เก้าอี้ดนตรี การย้ายสังกัดมันเป็นเรื่องปกติ

1,320 views

พ่อแม่สอนแต่เด็กว่า ชีวิตเราเกิดมาเมื่อไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป เกิดมามีเพียงแค่ชีวิตเดียว อะไรที่อยากทำจงทำซะ เมื่อมีโอกาสอย่าปล่อยให้มันหลุดมือไป เพราะไม่แน่ว่ามันอาจจะไม่ได้หวนกลับมาหาเราเป็นครั้งที่ 2 แล้วอย่ามานั่งเสียใจว่าทำไมไม่คว้าเอาไว้ แต่อย่างว่าแหละครับ ของแบบนี้บางทีถึงมีโอกาสก็ต้องนั่งคิดเหมือนกันว่า จะใช้โอกาสที่ว่านั้นหรือเปล่า เพราะปัจจุบันบ้านเราทุกวันนี้ บางทีการหยิบฉวยอะไรง่ายๆ มันก็ล้มคว่ำไม่เป็นท่ามานักต่อนักแล้ว หรือบางทีโดนหลอกเพราะเพียงแค่ไม่ทันคิด เพราะฉะนั้นการตัดสินจะทำอะไรสักอย่างในชีวิต มันก็ย่อมต้องมีการวางแผนและไตร่ตรองเอาไว้ก่อน ถึงจะทำมันได้แบบไม่ติดขัด ซึ่งการทำงานของเราก็เช่นกันครับ ยุคนี้สมัยนี้จะนอนรอเงินให้มาหาคงไม่ได้ หรือจะใช้นโยบายแบบเศรษฐกิจพอเพียงเก็บผักจับปลากินไปวันๆ ก็พอไหว แต่ชีวิตของเด็กเมืองกรุงมันทำเช่นั้นไม่ได้ เลยต้องกลายเป็นมนุษเงินเดือนไปโดยปริยาย

เมื่อวันก่อน มีลูกค้ามาเยี่ยมเยียนถึงฐานทัพอู่ข้าวอู่น้ำของผมถึงถิ่น คำว่าลูกค้าของเรามี 2 แบบครับ คือ 1 ก็ท่านๆ ผู้อ่านนี่แหละครับ ที่อุดหนุนคอมพ์เกมเมอร์นิวส์เสมอมา 2. คือค่ายเกมต่างๆ ที่ซื้อ AD ทั้งบนหน้าเว็บหรือในหนังสือ ขอกราบแนบอกกับคำขอบคุณแบบสุดซึ้งที่ทำให้เด็กบ้านนอกตาดำๆ ที่เดินทางมาหากินในเมืองหลวงได้มีกะตังค์ซื้อข้าวกินประทังชีวิต แต่ท่านที่จะกล่าวถึงคือลูกค้าในแบบที่ 2 คือค่ายเกมนั่นแหละครับ เป็นปกติที่เมื่อมีการเปิดเกมหรือมีการอัพเดทแพทช์ จะมีการเดินทางไปพบสื่อเพื่อโปรโมทตัวเกมหรือแพทช์ที่ว่า ทางคอมพ์เกมเมอร์เองก็คือหนึ่งในเส้นทางของการ PR เช่นเดียวกัน ตัวผมเองไม่ได้เข้าไปคุยเรื่องรายละเอียดหรอกครับ ได้แต่นั่งทำงานตามประสาที่นานๆ จะเข้ามาที *0* เพราะตอนนี้มีรายการ Compgamer TV เข้ามาเลยต้องปล้ำกันซะหน่อย

แน่นอนว่าลูกค้ามาก็เลยอยากจะให้ลองของใหม่ เลยขนทีมกันขึ้นมาบันทึกรายการเพื่อประชาสัมพันธ์เกม เลด้าผมจับทันทีเมื่อมี PR สาวๆ ขึ้นมา โอเคใช้ได้ครับ ฮาๆ แต่ที่ต้องตกใจเป็นพิเศษ เมื่อเห็นลูกค้าเราท่านหนึ่งมายืนอยู่ด้านหลัง หันไปถึงกับอึ้ง เพราะเขาคือ GM ท่านหนึ่งของบริษัทเกมชั้นนำย่านพระราม 3 ครั้งหนึ่งเคยเจอแล้วได้เปรยเหมือนกันว่า กำลังเหยียบอยู่ 2 ที่ นั่นอาจจะหมายถึงสถานะยังอยู่พระราม 3 แต่อนาคตอันใกล้จะไปอยู่แถวเมืองทองอะไรประมาณนั้น ซึ่ง ณ ตอนนี้เปลี่ยนป้ายรถเมย์ไปลงเมืองทองเรียบร้อย ซึ่งเหตุการณ์นี้ผมไม่แปลกใจเลยสักนิด ได้แต่ตกใจว่าอ้าวย้ายแล้วเรอะ เพราะสมัยนี้การเปลี่ยนงานถือเป็นเรื่องปกติ แต่ที่แปลกใจก็คือพนักงานระดับมันสมองของบริษัท ย้ายไปทำงานอีกที่เพราะอะไรมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นจากรามคำแหงไปรัชดา จากรัชดาไปรัชดา จากคลองตันไปรัชดา จากรัชดาไปคลองตัน โอยยยย ชินซะแล้ว

