คำพูดคือนายเรา พูดแบบนี้คิดยังไงกัน

2,958 views

 

ต้องบอกว่าต่อคิวกันมาแถลงข่าวเลยจริงๆ สำหรับ 2 ค่ายพี่เบิ้มขวัญใจมหาชนของบ้านเรา บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อินิทรี ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) ซึ่งมาจัดแถลงข่าวในช่วงต้นสัปดาห์ของเดือนมีนาคมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ซึ่งในส่วนของ Asiasoft ก็ถือเป็นธรรมเนียมอยู่แล้วครับ ที่จะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับผลประกอบการ รวมถึงแผนการในการดำเนินงานในปีนี้ทั้งหมด ส่วนทาง ini3 ก็ถือว่าสร้างเซอร์ไพรส์นิดหน่อย เมื่อมีการเปิดตัวพันธมิตรรายใหม่นำเข้าจากเกาหลี ที่ขอบอกว่ามีดีกรีไม่ธรรมดา ขนาดที่ ini3 ถึงกับต้องแบ่งปันหุ้นเพื่อให้เพื่อนใหม่รายนี้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจครอบครัวถึง 23% กันเลยทีเดียว

แต่หากเรามองเพียงแค่นี่การแถลงข่าวธรรมดาๆ ละก็ คิดผิดซะแล้วครับพี่น้อง เพราะประเด็นหลักที่ทั้ง 2 ค่ายออกมาประกาศถึงแผนต่างๆ ในปีนี้ มันคือการประกาศสงครามกันกลายๆ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่านะ จริงๆ ผมอาจจะคิดมากไปก็ได้ ถึงแม้ว่าจุดมุ่งหมายในการแถลงข่าวจะต่างกัน แต่หากลองจับประเด็นกันดีๆ มีบางเรื่องที่ทาง Asiasoft และ ini3 จะต้องโคจรมาเจอในสังเวียนเดียวกันด้วย ทีนี้ก็อยู่ที่การจัดการของทั้ง 2 ฝ่ายละครับ ว่าใครจะน็อคใคร อันนั้นมันเรื่องของอนาคต ส่วนปัจจุบันก็มีเสียงตอบรับจากทั้ง 2 ค่ายออกมาแสดงความคิดเห็นกันมากมาย ขนาดบางท่านถึงกับระบายแบบหมดเปลือก ทั้งเชิงลบเชิงบวก เอากันแบบไม่มีไว้หน้ากันเลยทีเดียว ซึ่งผมเองก็ขอจับประเด็นของทั้ง 2 ฝ่าย เอามาเป็นประโยคหรือวลีเด็ดๆ ที่หลุดออกจากปากของทั้ง 2 ค่ายมาวิเคราะห์กัน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ท่านผู้อ่านจะคิดเหมือนผมหรือไม่

เริ่มจากทางฝั่งของ Asiasoft กันก่อนเลย รายละเอียด คลิก http://www.compgamer.com/home/313379

“เราไม่มีความแข็งแรงในโหมดของ E-Sports และ MOBA เราจำเป็นต้องเข้าไปสร้างฐาน”

