Seven Knights SIX KNIGHTS REMAKE

“ใครมีสไปค์ 40 ในไอดีบ้างครับ…?” สำหรับตัวผู้เขียนมีไว้แค่ 38 ยังอดเศร้าไม่ได้ ในเมื่อเพื่อน ๆ อีก 6k ต่างรีเมคใหม่ไฉไลกว่าเดิม ส่วนไปค์เล่า นอนเหงาในไอดีไม่มีใครเหลียวแล คอยดูเพื่อนทั้งหก ออกไปโชว์เทพกันให้อิ่มหนำในโหมดต่าง ๆ กันเถอะ

..

รูดี้ – จอมทัพผู้สมเป็นจอมทัพมากขึ้น

สกิลติดตัว เพิ่มพลังป้องกันให้ทีม 60% และบล็อคการโจมตีทั้งหมด

.
รูดี้คนเดิม เพิ่มเติมคือความถึกนรก… แม้ว่าจะมีออพชั่นเสริมแค่บล็อก แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้สามารถยืนหยัดได้จนถึงเกมจบ หากไม่เชื่อลองไปชนรูดี้ 40 ยืนแผนหน้า 1 แล้วใส่เกราะตอบโต้ 2 ชิ้น ตีบวกเจมครบ มีดูดเลือด สวมประดับสถานะดูสิครับ!

.
**แต่สำหรับคนที่รูดี้ยังเลเวลน้อยแล้วคิดจะใส่ลงทีม ผู้เขียนแนะนำว่าสมควรใช้ของเพิ่มเลือดมากกว่า เพราะเลือดอาจจะน้อยเกินกว่าจะได้ตอบโต้นะ

.
สกิล active 1 ตั้งขบวนป้องกัน : เป็นหนึ่งสกิลที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ลดค่าความเสียหายที่ได้รับ 80% ป้องกันดีบัฟทุกชนิดเป็นเวลา 2 เทิร์น

.
เป็นจุดอ่อนเดียวของรูดี้ที่เหลืออยู่ เพราะทีมที่มีรูดี้นั้นจะมี speed ต่ำมากจึงต้องรอตั้งรับแทบจะ 100% สกิลนี้เมื่อใช้ในตอนเปิดเกม ก็เหมือนเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายอัดสกิลมาถึง 2 สกิลติด (และถ้าโดนกิเลสของยูชินด้วยก็อาจกลายเป็น 3…4…) ส่วนที่ทำให้สกิลนี้แย่ที่สุดก็คือการกางโล่นั้นมี priority ค่อนข้างสูง มี cooldown ต่ำ แถมในปัจจุบันสกิลเร่งเทิร์น ลบบัฟถือเป็นของหาง่าย กางมาเพื่อให้อีกฝ่ายลบ สักพักคูลดาวน์กลับก็กางใหม่ให้โดนรุมอัด ในการต่อสู้รอบ

.

หนึ่ง ๆ รูดี้เป็นตัวละครที่ทำให้เราเสียเทิร์นไปเปล่า ๆ ได้มากจนน่าตกใจเลยเชียวล่ะ (แต่ชนะก็หยวนให้…)
สกิล active 2 บุกตะลุย : โจมตีกายภาพ 80% จำนวน 3 ครั้ง เร่ง 3 เทิร์น ทำให้ศัตรูติดสถานะมึน 2 เทิร์น

.
เมื่อปัจจุบันมี Void Shield มากขึ้น การปรับปรุงสกิลก็ทำเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นด้วย สกิลจิ้มของรูดี้แลมีประโยชน์ขึ้นมากทีเดียว (ที่สำคัญ การที่รูดี้ยืนได้นานขึ้น หมายความว่ายืนถึงพวกซอมบี้อาละวาดได้สบาย ๆ ส่วนตัวผมมองว่ารูดี้เพียงคนเดียวก็เพียงพอจะจัดการทั้งกีพารัง แทโอ 40 ด้วยตัวคนเดียวเลยล่ะ… ถ้าไม่ติดสถานะไปเสียก่อน)

.

