[Review] Prince of Persia: The Lost Crown

1,108 views
Share

Ubisoft ส่ง Prince of Persia: The Lost Crown ออกมาให้เราได้เล่นกันซักพักแล้ว ซึ่งบอกเลยว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของซีรีส์นี้ที่น่าเล่นมากๆ ไม่ว่าจะในส่วนของแอคชั่น ปริศนา กราฟิกหรือความท้าทายของการเล่น และยิ่งถ้าใครที่เป็นแฟนของ Prince of Persia มาตั้งแต่ยุคแฟมิคอมบอกเลยว่าไม่ควรพลาดจริงๆ ซึ่งทางเรามีโอกาสได้เล่นเกมนี้ไปจนจบแล้วก็เลยจะมารีวิวรายละเอียดของเกมรวมไปถึงความรู้สึกเกี่ยวกับเกมนี้ให้ได้อ่านกันครับ

Prince of Persia: The Lost Crown เป็นเกมสไตล์ Action Metroidvania แบบมุมมองด้านข้าง 2D Side-Scrolling ตามสไตล์ของเกมนี้ในฉบับดั้งเดิม มีกราฟิกเป็นสไตล์การ์ตูนที่มีสีสันสดใสและทำออกมาได้ดูดีมีเอกลักษณ์มากๆ พูดถึงงานภาพแล้วไม่ว่าจะเป็นช่วงเนื้อเรื่องคัทซีน หรือฉากสภาพแวดล้อมพื้นที่ต่างๆ ก็ทำออกมาได้อย่างสวยงามและน่าประทับใจ แถมบอกเลยว่าฉากกับพื้นที่ในเกมนั้นมีเยอะและเส้นทางค่อนข้างซับซ้อนเอามากๆ ตามสไตล์ของเกมแบบ Metroidvania นอกจากนี้ส่วนตัวชอบงานศิลป์การออกแบบฉากกับพวกศัตรู และการใช้เสียงเพลงประกอบ รวมไปถึงพวก Effect การใช้สกิลที่ดูเท่เอามากๆ

เรื่องราวภายในเกมนั้นตัวตัวเราจะไม่ได้เล่นเป็นเจ้าชายเหมือนกับชื่อเกม แต่ได้เล่นเป็น Sargon หนึ่งในนักรบของกลุ่ม The Immortals ที่ทำหน้าที่คอยปกป้องและดูแลเมืองจากการรุกราน โดยวันหนึ่งในงานเลี้ยงฉลองหลังจากที่ได้จัดการกับศัตรูไปแล้ว กลับพบว่าเจ้าชาย Ghassan ได้ถูกลักพาตัวไปโดยอาจารย์ของ Sargon เอง ดังนั้นกลุ่ม The Immortals รวมถึงตัวเราจะออกเดินทางไปยัง Mount Qaf สถานที่ซึ่งเป็นดินแดนที่ถูกสาปและมีการไหลเวียนของเวลาที่ผิดเพี้ยน งานนี้เรื่องราวการผจญภัยและเนื้อหาจะเข้มข้นแค่ไหนก็ลองไปเล่นกันดูได้ครับ

สำหรับทางด้านของเกมเพลย์นั้น Prince of Persia: The Lost Crown ถือเป็นการพาทุกคนย้อนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นในยุคคลาสสิกของซีรีส์นี้ ที่เป็นเกม Metroidvania ให้เราได้สำรวจสถานที่อันมีเส้นทางที่ซับซ้อนและแก้ปริศนาต่างๆ มากมาย ไปพร้อมกับการลุยในแบบเกมแพลตฟอร์เมอมร์อันท้าทายและโหดหิน ไม่ว่าจะผ่านอุปสรรค์กับพวกหนามแหลมคม สภาพแวดล้อมอันหลากหลาย ศัตรูที่คอยโจมตี หรือแม้แต่ปริศนาสุดแฟนตาซีมากมายเพื่อที่จะเปิดทางไปต่อ โดยเกมเอาศัตรูและตำนานของเปอร์เซียในหลายๆ แบบมารวมเข้าด้วยกัน จุดเด่นของเกมแนวนี้ก็คือการสำรวจ เปิดพื้นที่ และการย้อนกลับมาแก้ปริศนาที่บางอย่างเราจะผ่านไม่ได้ในตอนแรก ซึ่งตัวเอกของเราจะค่อยๆ มีการปลดล็อคความสามารถกับอาวุธต่างๆ ในตอนหลัง ไม่ว่าจะเป็นพวกการกระโดดสองชั้น การพุ่งแดชกลางอากาศ การใช้พลังย้ายร่าง การยิงธนู การใช้กงจักร และอื่นๆ อีกมากมาย เกมจะมีต้นไม้ Wak Wak ที่เป็นจุดเซฟกับมีแท่น Fast Travel ให้ใช้งาน ซึ่งแต่ละจุดบอกเลยว่าอยู่ไกลกันใช้ได้ วิ่งไปวิ่งกลับกันเหนื่อนพิสมควร