แหม่…… อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าเพิ่งรู้ตัวหรือรู้มานานแล้ว หากบอกว่าเพิ่งรู้มันก็คงน่าติติงกันพอสมควรครับ เพราะการแข่ง E-Sports ในบ้านเราเข้มข้นแบบนี้มา 3-4 ปีแล้ว หรืออาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ แต่หากบอกว่ารู้มานานแล้วก็น่าต่อว่าต่อขานเข้าไปใหญ่ เพราะรู้ทำไมไม่ลงมือทำ หรือจะบอกว่าทำแล้วกับการแข่งขัน AS Battle หรือแม้กระทั่งการแข่งขันเกมในเครือ FPS ซึ่งตรงนั้นผมเองก็ยอมรับเหมือนกันว่า ทำออกมาค่อนข้างดี แต่เสียอย่างเดียวคือไม่มีการสานต่อ หรือผลักดันเท่าที่ควร และก็ขอย้ำไว้ด้วยว่า E-Sports ไม่ได้มีเฉพาะ MOBA เท่านั้น ทุกเกมสามารถสร้างเป็น E-Sports ได้หมด อยู่ที่เราจะทำหรือไม่ทำเท่านั้นเอง ผมเสียดายกับหลายเกมที่พังลงไปเพราะทาง AS นิ่งเฉยในเรื่องของการสนับสนุนการแข่งขัน ทั้งๆ ตัวเกมก็เอื้ออำนวยมาทางด้านนี้อยู่แล้ว ก็ได้แต่แอบหวังกับประโยคที่ว่า “เราจำเป็นต้องเข้าไปสร้างฐาน” จะเห็นเป็นรูปธรรมขึ้นมาแบบชัดเจน ไม่ใช่แค่แตะๆ แล้วเลิก ขอให้ดันจริงๆ ผมเชื่อว่ายังมีเกมเมอร์คอยสนับสนุนอยู่เยอะ

“เราไม่มีเวลาว่างเพียงพอที่จะไปทำเรื่องเล็กๆ แล้ว เราเอาคนของเรา เวลาของเรา ไปทำเรื่องใหญ่ๆ แต่ใช้คนน้อยลงได้”

สาธุครับ หากทำได้จริงผมจะขอขอบพระคุณอย่างสูงเลย เพราะพวกผมจะได้รับประโยชน์กันเต็มๆ แต่ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับว่า เรื่องบางเรื่องบางคนอาจจะมองว่าเรื่องเล็ก แต่มันอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ของบางคนก็ได้ เพราะฉะนั้นผมว่าน่าจะให้ความสำคัญจากทุกองค์ประกอบน่าจะดีกว่านะครับ เรื่องเล็กบางทีก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้หากเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับมัน หรือปล่อยปละละเลยมากเกินไป เหมือนที่เขาว่ากันว่าน้ำผึ้งหยดเดียว ซึ่งเรื่องใหญ่ที่ว่านี้คงหมายถึงการเปิดเกมใหญ่ๆ ระดับโลก เกมที่ทั่วโลกรู้จัก ส่วนเรื่องเล็กที่ว่าจากการแถลง มันคือเกมตัวอื่นๆ ที่มาจากฝั่งเกาหลีหรือแถบเอเชียหรือเปล่าอันนี้ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ หากตีความออกมาเช่นนั้นก็เท่ากับว่า เกมตัวเล็กๆ จะโดนทอดทิ้งหรืออย่างไรครับ แล้วเกมใหม่ที่ใหญ่กว่าจะมั่นใจได้แค่ไหนว่าเกมเมอร์บ้านเราจะชอบ หรือเพียงแค่วัดจากทั่วโลกให้ความสนใจหรือเป็นเบอร์หนึ่งของประเทศอื่น อย่าลืมเชียวนะครับ ประวัติศาสตร์ของการเปิดเกมในบ้านเรา มีหลายเกมที่เป็นเกมระดับท็อปแต่ดับสนิทในบ้านเราก็มีให้เห็นกันจนชินตา

“โมบาย เป็นสิ่งที่เราค่อนข้างเน้นในปีนี้เหมือนกัน ซึ่งก็ตั้งเป้าว่า อยากให้มีรายได้ในสัดส่วน 5% ของรายได้ทั้งหมดของเราในปี 2014”

