DK9008 Shine ส่องสว่างหลากหลายตามสไตล์

1,880 views

จนถึงตอนนี้หลายคนน่าเคยได้ยินชื่อ Ducky ผ่านหูมาบ้าง แบรนด์นี้มีคีย์บอร์ดน่าสนใจอยู่หลายตัว และที่สำคัญยังมีการเล่นแสงไฟบนปุ่มคีย์บอร์ดได้หลากหลายด้วย ซึ่งตัวที่ได้รับความนิยมและเป็นที่พูดถึงมากคือ DK9008 Shine คีย์บอร์ดที่เต็มไปด้วยแสงสีตามสวิตช์ที่เลือกใช้ ทางเราได้สวิตช์สีฟ้าซึ่งมีไฟสีน้ำเงินมาเลยอยากเทสต์ให้ดูว่ามันเจ๋งพอกับราคา 3 พันกว่าๆ หรือเปล่า

ข้อมูลจำเพาะของคีย์บอร์ด

วัสดุและรูปทรงภายนอก
ขนาด : 442 x 140 x 41.5 มิลลิเมตร
น้ำหนัก : 1.2 กิโลกรัม
ระบบของปุ่มกด : Mechanical
การเชื่อมต่อ : USB/PS2 แยกสาย
แสงบนปุ่มคีย์บอร์ด : มีทุกปุ่มเลือกเปิดได้หลากหลาย
ปุ่มพิเศษ : 4 ปุ่ม
ปุ่ม Multimedia : 7 ปุ่ม
ประเภทสาย : ยาง

การเซ็ตค่าปุ่มบนคีย์บอร์ด
ยกเลิกการใช้ปุ่ม Windows : ทำงานได้

 

รุ่นนี้มีเอกลักษณ์ตรงแสงไฟบนปุ่มคีย์บอร์ดที่ส่องสว่างทุกปุ่มแถมปรับให้ติดแค่ปุ่มที่ต้องการได้ 5 แบบคือติดแค่ Num Pad กับฟังก์ชั่นขวาบน, ปุ่ม WASD Space Bar และทิศทางเพื่อคอเกมยิง, ติดทุกปุ่มยกเว้นโซน Num Pad ติดทั้งคีย์บอร์ดและสว่างแบบ Breathing นอกจากนี้ยังเพิ่มลดแสงได้ถึง 4 ระดับด้วยกัน มีน้อยคีย์บอร์ดนักที่ใช้สีสันของแสงไฟให้มีเอกลักษณ์ประจำตัวแบบนี้ รูปร่างและขนาดเท่าคีย์บอร์ดมาตรฐาน น้ำหนักกำลังพอดี พอเอาไปประกอบกับแผ่นยางด้านใต้ที่หนามากๆ ทำให้วางบนโต๊ะแล้วไม่ลื่นหนีไปไหนอย่างแน่นอน ด้านใต้คีย์บอร์ดมีที่เก็บสายไม่ให้เกะกะ ตักอักษรบนปุ่มสกรีนด้วยเลเซอร์ 2 ชั้น ผิวสัมผัสด้านบนจึงมีความรู้สึกหนึบนิ้วเล็กน้อย มีภาษาไทยให้พิมพ์ง่ายไม่ต้องนั่งมั่ว นอกจากนี้มีการแถมปุ่ม WASD สีแดงมาให้เปลี่ยนได้ ซึ่งพอประกอบเข้าไปจะมองหาปุ่มเคลื่อนที่สำหรับเกมยิงได้ชัดเจนแถมมีแสงส่องสว่างไม่ต่างจากปุ่มปกติด้วย

 


ปุ่มของคีย์บอร์ดตัวนี้เป็น Mechanical อัตราตอบสนองสุดยอดเหมาะกับการเล่นเกมที่สุด ซึ่งรุ่นนี้สามารถเลือกสีของสวิตช์ได้ตามใจชอบ ตัวที่ได้มาเทสต์มีสวิตช์สีฟ้าคือสัมผัสเวลากดเป็น 2 จังหวะและมีเสียงคลิกดังมาก ด้านหลังคีย์บอร์ดมีส่วนที่เรียกว่า DIP Switch ช่วยปรับการใช้งานปุ่มกดให้เป็นตามที่กำหนด ซึ่งมี 4 พอร์ตคือล็อคปุ่ม Windows, สลับปุ่ม CapsLock กับ Ctrl, สลับปุ่ม Alt กับ Windows และ USB Full N-Key ที่ทำให้กดพร้อมกันได้หลายปุ่ม

นอกจากปุ่มมัลติมีเดียบริเวณ F1-F7 รุ่นนี้ยังมี ชอร์ตคัทอีก 4 ปุ่มมุมขวาบนของคีย์บอร์ด ซึ่งมีไว้สำหรับเปิดโปรแกรมเครื่องคิดเลข, My Computer, Mail และ Browser ส่วนฟังก์ชั่น 1x, 2x, 3x และ 4x ก็คือ Repeat Rate ของปุ่มกดนั่นเอง DK9008 Shine ไม่มีไดรเวอร์หรือการตั้งมาโครใดๆ เชื่อมต่อก็ใช้งานได้อย่างเต็มขั้นทันที

 

ไม่ใช่ค่ระบบปุ่มกดที่เป็น Mechanical แต่คีย์บอร์ดตัวนี้มีฟังก์ชั่นการทำงานเจ๋งๆ อยู่หลายอย่างที่ทำให้เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ นอกจากนี้ยังมีทีเด็ดที่ตัวอักษรภาษาไทย ไม่ว่าเกมเมอร์แนวไหนก็ซื้อมาใช้งานได้อย่างคุ้มค่าแน่นอน ต้องขอขอบคุณบริษัท IT-Works เป็นอย่างสูงที่นำคีย์บอร์ดตัวนี้มาให้เทสต์ด้วยครับ