ส่วนของการต่อสู้เองนั้นถือเป็นเกมเพลย์ที่สนุกอีกอย่าง เพราะตัวเอกของเราในภาคนี้นอกจากการฟันโจมตีใส่ศัตรูแล้วยังมีความสามารถในเรื่องของการ Parry เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นการกะจังหวะที่จะ Parry แล้วโจมตีสวนกลับก็จะทำให้เราใช้ประโยชน์และชิงความได้เปรียบจากศัตรูได้ โดยเฉพาะตอนที่สู้กับบอสนี่บอกเลยว่าเป็นอะไรที่โหดและท้าทายสุดๆ การตายเป็นเรื่องปกติมากๆ ในเกมนี้ ถ้าใครไม่หัวร้อนซะก่อนก็จะได้ลองผิดลองถูกหรือศึกษาการเคลื่อนไหวและแบบแผนเพื่อเอาชนะได้ แต่บอกตรงๆ ว่ามีแอบท้อไปบ้างตอนกลางๆ เกมที่หาทางไปต่อไม่ถูกแถมบอสก็ยากซะเหลือเกิน…

ผู้เล่นสามารถที่จะพัฒนาตัวละครได้ด้วยการจัดการศัตรูแล้วเก็บเพชรเพื่อนำมาซื้อของหรืออัปเกรดได้ที่ร้านค้ากับ NPC ตีเหล็ก รวมไปถึงการแก้ปริศนาในฉากบางจุดก็จะมีการได้พวกไอเทมสร้อยเพื่อมาเพิ่มความสามารถให้กับตัวละคร แต่ต้องคำนึงถึงช่องสลอตที่สามารถใส่ได้ และรวมไปถึงการเก็บพวกไอเทมสำหรับนำมาขยายหลอดเลือดก็มีเช่นกัน ส่วนการเอาชนะบอสก็จะทำให้ตัวละครของเราได้ท่าโจมตีใหม่ๆ มาใช้งานด้วย

หากว่าใครที่เล่นเกมแนวนี้ไม่ค่อยเก่งหรือเล่นแล้วติดตรงไหนนานๆ ตัวเกมก็มีตัวเลือกโหมดการเล่นยากหรือง่ายให้ได้ปรับ รวมไปถึงตัวเลือกพิเศษหัวข้อ Accessibility การช่วยเหลือในการข้ามปริศนา เช่นถ้าถึงบางจุดที่กระโดดทั้งวันก็ไม่ผ่านซะทีก็สามารถเลือกเปิดประตูวาร์ปเพื่อข้ามฉากไปได้เช่นกัน แต่ขอเตือนว่าจะทำให้ความสนุกของการเล่นลดลงอย่างมาก กับอีกฟีเจอร์ที่ตัวเกมเลือกใส่เข้ามาให้เราใช้งานกันเลยก็คือการกดปุ่มเพื่อบันทึกรูปในจุดที่เราติดอยู่หรือผ่านไม่ได้แล้วจะเซฟรูปไว้เพื่อกลับมาในภายหลัง ซึ่งเมื่อกดเซฟรูปแล้วจะมีสัญลักษณ์รูปดวงตาอยู่บนแผนที่ให้เราคอยกดเข้าไปดูได้นั่นเอง

สรุปภาพรวมของเกมบอกเลยว่าชอบเลเวลดีไซน์ของเกมนี้และการไต่ระดับความน่าสนใจในการเล่นตั้งแต่เริ่มไปเรื่อยๆ จนทำให้เล่นเพลินเอามากๆ ถ้าไม่ติดตรงช่วงหัวร้อนไปบ้างก็คงจะไม่ได้พักวางจอยแน่นอน ปริศนาท้าทายมาก ศัตรูระดับบอสก็โหดหินเอาเรื่อง พวกศัตรูตัวธรรมดาๆ ก็ตีแรงใช้ได้ นับว่าเป็นอีกเกมที่ท้าทายความสามารถจริงๆ แถมความลื่นไหลของเกมก็ต้องยกนิ้วให้เลยว่าเล่นแบบ 60fps ลื่นสุดๆ โดยรองรับถึง 4K 120fps เลยทีเดียว ใครที่สนใจถ้ายังไม่ได้เล่นก็ลองไปหาซื้อมาเล่นกันได้ครับ

Share

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Beyblade X: XONE ได้มีการประกาศเตรียม Nintendo Switch และ PC
Umbraclaw เกมสุดคลาสสิกเปิดเผยตัวอย่าง Cast Showcase
The Casting of Frank Stone ปล่อยคลิปตัวอย่างใหม่พร้อมเผยภาพเพิ่มเติม
เปิดตัว DreadOut Remastered Collection เวอร์ชั่น PS5 และ Switch
Fabledom เตรียมวางจำหน่ายให้เล่นบน PS5, Xbox Series และ Switch ช่วง Q3 2024
Ubisoft ยืนยันชื่อภาคต่อไป Assassin’s Creed Shadows เตรียมลุยญี่ปุ่น