อันนี้ผมขอปรบมือให้ในความคิดริเริ่ม และเปิดทางใหม่ๆ ให้กับเกมเมอร์ทุกเพศทุกวัย รวมถึงขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ก็สอดคล้องกับปัจจุบันที่หลายๆ ท่านจะมีเจ้าสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง เล่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง หากทาง AS ต้องการจะเน้นคนกลุ่มนี้ ผมก็คิดว่ามาถูกทางแล้ว ซึ่งมีให้เห็นกันเป็นน้ำจิ้มกันไปแล้ว 1 เกมคือ RO Mobile ที่ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีไม่น้อยเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แค่ทำมันไม่ใช่ว่าจะประสบผล แต่มันต้องผลักดันและพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เพราะ App สมัยนี้ผมเองยังระบุไม่ได้เลยว่ามีไปแล้วกี่แอพ ขออภัยที่ไม่อาจจะประมาณได้ เพราะฉะนั้น หากจะทำต้องทำออกมาให้ดี ออกมาง่อยๆ ละก็ กลายเป็นมลพิษชิ้นใหม่ของทาง AS ก็ได้นะครับ

“การเข้าไปลงทุน ใช้งบประมาณไม่เกิน 5 ล้านเหรียญ 4.2 เอาไว้ใช้ กับอีก 8 แสนเหรียญ เอาไปใช้ในส่วนของหนี้ที่เขามีอยู่ เราจะเข้าไปเป็นเจ้าของแบบ 100% ใน Level Up”

ข่าวนี้คงจะพอทราบกันไปบ้างแล้วสำหรับการเข้าไป TakeOver Level Up บริษัทเกมจากฟิลิปปินส์ ใครที่ยังไม่ทราบข่าวลองเข้าไปที่ http://www.compgamer.com/home/312078/ ซึ่งข่าวนี้เรียกเสียงฮือฮากันได้มากโขจริงๆ หลายท่านอาจจะยังไม่รู้จัก Level Up แค่ลองนึกภาพตามก็คล้ายกับ AS เองนั่นแหละ ที่ถือเป็นขาใหญ่ของวงการในบ้านเขา ซึ่งรายได้ก็ปาเข้าไปกว่า 300 ล้าน ต่อปีเลยทีเดียว โดยงานนี้ก็มีการยืนยันไว้ด้วยว่า สามารถครอบครอง Level Up แบบเบ็ดเสร็จ 100% เต็ม โดยเกมส่วนใหญ่ก็คล้ายคลึงกับที่ทาง AS เปิดในบ้านเราตอนนี้ แต่ที่แตกต่างคงจะเป็นเกม Point Blank ที่ทาง Level Up เป็นผู้ปกครองดูแลอยู่ ไม่แน่ว่าทาง AS เองก็แอบเล็งตัวนี้ เพื่อความสัมพันธ์อันดีในอนาคตของ Zepetto ก็แอบคิดไม่ได้ว่า มันคืออีกหนึ่งแผนของการย้ายบ้านของเกม Point Blank ก็เป็นได้

“สิ่งที่เรากำลังเตรียมทำหลายๆ เรื่อง คือเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจากผู้ให้บริการเกม เป็นผู้ให้บริการทางด้าน Online Entertainment”

