Apple ยื่นฟ้อง Samsung ละเมิดลิขสิทธิ์ลอกเลียนแบบสินค้า!

2,330 views

กลายเป็นเรื่องเป็นราวไปซะแล้ว ระหว่างสองมือถือค่ายยักษ์ใหญ่  เมื่อ Apple ยื่นฟ้อง Samsung ข้อหาละเมิดสิทธิบัตรลิขสิทธิ์ทางปัญญา โดยยื่นข้อหา  Samsung ออกแบบมือถือออกมาคล้ายกับ iPhone ซึ่ง Apple อ้างว่า Samsung ลอกเลียนมาตั้งแต่ Galaxy S (ที่สตีฟเขาว่าเลียนแบบมาจาก iPhone 3G/3GS) จนถึง Epic 4G, Nexus S และ Galaxy Tab

โดย Apple นั้นเมื่อ 1 ปีก่อนได้มีข่าวว่ายื่นฟ้องของ HTC ไต้หวันมาก่อน ส่วนตอนนี้ก็มาเป็น Samsung Electronics โดยไม่รู้ว่าครั้งนี้การยื่นฟ้องนั้นจะสร้างความปั่นป่วนให้กับวงการธุรกิจสมาร์ทโฟนแค่ไหน (หรือจะกลับมาทำร้ายตัวเองก็ไม่รู้ เพราะจะว่าไปแล้วก็ต้องถือได้ว่า Samsung เป็นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆให้กับผลิตภัณฑ์ของ Apple เองทั้ง iPhone และ iPad อยู่จำนวนไม่น้อยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตประมวลผล Apple A4 และ A5, หน้าจอ LCD, แฟลชเมมโมรี่ รวมถึงอะไหล่ยิบย่อยอีกเพียบ) เพราะหลายๆ เจ้าก็เริ่มออกผลิตภัณฑ์แนวนี้ตามมาให้เยอะแยะไปหมด ข้อมูลจาก WSJ  ได้บอกว่าเนื้อความฝั่ง Apple ให้เหตุผลว่า

“ทาง Samsung นั้นแทนที่จะคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองและรูปแบบที่ไม่ซ้ำกัน ทั้งสมาร์ทโฟนและ Tablet แต่​ Samsung ก็เลือกที่จะคัดลอกเทคโนโลยีของ Apple รวมทั้งส่วนติดต่อกับผู้ใช้และรูปแบบนวัตกรรมด้วย ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดผลิตภัณฑ์ของเรา”

ส่วนทางฝั่งข้อมูลจาก All Thing Digital ทางฝั่ง Samsung ได้กล่าวว่า

“Samsung เน้นการพัฒนาของเทคโนโลยีเป็นหลักและการเสริมสร้างผลงานทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดย Samsung จะดำเนินการตอบโต้ผ่านมาตรการทางกฎหมายที่เหมาะสมในการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเช่นกัน”

งานนี้ก่อนศาลจะตัดสิน ไม่รู้ว่าจะออกมาหมู่หรือจ่า เรากคงต้องมาดูกันว่าการที่ที่ Apple ต้องยื่นฟ้องร้องต่อศาลเรื่อง Samsung ละเมิดลิขสิทธิ์นั้น สาเหตุหนึ่งคงจะเป็นเรื่องที่  Samsung เป็นคู่แข่งโดยตรง ในมุมของ Brand ที่เป็น Hardware และระบบ Android ที่เป็น OS รวมถึงปัจจัยหนุนของค่ายจากเกาหลีนี้ ก็มีทั้งกระแส Android ที่มาแรง และตัวเครื่องเองก็ราคาถูกกว่า ถึงแม้ว่า Apple จะดูโดดเด่นกว่า แต่ปีที่ผ่านมา Samsung เองก็มาแรงใช่ย่อย จน Apple กล่าวว่าทำให้หุ้นของเขาตกไปถึง 18% ก็ไม่น่าแปลกใจที่ทาง Apple ขอมาสกัดดาวรุ่งอย่าง Samsung ก่อนที่จะแรงแซงหน้าไป

——————

credit : nate.com,yonhabnews