ไอรีน – จักรพรรดินีแห่งอารีน่าผู้ไม่เคยตกเมต้า

สกิลติดตัว เพิ่มพลังโจมตีกายภาพให้ทีม 60% ตายแล้วเกิดใหม่ด้วย HP 100% ได้ 1 หนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นับเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย เพราะไอลีนนั้นเป็นตัวละครที่ค่อนข้างสมบูรณ์ในตัวอยู่แล้ว เลือดเยอะ พลังป้องกันสูง ตายยากแถมตายแล้วฟื้น เป็นหนึ่งในตัวบัฟในฝันของหลาย ๆ คน ในอารีน่าระดับสูงบางคนที่ตีบวกเจมจนครบแล้วเลือกใช้ไอลีนยืนหน้า 1 ด้วยซ้ำ (ทั้งที่เป็นยุคสุดป่าเถื่อนนะครับ!)

.

สกิล active 1 เปลวฟ้าจากสวรรค์ : โจมตีกายภาพแก่ศัตรูทั้งหมดด้วยความแรง 70% จำนวน 2 ครั้ง และมีโอกาสทำให้ศัตรูติดสถานะช็อตเป็นเวลา 2 เทิร์น

.
1 ในสกิลพลิกชีวิต สร้างความปวดหัวมาแล้วทั่วราชอาณาจักรด้วยโอกาสติดช็อตที่สูงลิบ บางเวลที่ทั้งทีมติดสถานะ เจ๊แกก็ฟื้นขึ้นมาปาหอก… เวลาที่โดนกิโลสแล้วเจ๊แกล้มลงไปนอนพอดี เจ๊แกก็ลุกขึ้นมาปาหอก… เอะอะอะไรก็ปาหอกลูกเดียว ทำเอาหลาย ๆ คนหน้ามืดไปตาม ๆ กัน แถมด้วยจำนวนครั้งการโจมตีที่เพิ่มขึ้น จุดอ่อนเดียวของไอลีนก็หายไปเรียบร้อย

.
สกิล active 2 เทพอัสนีพิโรธ : โจมตีกายภาพ 1 เป้าหมาย ด้วยความแรง 120% จำนวน 2 ครั้ง ทะลุบัฟ ติดคริติคอล 100% ใครไม่ตายมีแถมช็อต!

.
เป็นการเพิ่มเติมที่ไม่มาก แต่มีประสิทธิภาพสูงมากเช่นเดียวกัน เมื่อจุดอ่อนคือจำนวนครั้ง ก็แค่เพิ่มจำนวนครั้งให้ แถมด้วยคริติคอล ถ้าไม่ติด void shield โอกาสตายทันทีก็สูงลิบเลยล่ะ!

.

เรเชล – เจ้าแม่ตีปราสาท เริ่มลงตีมังกรมากขึ้น ยกเครื่องพร้อมรับการมาของ World Boss (ที่จะมาเมื่อไรก็ไม่รู้)

สกิลติดตัว : เพิ่มโอกาสตอบโต้ให้ทีม 50% หากตายจะฟื้นขึ้นมาด้วยร่างนกเพลิง พร้อมเพิ่มพลังโจมตีของสกิลเป็นเวลา 3 เทิร์น

.
ยอดเยี่ยมมาก! ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ ใจเย็น…. = =

.
สกิล active 1 วิหกเพลิง : โจมตีกายภาพจำนวน 3 เป้าหมายด้วยความแรง 200% ลดค่าความเสียหายและพลังป้องกันของศัตรูลง 80% แถมด้วยไฟไหม้บ้านอีก 300% ของพลังโจมตีเป็นเวลา 2 เทิร์น

.
สกิล active 2 เปลวไฟลุกโชน : โจมตีกายภาพจำนวน 1 เป้าด้วยความแรง 250% ไม่สนพลังของเป้าหมาย และติดคริติคอล 100%

.
โดยพื้นฐานของตัวละคร เรเชลไม่ใช่ตัวละครที่สร้างมาเพื่อการลงต่อสู้อารีน่า แต่มีไว้สำหรับลงในโหมดทำแต้มโดยเฉพาะ เนื่องจากการเพิ่มค่าตอบโต้ให้ทั้งทีม จะทำให้เทิร์นเดินช้าลงหมายความว่าจะมีเวลาในการโจมตีมากขึ้น ซึ่งมีประโยชน์มากในการต่อสู้ในโหมดที่มีการจำกัดเทิร์น พร้อมด้วยดีบัฟที่ช่วยสนับสนุนให้โจมตีได้แรงพร้อมโดนตีกลับเบาในเวลาเดียวกัน สิ่งที่เพิ่มมาในการรีเมคครั้งนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่า เพิ่มความสามารถในการทำคะแนนแก่เรเชล ถึงดูไม่หวือหวามากนักแต่ก็พร้อมสำหรับงานในหน้าที่ เป็นหนึ่งตัวละครที่ขาดไม่ได้จริง ๆ

.