เรื่องนี้ผมว่ายังไงก็ต้องชี้ชัด ว่าตกลงแล้วจุดยืนของทาง Asiasoft คืออะไรกันแน่ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในความคิดของเกมเมอร์หลายๆ ท่าน รวมถึงตัวผมเอง ต่างมองว่า Asiasoft คือค่ายเกมเบอร์ 1 ของเมืองไทยมาตลอด ถึงแม้ว่าระยะหลังอาจพังไปกับหลายเกมก็เถอะ แต่การที่ออกมาบอกว่า จะเปลี่ยนตัวเองจากผู้ให้บริการเกม เป็นผู้ให้บริการทางด้าน Online Entertainment นั้น คงต้องถามต่อครับว่า แล้วรากฐานที่ท่านสร้างมา จะลดบทบาทลงเพื่อไปทำอย่างอื่นมากขึ้นหรืออย่างไรครับ ซึ่งล่าสุดก็ถึงขนาดยืดอกยอมรับว่าขาดทุนจากการบริหารเกมตลอดปีที่ผ่านมา มันทำให้คิดว่า จะทอดทิ้งเรือธงแล้วไปทำอย่างอื่นเพิ่มเติมหรือ หากเป็นเช่นนั้นก็รู้สึกไม่มั่นใจแล้วสิครับ แต่ถ้าไอ้คำว่า Online Entertainment มันครอบคลุมไปทุกตารางนิ้วของการบริหาร ทั้งการจัดการบริหารด้านเกม การจัดการบริหารด้าน Online อื่นๆ ทำให้ควบคู่ โดยที่ไม่ลดบทบาทของเกมลงไป อันนี้จะดีมากๆ ซึ่งผมเองก็หวังเช่นนั้น เพราะหากเป็นอย่างที่ว่า ท่านจะสามารถสร้างกลุ่มคนได้ทุกรูปแบบ และทำให้ Comunity เข้มแข็งขึ้น แต่ระวังเรื่องการทำอะไรหลายๆ อย่างไปพร้อมๆ กันมันจะพังเอานะครับ ตอนนี้ผมก็แค่เอาใจช่วยว่าแผนนี้จะสำเร็จลุล่วง เพราะถ้าทำได้ ประโยชน์ก็คือตัวท่าน ส่วนความมันส์จะตกเป็นของเราครับ

ข้ามมาฝั่ง ini3 กันบ้าง ที่เปิดฉากกันแบบถามตอบมากกว่าการแถลง รายละเอียด คลิก http://www.compgamer.com/home/313445

“การที่เราตัดสินใจเข้าเป็นบริษัทมหาชน เพราะเราต้องการขยายธุรกิจเราสู่ Southeast Asia”

ขออภัยถ้าหากผมบอกว่าเพิ่งรู้เหมือนกัน – -” ว่าจุดมุ่งหมายของทาง ini3 ในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ก็เพื่อจะขยายฐานที่มั่นให้ครอบคลุมแถบ Southeast Asia ตอนแรกก็คิดแค่ว่า เพื่อการระดมทุนแค่นั้น แต่ก็ถือว่าเป็นข่าวที่ดีครับที่จะมีการเติบโตของบริษัทให้กว้างขวาง รองรับ AEC กับเขามั่ง แต่จงอย่าลืมเชียวนะครับว่ายังไงก็อย่าทิ้งเกมเมอร์บ้านเรา เพราะบางเจ้าไปเน้นที่ต่างประเทศมากกว่าแล้ว ขนาดบางเกมยังเปิดเซิร์ฟเวอร์ SEA อย่างเดียวเลย เด็กไทยเข้าไปก็บ่นอุบ ทั้งแลค ทั้งภาษาไม่ได้ อันนี้เก็บไปทำการบ้านด้วยนะครับ ว่าจะทำยังไงให้เกมเมอร์ไทย และเกมเมอร์แถบ Southeast Asia เดินไปด้วยกันได้แบบไม่มีสะดุด หากทำได้ก็ขอให้เจริญๆ ครับ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ขอให้นึกถึงเกมเมอร์ตาดำๆ หัวเกรียนๆ บ้านเราก่อนนะครับ ^^

“มีเงินทุนอย่างเดียวประสบความสำเร็จไหม ไม่จำเป็น แต่ต้องมีทุน และมีโอกาสในการเข้าถึงธุรกิจอื่นๆ”

