กล้องรุ่นใหม่ล่าสุดของ Nikon ออกมาให้สาวกได้ชื่นชมกันอีกแล้วกับรุ่น D5100 ซึ่งเปิดตัวไปแล้วที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา
D5100 มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์แบบ CMOS ความละเอียด 16.2 MP ค่าความไวแสง (ISO) ตั้งแต่ 100 ถึง 6400 และสามารถดันขึ้นไปได้ถึง 25,600 ทำงานร่วมกับโปรเซสเซอร์ประมวลผล EXPEED 2 มีจุดเซนเซอร์ Auto Focus ถึง 11 จุด และถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 4 ภาพต่อวินาที กล้องเล็กตัวนี้สามารถบันทึกภาพวิดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p พร้อมระบบ Fulltime Autofocus จับโฟกัสได้ตลอดเวลาที่บันทึกภาพวิดีโอ และสามารถปรับควบคุมรูรับแสงได้ตลอดเวลา
D5100 สามารถบันทึกวีดีโอได้ถึงระดับ Full HD ที่ 24 หรือ 30 ภาพต่อวินาที หรือจะเลือกให้เหมาะกับงานเว็บไซต์ที่ 720p 24 และ 30 ภาพต่อวินาที ได้สูงสุด 20 นาทีต่อคลิปด้วยระบบการบันทึกภาพและบีบอัดแบบ AVC-HD H.264 แถมยังมีระบบตัดต่อวีดีโอแบบ “จบ” ในกล้องได้เลย
จุดเด่นอีกข้อหนึ่งของ D5100 คือ จอภาพ LCD ด้านหลังขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 921,000px ระดับ contrast ratio ถึง 1000:1 ที่สามารถปรับเปลี่ยนมุมมองได้ 180 องศา (Vari-angle) แบบเดียวกับที่ Nikon D7000
นอกจากนี้ยังมีระบบ Night Vision Mode การบันทึกภาพจากสภาวะที่มีแสงน้อยแบบสุดๆ , effect ให้เลือกใช้งานได้อีกหลายแบบ , Scene Recognition System คิดคำนวณค่าการเปิดรับแสงที่เหมาะสม, In Camera Retouch โดยที่เราสามารถปรับแต่งแก้ไขภาพได้ทั้งภาพปกติและไฟล์ RAW (NEF) ได้ทันทีหลังจากถ่ายภาพ
ในการเปิดตัว D5100 ครั้งนี้ Nikon ก็ได้ปล่อย Microphone ตัวใหม่ในรหัส ME-1 ออกมาพร้อมกันด้วย เพื่อให้ระบบการบันทึกเสียงของการบันทึกภาพวีดีโอมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
Nikon D5100 สนนราคาประมาณ 24,147 บาท เฉพาะตัวกล้อง และ 27,166 บาท หากต้องการให้มี Nikkor AF-S DX 18-55mm F3.5-5.6 G ED VR ติดมาด้ว ส่วน ME-1 นั้นจะราคาอยู่ 5,432 บาท