เดลโลนซ์ – ราชาแห่งความตายที่น่าจะตายก่อนเพื่อน

สกิลติดตัว : ป้องกันการโจมตีทุกชนิดเป็นจำนวน 4 ครั้ง เพิ่มค่าความเสียหายให้ทีม 50% และทุกการโจมตีปรกติ ไม่ว่าตอบโต้หรือเพิ่มความเร็วโจมตี จะลดคูลดาวน์สกิลของเดลโลนซ์ 7 วินาที

.
เดลโลนซ์เป็นตัวละครที่เก่งมาก ๆ ตัวหนึ่งในเกม Seven knights เลยล่ะครับ ด้วยความที่เป็นธาตุไฟ มีพลังโจมตีสูง ความเร็วสูง พร้อมด้วยบัฟเพิ่มศักยภาพการโจมตีแก่ทีม แต่ปัญหาหลักของเดลโลนซ์ตั้งแต่ไหนแต่ไรคือ… ตายง่าย การป้องกันเป็นเทิร์นในยุคที่การโจมตีทะลุบัฟเจริญรุ่งเรือง ทำให้พี่แกหายหน้าหายตาไปจากวงการอารีน่าเป็นพัก ๆ คราวนี้รีเมคเปลี่ยนให้เป็นการป้องกันแบบครั้ง จำนวน 4 ครั้ง

.
ถ้าถามว่าช่วยได้ไหม… ก็ได้ในระดับหนึ่ง เพียงแต่ว่า 4 ครั้งในยุคที่การโจมตีหลายครั้งนิยมกว่าสกิลประเภททะลุบัฟแบบนี้… มันจะดีหรือเปล่า ผู้เขียนเองก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าจะทำให้รอดนานขึ้นหรือตายเร็วขึ้น… คาดว่าคงเก่งเป็นบางตา เทพเป็นบางครั้ง บางจังหวะก็ลงไปนอนแห้งตายทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไร แล้วแต่เทพเจ้าเอไอกำหนดล่ะครับ
สกิล active 1 มัจจุราชจุติ : โจมตีกายภาพ 100% จำนวน 5 เป้าหมาย และทำให้ศัตรูมีโอกาสติดสถานะใบ้เป็นเวลา 2 เทิร์น

.
บางคนที่อ่าน spoil มาอาจร้องว่า “ครั้งเดียวเรอะ!”

ครับตามนั้น… ครั้งเดียวโดดเดี่ยวเดียวดาย เหมือนกับแค่ยกเลิกการเนิร์ฟเป้าโจมตีให้กลับมาเป็น 5 อย่างเดิมเท่านั้นเอง

.
สกิล active 2 คมเคียวแห่งความตาย : โจมตีกายภาพด้วยความแรง 110% จำนวน 1 เป้าหมาย 3 ครั้ง ไม่สนพลังป้องกันและทะลุบัฟ

.
เป็นสกิลที่เพิ่มความแรงขึ้นมาก ชนิดเกี่ยวติดใครไม่ติด void ก็ตายหมดนั่นแหละครับ (เว้นรูดี้สายถึกไว้คนนึง)
โดยภาพรวม ผู้เขียนยังรู้สึกว่าเป็นการปรับที่ค่อนข้างกั๊ก ๆ ไปหน่อย อมตะ 4 ครั้งแวบเดียวก็หมดแล้วครับเพราะเดลมักเป็นตัวเปิดเกมเร็ว ตีโดนเจฟก็โดนสะท้อน ไม่ก็ซวยโดนจิ้มตอบโต้ อมตะมีโอกาสร่อยหรออย่างรวดเร็ว ไม่พอการโจมตีหลายครั้งในยุคนี้ก็เยอะเสียเหลือเกิน แถมเป็นที่นิยมเสียด้วยสิ ก็น่าสงสัยว่าถ้าเจอกับทีมที่มีรูดี้จะสามารถใช้บัฟได้คุ้มค่าก่อนตายหรือไม่

.
ส่วนตัวผู้เขียนรู้สึกเหมือนโดนเนิร์ฟ ๆ ชอบกล เพราะปรกติใช้เดลในทีมมังกร การที่กันแค่ 4 ครั้งทำให้แวบเดียวโล่หาย ผิดกับอมตะ 2 เทิร์นที่อยู่ได้พักใหญ่ ๆ เรียกได้ว่างานงอกกันเลยทีเดียว = =

.