พูดอีกก็ถูกอีกแหละครับ เพราะขืนเอาเงินไปใช้ในทางที่ผิดและไม่เกิดผลขึ้นมาก็ไม่ต่างจากตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ หรือพวกสามล้อถูกหวย ที่มีเงินแต่ใช้ไม่เป็น การลงทุนก็เช่นกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่าทุกการลงทุนจะต้องมีปัจจัยหลายๆ อย่างเข้ามาเสริม ซึ่งหัวใจหลักนั่นคือเงิน ซึ่งผมก็เชื่อว่าทาง ini3 เองก็ทราบตรงจุดนั้นดีอยู่แล้ว เพราะจากที่ผ่านมามีการลงทุนไปเยอะ ได้มาก็ไม่น้อย เจ็บมาก็เยอะ อย่างว่าแหละครับทุกการลงทุนมีความเสี่ยง แต่หากเพิ่มเติมในส่วนของโอกาสหรือช่องทางเข้าไป ซึงในที่นี้ทาง ini3 ก็เล็งเห็นว่าทาง SoftBank เพียบพร้อมไปซะทุกเรื่องอย่างที่ ini3 ต้องการ ก็ไม่แปลกหรอกครับที่จะเพิ่ม SoftBank เป็นสมาชิกใหม่เข้าไปในครอบครัว

“ถือเป็นอีก 1 โอกาสของ ini3 ในการสร้างกองกำลังใหม่ ในการเปิดตัวตลาด Moblie”

นี่ไงครับที่ผมบอกว่า แนวทางของ ini3 ไปชนกับของทาง Asiasoft หรือ Asiasoft มาชนกับ ini3 ก็ไม่รู้สินะ – – นั่นคือการบุกเบิกตลาดเกม Mobile ที่นับวันมันยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆ ดูอย่างที่เกาหลีสิครับ แข่งกันเมามันเลย ขนาดค่ายยักษ์ใหญ่หลายๆ ค่ายก็หันมาจับเกม Mobile กันทั้งนั้น หากว่า ini3 จะเอาด้วยก็ไม่แปลก เพราะ SoftBank เองก็ถือว่ามีฐานของตลาดเกม Mobile ที่แข็งแรงเอาเรื่องทีเดียว ดังนั้นไอ้คำว่ากองกำลังมันคงไม่เกินจริงหรอกครับ เพราะยังไงเสีย SoftBank คงไม่ปล่อยให้ช้ำแน่ เพราะมีประสบการณ์ตรงในเรื่องนี้เป็นทุนเดิม จะพลาดก็น่าจะมีประเด็นเดียวคือไม่รู้สไตล์ของเกมเมอร์ไทยก็เท่านั้น แต่ตรงนี้ก็คาดหวังว่า ini3 จะเข้าอกเข้าใจเกมเมอร์ไทย และหาเกมอะไรก็ได้ที่เด็กไทยเห็นแล้วเฮโลโหลดเล่นกันทั้งบ้านทั้งเมือง ไม่ใช่เอาเกมนั่งตบยุงเข้ามานะครับ

“อีก 3 เดือนข้างหน้าเรามีการเตรียมคอนเท้นที่เกี่ยวกับ Mobile เยอะมาก”

รับปากแบบนี้ก็ต้องปูเสื่อรอกันก่อนเลยนะครับแหม่….. ถือเป็นการรับปากรับคำว่ายังไงอีก 3 เดือน เราจะได้เห็นความเคลื่อนไหวของ ini3 ที่ร่วมกับ SoftBank หาเกมที่โดนใจวัยรุ่น เอามาให้โหลดให้จิ้มกัน กล่าวถึงช่วงเวลากันขนาดนี้ก็คงมีความมั่นใจสูงละครับว่าทำได้ หรือไม่ก็มีทุกอย่างพร้อมสรรพอยู่แล้ว แต่หากว่ามันจะนานกว่านั้นก็ไม่มีใครว่าหรอกนะครับ ถ้าหากว่ามันมีเกมที่ออกมาแล้วถูกใจจริงๆ แต่หากรีบร้อนเกินไปแล้วออกมาไม่ดีมันก็จะไม่ต่างอะไรจากเกมหลอกให้โหลดแล้วลบทิ้ง ซึ่งตรงนี้ก็ไตร่ตรองและศึกษาเกมเมอร์บ้านเราให้ดีๆ ว่าจะเจาะกลุ่มไหนอะไรยังไง ตรงนี้น่าเป็นห่วงครับ

