พุทธพจน์
อายุอานามของผมตอนนี้ก็ถือว่ามากเอาเรื่อง ส่วนอายุของการเล่นเกมก็คงจะมากตามอายุ ฉุดๆ กันไป ประคองกันไป แน่นอนว่าเกมที่ผ่านตาผ่านมือคู่นี้ตั้งแต่เด็กไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์หรือออนไลน์ มีมากกว่า 1,000 เกม แต่ระยะหลังเล่นน้อยลงด้วยสาเหตุหลายประการ ทั้งอายุ หน้าที่การงาน และคุณแม่ขอร้อง ประกอบกับสายตาฝ้าฟาง มือไม้สั่นเล่นสู้ใครไม่ค่อยจะได้ เลยผันตัวเองมาเป็นผู้ดูมากกว่าผู้เล่น ก็ไม่ใช่ว่าจะทิ้งไปเสียทีเดียว เพราะถ้าทิ้งการเล่นเกม เจ้านายคงตะเพิดผมออกจากบริษัทคอมพ์เกมเมอร์อันเป็นที่รักแน่นอน อีกอย่างของแบบนี้มันฝั่งอยู่ในสายเลือดหรือจะเรียกให้เข้าใจง่ายขึ้นคือมันเป็นสันดานของผมไปแล้ว เลิกไม่ได้หรอก
และก็แน่นอนครับ เมื่อมีการเปิดให้บริการเกมในบ้านเรา มันก็ต้องมีการจากลาเป็นเรื่องปกติธรรมดา ซึ่งวิถีแบบนี้เขาเรียกว่า “วัฏจักร” หากมีเปิดแต่ไม่มีปิด มันก็จะล้นโลก ไม่สิ จะล้นเซิร์ฟเวอร์และเปลืองทรัพยากรโดยใช่เหตุ เพราะฉะนั้นการเลือกที่จะยุติการให้บริการเกมออนไลน์ในบ้านเรา จึงถือเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนสามารถรับได้ หรือบางคนก็รับไม่ได้เพราะเติมกะตังค์ไปเยอะอยู่อันนี้ปัญหาใครปัญหามันครับ
ซึ่งสาเหตุของการปิดให้บริการเกมมันก็มีอยู่หลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักๆ ที่ใช้อ้างอิงในการปิดให้บริการจะมีอยู่ 3 ประเด็นคือ แบบแรกโยนไปให้ผู้ผลิตหรือผู้พัฒนา เจ้าของที่ให้กำเนิดเกมนั้นๆ ด้วยสาเหตุที่ว่า ทีมงานผู้พัฒนาได้ยุติการพัฒนาเกมดังกล่าวลง จึงไม่สามารถเปิดให้บริการต่อได้ เนื่องด้วยเกมมีความนิ่งเกินไปเด็กไทยไม่ชอบ เลยเลือกที่จะขอหยุดการให้บริการในบ้านตามไปด้วย อ่าาาาาา ฟังดูพอจะเข้าใจครับ เพราะทุกอย่างมันมาจากทางผู้ผลิตจริงๆ ก็ไม่รู้จะทำยังไง ฝืนเปิดต่อก็เจ็บตัว เพราะเกมมันไม่เดินหน้า มีแต่ย่ำอยู่กับที่เผลอฉุดกันลงเหวหมด ทางออกที่ดีคือยุติการให้บริการดีที่สุด
สาเหตุที่ 2 ที่พบบ่อยมากคือ หมดสัญญา อย่างที่ทราบครับว่าการเปิดเกมแต่ละเกมจะต้องมีสัญญาเป็นตัวผูกมัด บางเกมเซ็นปีต่อปี บางเกมเซ็นรวดเดียว 3 ปี อันนี้ก็แล้วแต่นโยบาย พอถึงวาระก็จะมีการถกเถียงและลงรายละเอียดในเรื่องของการต่อสัญญา ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องคุยกันยาวระหว่างผู้พัมนาเกมและผู้ให้บริการ เพราะหากยอดไม่เป็นไปตามเป้า ทางผู้พัฒนาเองก็จะมีอิดออดเล่นตัวบ้างเป็นเรื่องปกติ ส่วนใหญ่ก็จะจบแบบไม่ค่อยสวยนัก ไม่พระเอกตาย นางเอกก็โดนข่มขืน แยกทางเพราะรักร้าวในบั้นปลายชีวิต