เจฟ – เทพที่ใคร ๆ ต่างเกรงกลัว

สกิลติดตัว : ลดความเสียหายที่ตนได้รับ 50% และสะท้อนค่าเสียหายที่ได้รับมานั้นคืนแก่ศัตรู ต้านทานดีบัฟทุกชนิด 3 เทิร์น

.
เป็นจุดพีคของตัวละครชื่อเจฟที่ใครหลาย ๆ คนวาดฝันไว้นานเป็นปีว่าวันนี้ต้องมาถึง วันที่เจฟมีบัฟป้องกันสถานะ ไม่ยืนเซ่อเอ๋อทั้งชาติจนตัวตาย… สถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปแล้วครับ ตอนนี้หากตัวละครอื่นในทีมติดสถานะหมด…

.

เหลือแต่เจฟ… ความบ้าคลั่งก็จะบังเกิดขึ้น เจฟจะโหมสองสกิลที่ปรับมาใหม่ ถล่มใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างบ้าคลั่งทันที ซึ่งรับรองได้ว่าพังเป็นแถบ ๆ แน่นอนเลยทีเดียว ก็เพราะว่า…

.
สกิล active 1 ความโกรธเกรี้ยวของมังกร : สร้างความเสียหายกายภาพ 5 เป้าหมาย ความแรง 120% มีผลทะลุบัฟ ทะลุป้องกัน ติดไฟไหม้ 200% นาน 2 เทิร์น

.

เมื่อสกิลประเภททะลุป้องกันเริ่มมากขึ้น ความสำคัญของเอซที่ตายง่ายยิ่งกว่าใครเพื่อนก็เริ่มถดถอย บางทีอาจเป็นจุดเริ่มต้นการจากลาสังเวียนอารีน่าของเอซอีกครั้งก็เป็นได้ ความแรงของสกิลนี้ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ แถมทะลุบัฟ สกิลกันโจมตีหมู่ของ ต้าเฉียว หรือน้องตุ้มก็ไม่สามารถป้องกันได้ พวกอมตะเทิร์นอย่างหมิง ๆ หรือยูชิน เริ่มประสบปัญหาหนักตั้งแต่อาทิตย์ก่อนเพราะน้องตุ้ม รอบนี้เจฟมาช่วยเก็บกวาด เรียกได้ว่าอาจถึงคราวสูญพันธุ์กันอีกรอบ

.
สกิล active 2 ดาบเพลิงถล่มพสุธา : สร้างความเสียหายกายภาพ 60% จำนวน 2 ครั้ง และเมื่อเป้าหมายมีจำนวนน้อยลงความรุนแรงก็จะเพิ่มขึ้นคนละ 20%

.
เรียกว่าเป็นสกิลหมู่ที่ปรับตัวเป็นสกิลเดี่ยวก็ได้ และเป็นสกิลที่ออกมาเพื่อกำจัดจุดอ่อนที่แพ้ทางพวกสาย void shield ไปในตัว

.
การกลับมาของเจฟในครั้งนี้ ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าเก่งนะ แต่ยังเก่งไม่สุดเพราะว่ายังเหลือจุดอ่อนใหญ่อยู่อีก 1 อย่าง นั่นคือแพ้ทางพวกซอมบี้ครับ ไม่ว่าจะกีพารัง แทโอ คริส หรือแม้แต่ไปหลง หากดวลเดี่ยวกับเจฟ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าใครจะเป็นฝ่ายตายก่อน

.
แต่จุดอ่อนดังกล่าวก็ไม่ใช่สิ่งที่ไม่อาจแก้… ในเมื่อเรายังมีตัวละครอื่นคอยช่วยสนับสนุน ทั้งมือปราบผีดิบอย่างน้องตุ้ม เทพรถถังอย่างรูดี้ หรือกระทั่งประดับลบบัฟ หรือประดับสถานะที่อาจช่วยได้ในยามคับขัน

ตุ้มเองไง เห็นเรียกเลยมารายงานตัวหน่อย
ถ้าถามว่าเจฟ… โหดมั้ยในแพทนี้… ขอตอบเลยครับว่าโหด หากใช้งานกับเพื่อนร่วมทีมที่เสริมส่ง เมต้าอารีน่าคงต้องเปลี่ยนแน่ ๆ

.