“โอกาสของนักผู้พัฒนาไทยที่ผ่านมาค่อนข้างน้อย แต่วันนี้โอกาสหลายๆ อย่างได้ถูกเปิดออก”

ถือเป็นโครงการที่ดีอีกโครงการที่ผมได้ฟังจากการแถลงข่าวเลยจริงๆ หลายครั้งที่มักมีการผลักดันผู้พัฒนาไทย พยายามแล้วพยายามอีก แต่ก็ไม่รู้ว่าไปติดเอาตรงไหนมันถึงดันกันไม่สุด หรือว่าเกมเมอร์บ้านเราไม่ค่อยให้ความสนใจกับเกมที่พัฒนาโดยคนไทย อันนี้ก็เป็นได้นะเออ เพราะเชื่อว่าหากได้รู้ว่ามันคือเกมคนไทยทำ มักจะร้องยี้โดยที่ยังไม่ได้ลองเสมอ ซึ่งนั่นเองที่ถือเป็นทางตันที่ ini3 จะต้องทำให้ได้ การผลักดันไม่ใช้เรื่องยาก แต่จะยากนั่นคือการเอาเข้าปากเกมเมอร์บ้านเรานั่นเอง เพราะฉะนั้นการเพิ่มโอกาสให้ผู้พัฒนาไทยก็ถือว่ามีเจตนาที่ดี แต่จะให้ดีก็อย่างที่บอก หากปลายทางหรือผู้บริโภคไว้รอ ไม่งั้นต่อให้มีโอกาส แต่ไม่มีผู้สนับสนุน จะกลายเป็นเสียโอกาสไปนะครับ

ยาวเกินจะอ่านกันมั้ยเอ่ย แต่ถ้าอ่านถึงตรงนี้ก็ขอบพระคุณอย่างสูงที่พยายามอ่านจนจบ ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเพียงความคิดเห็นของเกรียนคนนึงแค่นั้นเอง ที่มักจะมีข้อสงสัยเป็นหนูน้อยจำไม ที่ใครจะทำอะไรผมมักตั้งคำถามเสมอ ก็ไม่รู้ว่าจากที่อ่านมามีใครคิดตรงกับผมหรือไม่ ทุกครั้งที่ผมมานั่งแสดงความคิดเกี่ยวกับการบริหารในเชิงของธุรกิจหรือการตลาดก็มักจะออกตัวไว้เสมอว่า ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้มากนักหรอก เพียงแต่ต้องการในส่วนที่เกมเมอร์ทั่วไปสมควรจะได้รับจากพี่ๆ แค่นั้นเอง หากจะเปรียบก็คือ เกมเมอร์คือลูกค้า ย่อมสรรหาสิ่งที่คุ้มค่ากับการลงทุนเท่านั้น เงินไม่กี่ร้อยไม่กี่พัน เกมเมอร์บางคนบอกว่าจิ๊บๆ แต่บางคนอาจจะบอกว่าเยอะก็ได้ ลองเขาได้ตัดสินใจเอาเงินไปลงทุนเพื่อเล่นเกมของพี่ๆ เขาก็คือคนสำคัญแล้ว คงเคยได้ยินนะครับ ลูกค้าคือพระเจ้า พี่ๆ อยู่ได้เพราะเขา แต่หากพี่ๆ ไม่สนใจพวกเขาเหล่านั้น ก็เตรียมพังได้เลย เพราะไม่ว่าทำอะไรก็แล้วแต่ มันต้องมีผู้สนับสนุน คอยหนุนหลัง มีกำลังใจ แต่หากต้องตัดแรงใจเหล่านั้นทิ้ง เชื่อเลยครับเดินไปไม่ถึงเส้นชัยแน่ ใจเขาใส่ใจเรา ฝากพี่ๆ ไว้ด้วยแล้วกันครับ ในฐานะเกรียนตาดำๆ คนนึง

 

ด้วยความนับถือ

Patchyim