีกอย่างคือขาตั้งของมันมีแผ่นยางติดมาด้วย คนที่ดึงขาตั้งลงมาจึงมั่นใจได้เลยว่ายึดโต๊ะได้ดีไม่แพ้กัน
ปุ่มของคีย์บอร์ดเป็นประเภท Mechanical มีอัตราตอบสนองสูงและทนทานสุดๆ ส่วนสวิตช์เป็นแบบ Cherry MX Red ที่การกดเป็นแบบจังหวะเดียว แรงดีดของปุ่มค่อนข้างเยอะแต่กลับใช้แรงกดน้อยมากๆ ที่สำคัญเสียงเวลากดไม่ดังเท่าไหร่ด้วย เรื่องของการ Anti-Ghosting เรียกได้ว่าไร้เทียมทานสุดๆ แม้จะเชื่อมต่อแบบ USB แต่ก็สามารถกดปุ่มบนคีย์บอร์ดพร้อมกันได้เยอะมากๆ จากที่ลองกด 10 กว่าปุ่มค้างก็ยังทำงานได้ปกติ คีย์บอร์ดรุ่นนี้ไม่มีการลงซอฟต์แวร์ติดตั้งไดรเวอร์แต่อย่างใด เสียบเข้าคอมพิวเตอร์แล้วใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพทันที ซึ่งเกมเมอร์ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ต้องการเซ็ตค่ามาโครอะไรมากมายอยู่แล้ว คุณภาพอัดแน่นแบบนี้ก็เพียงพอไม่ว่าจะเล่นเกมแนวใดก็ตาม
สำหรับคนที่ยังไม่เคยลองใช้คีย์บอร์ดประเภท Mechanical ก็อยากให้ลองดูสักทีแล้วจะรู้ว่าความต่างมีจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเล่นเกมแนว FPS ที่กดปุ่มลงไปแค่นิดเดียวตัวละครจะขยับตามนิดๆ ทำให้เลื่อนตัวเองไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้แบบเป๊ะมากๆ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณบริษัท ไอทีเวิร์คส์ โซลูชั่น จำกัด เป็นอย่างสูงที่นำคีย์บอร์ดตัวนี้มาให้ทดสอบครับ