คริส – ราชาแห่งนรกผู้มักโดนปรามาสว่ากาก คราวนี้คงไม่มีใครกล้าพูดอย่างนั้นอีกต่อไป…

สกิลติดตัว : เมื่อศัตรูตาย ฮีลให้ทั้งทีม 30% ของ max hp หากตนเองตายจะลุกขึ้นมาใหม่ในสภาพผีดิบแล้วตายไปเองในเทิร์นที่ 3 (กว่าพี่จะตายอีกทีมก็เละแล้วครับพี่น้อง) และที่สำคัญ*** เพิ่มอัตราการติดสถานะเดธ ในการโจมตีปรกติ

.
งานหยาบล่ะครับเมื่อประดับที่ขึ้นชื่อว่าหายากที่สุดในเกมอย่างเดธ มาอยู่ในตัวละครแสนป่วนอย่างคริส ถึงทำใจกันไว้แล้วว่าต้องมีวันนี้ แต่… ยังทำใจไม่ได้จริง ๆ ครับ TT

.
สกิล active 1 เสียงกระซิบแห่งความมืด : โจมตีกายภาพ 200% จำนวน 3 เป้าหมาย และทำให้ติดสถานะเดธ…
จากที่ลองลุยมา บอกได้คำเดียว พี่จะติดเดธบ่อยไปไหนครับ ส่วนตัวละครที่มีป้องกันดีบัฟทุกชนิดเช่นพี่เจฟ เป็นต้น

.

หากโดนเดธเข้าไป… ความแรงคูณ 2… 400% ไม่ตายก็คางเหลืองล่ะครับ (นี่ท่า 3 เป้าด้วยนะ!)

.
สกิล active 2 ผู้รุกรานจากความมืด : โจมตีทางกายภาพ 1 เป้าหมาย ด้วยความแรง 150% จำนวน 2 ครั้ง
เมื่อสกิลบนผมใช้คำว่าติดเดธบ่อย… ท่านี้ตั้งแต่โดนมายังไม่เห็นครั้งไหนไม่ติดเลยครับท่านผู้ชม ตายครับตาย เจอคริสถึกมากับรูดี้นี่หายนะชัด ๆ = =

.

สรุปการรีเมคครั้งนี้กันเลยดีกว่า เจฟมาเหมือนเป็นพระเอก แต่ว่าอันที่จริงตัวละครที่แสดงศักยภาพให้เห็นได้ชัดที่สุดแบบเงียบ ๆ น่าจะเป็นรูดี้ครับ เนื่องจากเราใกล้ออกจากยุคเร็วเป็นบ้าเป็นหลังเต็มทน พวกทีมสายเร็วถูกบีบให้เล่น

.

หลัง 2-3 ซึ่งดาเมจไม่เพียงพอนัก เพราะตัวบัฟหลักที่ทำให้เกิดสภาพใครเร็วใครอยู่ตายง่ายเกินไป
ผมคิดว่าหลังจากนี้การจัดทีมก็น่าจะมีคอนเซปที่หลากหลายขึ้น ทีมถึกก็น่าจะมีที่ยืนเพิ่มขึ้น หลาย ๆ คนอาจถึงกับต้องรื้อทีมอารีน่าทำใหม่เลยทีเดียว

.
ส่วนนายสไปค์ที่หลุดโผไปอย่างเงียบ ๆ… เราไม่สามารถปลอบใจนายได้หรอก จะไปนั่งยอง ๆ หลบมุมร้องไห้ที่มุมนู้นก็ได้นะ แต่ว่าเราเชื่อว่าทีมงานคงไม่นิ่งนอนใจ ปล่อยนายแห้งตายเช่นนั้นแล้วเปลี่ยนชื่อเกมเป็น 6k หรอก… ก็หวังไว้ว่าสักวันสไปค์จะรีเมคอีกครั้ง กลับมาเป็นตัวละครที่ผู้เล่นอยากมีไว้ในทีม สกิลน้ำแข็งควรเป็นสกิลที่คนโดนร้อง “บัดซบ แข็งว้อย!” ไม่ใช่ “กร๊ากกก แช่มาเลยฟื้นมาเอ็งตาย 5555!” อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน…

By..Tongfar