เปาบุ้นจิ้นชัดๆ FPS Thailand แบนทีมแข่ง 6 เดือน

1,197 views

ช่วงนี้ติดตามการแข่งขันหลายๆ รายการ เห็นรายการนั้นรายการนี้แข่งกันแบบสุดมันส์ก็อดตื่นเต้นตามไปด้วยไม่ได้ โดยเฉพาะการเห็นคลื่นลูกใหม่ ที่เติบโตขึ้นมาประดับวงการ E-Sports ที่สำคัญแอบสะใจเล็กๆ เมื่อให้พวกเขาเหล่านั้นคว่ำทีมใหญ่ได้อย่างราบคาบ มีให้เห็นไม่บ่อยครับที่ทีมน้องใหม่จะก้าวเข้ามามีส่วนแชร์เงินรางวัลจากพวกทีมระดับหัวกระทิ ส่วนใหญ่ทีมพวกนี้เขาจะนัดกันล่วงหน้า และมาชิงกันเองในบั้นปลาย นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่พักหลัง มักมีรายการแข่งขันที่จัดเฉพาะทีมน้องใหม่ไฟแรงเท่านั้น อันนี้มี 10 มือผมก็ยกให้ 10 มือสำหรับเวทีของทีมระดับล่าง เพราะไม่งั้นไปโดนพวกมือฉกาจตบเข้ามีหวังท้อเลิกเล่น ดังนั้นการจัดพื้นที่ให้ทีมหน้าใหม่ได้ลองฝึกวิทยายุทธจึงจำเป็นอย่างยิ่งยวดให้การลับฝีมือให้คมกริบ และไปเชือดพวกทีมหัวกะทิให้ราบ

แน่นอนว่าการจัดการแข่งขันก็ต้องคำนึงถึงหลายๆ อย่าง ทั้งกติกาการแข่งขัน เวลาการแข่งขัน จำนวนทีม และที่สำคัญอย่างยิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นคือมารยาทในการแข่งขัน รวมถึงการให้เกียรติและเคารพผู้เข้าแข่งขัน เหมือนดั่งที่เราเรียกว่าต้องมีน้ำใจนักกีฬานั่นเอง

ล่าสุดผมเห็นการประกาศของทาง FPS Thailand เกี่ยวกับบทลงโทษของทีมที่เข้าแข่งขันในรายการ PB.GFTC ที่ทาง FPS Thailand เป็นผู้จัดเอง ซึ่งใจความหลักของการประกาศคือ แบนทีมที่เข้าแข่งขันทั้งหมด 3 ทีม (ผมขอไม่เอ่ยชื่อ) อันเนื่องมาจากมีการแข่งแทน โดยใช้ผู้เล่นจากทีมที่ตกรอบไปแล้วมาลงให้ทีมที่กำลังอยู่บนเส้นทาง ซึ่งผลที่ออกมาก็เป็นไปตามหวังคือเข้ารอบต่อไป แต่เนื่องจากทางทีมงานของ FPS Thailnd จับได้ว่ามีการแข่งแทนกันจริง จึงตัดสิทธิ์ทั้ง 3 ทีมออกจากรายการ PB.GFTC และแถมท้ายด้วยการลงดาบสั่งแบนห้ามแข่งขันในรายการที่ทาง FPS Thailand เป็นผู้จัดอีกเป็นเวลา 6 เดือน มีผลนับจากวันประกาศวันที่ 10 มิ.ย. 2553 เป็นต้นไป

จากเหตุการณ์นี้มีหลายคนที่เก็บไปคิดครับว่ามันรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่กับการแบนถึง 6 เดือน กับความผิดโทษฐานเพียงแค่ยืมตัวเล่น บางคนคงรับไม่ได้ เพราะอาจจะคิดว่าเพียงแค่ตัดสิทธิ์ออกจากการแข่งขันน่าจะพอ ไม่น่าถึงขนาดต้องมีการแบนต่อเนื่องออกมาด้วย แต่บางเสียงอาจจะเห็นด้วยกับการลงโทษครั้งนี้ เพราะแค่นี้มันยังน้อยไปกับการไม่เคารพกติกาการแข่งขันที่ห้ามเปลี่ยนตัวผู้เล่น