วงการเกมบ้านเราจะว่าใหญ่ก็ใหญ่ เพราะมีหลายๆ ค่ายที่ทั้งนำเข้าและผลิตเกมออกสู่ท้องตลาด จะว่าเล็กก็เล็กเพราะสุดท้ายแล้วบริษัทใหญ่ๆ ที่สามารถดูดพนักงานเข้าไปทำงานได้มีไม่กี่ที่ การเห็นคนนั้นคนนี้ย้ายไปทำงานที่นั่นที่นี่ก็เลยเป็นเรื่องปกติไป แต่สำหรับผมคิดแค่นั้นไม่พอครับ เพราะแน่นอนว่าการทำงานวงการนี้ผมรักจับหัวใจ ไม่ได้เลียเจ้านายไปวันๆ ว่าผมรักมัน แต่นี่มันคือจิตวิญญาณของเกรียนที่เล่นเกมคนนึง ผมนั่งทำงานที่คอมพ์เกมเมอร์มาแล้วกว่า 9 ปี ไม่เคยมีความคิดว่าจะย้ายที่ทำงาน กะว่าเจ้านายไม่ไล่คงไม่ไปไหน นี่ไม่ได้พูดเล่นนะครับ เพราะผมบอกตามตรงแบบที่เจ้านายก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีบางบริษัทชักชวนไปร่วมชายคา ยอมรับว่ามีลังเลบ้าง แต่สุดท้ายผมไม่ไปไหนทั้งนั้น เพราะผมคิดว่าที่นี่ก็คือบ้านของผม

steven gerrard ไม่ไปไหนทั้งนั้น แม้จะได้แชมป์ว่าวตลอดกาล เพราะเขาคิดว่าลิเวอร์พูลคือบ้าน

แต่สำหรับท่านอื่น คงมีเหตุจำเป็นของการย้ายหรือเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ อาจจะเนื่องด้วยหลายๆ ปัจจัย การเดินทางคือหนึ่งในอุปสรรค เพราะมีน้องๆ บางคนที่ออกจากที่นี่ไปทำงานที่อื่นเพราะสาเหตุมันไกลเกิน แต่บางคนบอกไกลแค่ไหนก็เหมือนใกล้ถ้าใจเราอยากมาที่นี่

เงินเดือนคืออุปสรรคที่สำคัญอีกประการที่เป็นตัวแปรหลักของการย้าย แน่นอนว่าสมัยนี้ใช้เงินนะครับท่านไม่ได้ใช้พดด้วง ดังนั้นการใช้เงินป้อนเข้าไปมันก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ปันใจจากที่เก่าได้ อนาคตทุกคนอยากมีเลยต้องหางานที่มีค่าตอบแทนสูงไว้ก่อนเพื่ออนาคตที่มั่นคง แต่แค่เงินมันไม่มั่นคงเท่าการมีการงานที่มั่นคงหรอกครับเชื่อผม

ดร็อคบาทำให้เห็นแล้วว่า เงินที่ได้ไม่ใช่ที่สุดของการทำงาน

ปัญหาในองค์กรณ์ก็คืออีกประเด็นที่ต้องออกก่อนเวลาอันควร ทั้งกับเจ้านายเอง กับหัวหน้างาน หรือแม้กระทั่งกับเพื่อนร่วมงานด้วยกัน เพราะอย่างที่เขาบอกกันว่า คับที่อยู่ง่ายคับใจอยู่ยาก การแยกทางจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย หรือแม้กระทั่งนโยบายไม่โดนใจ เกิดปัญหาการเลื่อยเก้าอี้กันเองของหมู่พนักงานด้วยกัน การแบ่งผลงาน การเอาปรียบเพื่อนร่วมงาน พวกนี้มีให้เห็นกันในทุกๆ บริษัทจริง

Mario Balotelli มักมีปัญหากับเจ้านายเสมอ

ที่ต้องออกมาบอกเรื่องนี้ให้ชาวประชาชีได้รู้ก็เพื่อไม่ต้องการให้สับสนถึงตัว GM ที่เป็นไอดอล ว่าทำไมถึงย้าย เพราะวันนึงคุณอาจจะเห็นเขาไม่อยู่ในเซิร์ฟเวอร์ให้คุณได้ร้องทุกข์หรือแซวเล่นอีกต่อไป เขาอาจจะไปโผล่เกมนั้นเกมนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจไปครับ เพราะวงการนี้เปรียบเสมือนเก้าอี้ดนตรี ที่โยกย้ายกันเป็นว่าเล่นอยู่แล้ว หลายที่ใช้เงินเป็นตัวล่อดึงพนักงานระดับมันสมองเข้าไปบริหารจัดการในสิ่งที่บริษัทขาด ซึ่งถือเป็นการตัดขาคู่แข่งไปในตัว แต่สุดท้ายแล้วยังไง ในเมื่อทุกอย่างมันใช้เงิน แต่ไม่ได้ใช้ใจ มันเลยกลายเป็นว่าเงินดีแต่ไม่มีที่ให้คนที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายยืนบริหาร จ้างเขามาเพื่อพัฒนาในสิ่งที่ขาด แต่สุดท้ายกลับไม่ได้รับฟังความคิดเห็นหรือประสบการณ์ที่เขาได้ผ่านมา ก็ออกกันเป็นทิวแถวไม่ต้องอยู่ให้เสียเวลาหรอกครับ ไอ้ส่วนที่ได้ดีก็มีให้เห็นเยอะแยะ หัวอกของพวกเขาเหล่านั้นผมเข้าใจ เพราะมีหลายๆ ท่านเคยมาบ่นให้ฟังเหมือนกันว่าที่นั่นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ก็แค่รับฟังและยอมรับในความเป็นไป เพราะยังไงก็ต้องย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นที่ผมกล่าวไว้คือ ชีวิตเราเกิดมาเมื่อไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป เกิดมามีเพียงแค่ชีวิตเดียว อะไรที่อยากทำจงทำซะ ผมเชื่อว่าพวกเขากำลังทำในสิ่งนั้นอยู่ ชีวิตคนเรามันก็เป็นแบบนี้นี่เอง