สาเหตุที่ 3 ที่ขอบอกว่าอันนี้เราทำตัวเองเต็มๆ นั่นคือเกมนี้ไม่ถูกใจจอร์จ ไม่ว่าเกมมันจะดังมาจากไหน อันดับ 1 ในเกาหลี ยอดผู้เล่นกว่า 6 ล้านไอดีจากจีน เปิดวันเดียวที่ไต้หวันแห่เล่นตั้ง 3 แสน แต่มาบ้านเราไม่ต่างจากป่าช้าวัดดอน เงียบสงัด ลมโชย 9 ฮาร์ปี้ร้องอี้ๆ ซอมบี้นั่งหลับเพราะไม่มีคนไปตี เลยพาลให้คนที่เข้ามาเล่นเกิดไม่มั่นใจในตัวเกมและการให้บริการ ก็ถอนตัวกันไปเป็นแถวๆ ผลสุดท้าย เหลือคนที่รักจริงหวังแต่งเท่านั้น ทางออกที่ดีคือ ยุติมันลงด้วยการปิดเซิร์ฟเวอร์ไปเลย ของแบบนี้มันอยู่ที่วิสัยทัศน์ของผู้ให้บริการมากกว่า จริงๆ น่าจะดูนิสัยของเด็กไทยว่าชอบแนวไหนมากกว่า ยังไงก็ฝากด้วยนะครับ
หลังปิดมักจะเกิด Aftershock ตามมานิดหน่อย ไม่ถึงขนาดขั้นสึนามิ ตรงที่ติดปัญหาเรื่องการเติมเงินของเกมเมอร์ที่ลงทุนลงแรงไปเยอะ มันก็ต้องมีนโยบายการชดเชยเป็นเรื่องปกติ ยอมขาดทุนเพื่อรักษาสถานภาพของบริษัทไว้ แต่วิธีหลักๆ ที่มักจะนิยมใช้กันคือประกาศยุติช่องทางการเติมเงินล่วงหน้า แล้วลดแหลกแจกแถม หรือโอนเงินดังกล่าวไปอีกเกมในเครือ ก็ไม่ได้เล่นเกมนั้นนี่หว่าจะโอนไปทำไมละเนี่ย เจสสส
แต่ยังไงก็ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรากันบ้างนะครับ ลองนึกถึงหัวอกคนให้บริการ เขาหนักและเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะเอาเกมมาให้ได้เล่นได้เกรียนกัน จนทุกวันนี้บ้านเรามีเกมออนไลน์เปิดไปแล้วเกิน 100 เกม และก็ปิดไปแล้วหลายสิบเกมเช่นกัน รายชื่อรายนามไม่ขอเอ่ย เพราะเยอะเกิน แต่ 2 รายล่าสุดมีออกมาแล้วไล่ๆ เลี่ยกัน คือ Bumpy Crash และ Yogurting สาเหตุก็อยู่ 1 ใน 3 ตามที่ผมบอกไป ยังไงก็ขอแสดงความเสียใจกับแฟนพันธุ์แท้ทั้ง 2 เกมด้วยนะครับ
จริงๆ การปิดเกมจะลดน้อยลง หากเกมเมอร์อย่างเราๆ ช่วยกันอุดหนุน มีมากจ่ายมากมีน้อยจ่ายน้อย ไม่มีก็ไม่ว่ากัน หากพวกเขาอยู่ได้เราก็ได้มันกันต่อ หากทำไปแล้วขาดทุนเจ็บตัว ผู้เล่นไม่สนับสนุน ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ขอบายกันทั้งนั้น และวันนึง บ้านเราจะไม่มีเกมออนไลน์หลงเหลือให้เล่นกันอีก ไม่ใช่พูดเล่น แต่มันจะเป็นจริงหากเราไม่สนับสนุนวงการเกม จริงมั้ยครับท่านผู้อ่าน