การแข่งขันในรอบออนไลน์ต้องยอมรับอย่างนึงครับว่า การควบคุมทำได้ลำบาก เพราะแข่งกันจากคนละสถานที่ ซึ่งเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนแข่งที่แท้จริงคือใคร การส่งรายชื่อสมาชิกทีมที่เข้าแข่งขัน จึงถือเป็นการระบุตัวตนที่แท้จริงตามสิทธิ์ที่ต้องกระทำเท่านั้น ส่วนในความเป็นจริงจะมีการแข่งแทนโดยใช้ชื่อที่สมัครไว้ก็สุดแล้วแต่ทางทีมนั้นๆ ซึ่งอย่างที่บอกไปคือทางทีมงานผู้จัดการแข่งขันไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เพราะฉนั้นการแข่งแทนแบบเนียนๆ จึงเป็นเหตุเป็นผลที่พอจะรับไหว แต่ไม่ควรทำ เพราะมันถือว่าคือการเอาเปรียบผู้เข้าแข่งขันทีมอื่นๆ โดยเฉพาะทัวร์นาเม้นต์ที่มีการแข่งขันยาวนานและต่อเนื่อง ซึ่งบางครั้งตัวคู่แข่งเองก็พอทราบครับว่า แท้ที่จริงแล้วคู่แข่งขันใช่คนเดียวกับที่ลงชื่อไว้หรือไม่ เพราะแค่วิธีการเล่นเปลี่ยน สเต็ปเปลี่ยนก็รู้แล้ว เพียงแต่ไม่มีหลักฐานชี้เท่านั้นว่ามีการแข่งแทนกันจริงๆ หลายรายการก็ได้แต่ออกมาโวยวายและเถียงกันไปมาเท่านั้น สุดท้ายจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ผลประโยชน์จึงตกไปอยู่ที่จำเลย แต่ความจริงก็จะปรากฏเมื่อทีมนั้นเข้าถึงรอบออฟไลน์ นี่แหละครับการแข่งขันในทุกๆ รายการจึงต้องมีการแข่งรอบออฟไลน์มาเป็นตัวกรองสุดท้ายก่อนที่จะได้แชมป์ที่มีฝีมืออย่างแท้จริง

โดยความคิดส่วนตัวของผมจากการที่เคยจัดการแข่งขันมาหลายรายการ เหตุการณ์แบบนี้มีให้เห็นบ่อย แต่เพียงแค่หาหลักฐานมาลงโทษไม่ได้เท่านั้น จากการแบน 6 เดือนผมถือว่านี่คือการลงโทษแค่หอมปากหอมคอเท่านั้น เพราะในบางรายการ หากมีการกระทำผิดไม่ว่ารายการใดรายการหนึ่ง จะมีผลถึงรายการอื่นๆ ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการชิงแชมป์ประเทศ หรือหากมีการใช้โปรแกรมช่วยเล่นอาจจะถึงขั้นส่งไอดีแบนเลยด้วยซ้ำ อย่างในต่างประเทศ หากมีการกระทำผิดขั้นรุนแรง จะโดนตัดสิทธิ์ในทุกรายการของปีนั้น แต่กรณีนี้ไม่ค่อยมีให้เห็น เพราะความเป็นมืออาชีพของเขา หรือแค่เบาะๆ คือการปรับเงิน หรือหักเงินรางวัลครึ่งหนึ่งกันเลยทีเดียว ตัวอย่างมีให้เห็นก็ตอนแข่ง LoL ที่มีการมองจอของทีมที่เข้าแข่งขัน สุดท้ายโดนหักเงินกันแบบยกแก๊งค์ ส่วนบ้านเราโดนหักเงินคงไม่เหมาะ เพราะการแข่งขันของเราไม่ได้เป็นระดับอาชีพที่หารายได้ขนาดนั้น เพราะฉะนั้นการตัดสิทธ์และแบนการแข่งขันจึงเป็นทางออกที่ดูแล้วสมเหตุสมผลที่สุด แต่สุดท้ายจะมีผลต่อเนื่องไปถึงรายการอื่นๆ หรือไม่ คงต้องฝากไว้สำหรับเจ้าของเกมที่แจกจ่ายการแข่งขันไปยังผู้จัดรายอื่นๆ รวมถึงการร่างกติกากลางเกี่ยวกับบทลงโทษแบบลูกโซ่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เข้าแข่งขันกระทำผิด เพราะบทลงโทษจะรุนแรงเกินกว่าจะรับได้ แต่สุดท้ายก็ต้องเห็นใจตัวผู้เข้าแข่งขันด้วยเช่นกัน ทำเนียนๆ แข่งแทนกันเอาแค่น้ำจิ้ม ในเหตุผลที่ว่าสมาชิกคนใดคนหนึ่งไม่ว่าง อย่าให้มากันทั้งทีม กันปัญหาการแพ้บายแล้วมีผลกับคะแนน แต่อย่ามุ่งหวังเพื่อการเข้ารอบเป็นอันขาด แค่นี้กรรมการเองก็พร้อมที่จะหลับตาให้ข้างแล้วครับ แต่ถ้าความลับแตกละก็ ต้องลงดาบสถานเดียว เพราะยังไงเสียมันก็คือการเอาเปรียบผู้เข้าแข่งขันอยู่ดี งานนี้ต้องเข้าใจผู้จัดด้วยเช่นกัน