RIPJAWS KM570 MX คีย์บอร์ดเน้นเรียบง่ายแต่ฟังก์ชั่นมาพร้อม

1,874 views
Share

650RIPJAWS KM570 MX หนึ่งในคีย์บอร์ดของทาง G.Skill ที่ยังคงคอนเซ็ปในเรื่องของคุณภาพและมีฟังก์ชั่นจำเป็นอยู่ครบ ส่วนความพิเศษของตัวนี้จะอยู่ตรงที่ว่ามีความสามารถ On-the-Fly คือไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรมเพิ่ม สามารถปรับแต่เรื่องของ Marco, แสงไฟ ได้ผ่านตัวคีย์บอร์ดไปเลย และมี Memory ในตัวทำให้สะดวกในการเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งเซท Marco ใหม่ให้ยุ่งยาก

DSC_07551ข้อมูลสเปค
รูปแบบ : Mechanical
ตัว Switch ของปุ่ม : Cherry MX Switch ส่วนสีแบบของปุ่มจะมีให้เลือกได้เลยว่าจะเอาเป็น Red, Blue, Brown หรือ Speed Silver
ขนาด : 446.5 x 158.8 x 45.5mm
น้ำหนัก : 1.25 kg
ราคา : $99.99 USD (ประมาณ 3,500 บาท)
ส่วนเสริม : ในเรื่องของส่วนเสริมต่างๆ ส่วนที่น่าสนใจมากก็คือสามารถตั้ง Marco ได้แบบ On-the-Fly คือไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรมใดๆ ก็สามารถเลือกตั้ง Marco ได้บนคีย์บอร์ดไปเลย รวมไปถึงตัวคีย์บอร์ดเองก็มีแสงไฟ ที่แทบจะเป็นมาตรฐานของ Gaming Keyboard ไปแล้วว่าต้องมีด้วยนะ แน่นอนว่าตัวนี้ก็มีเช่นกัน และสามารถเลือกปรับโหมดของแสงไฟได้ถึง 7 รูปแบบ และแน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องผ่านโปรแกรมใดๆ ทั้งสิ้นด้วยเช่นกัน กดที่คีย์ลัดบนคีย์บอร์ดได้เลย

DSC_07521 DSC_07531ความรู้สึกตอนใช้งาน
คีย์บอร์ดของ G.Skill นั้นต้องบอกเลยว่าวัสดุที่ทำจะออกมาดีมาก ตัวคีย์บอร์ดถึงแม้จะมีน้ำหนักเพียง 1.25 กิโลกรัม แต่มันกลับยึดติดกับพื้นที่ที่วางได้เป็นอย่างดี รู้สึกแน่นคีย์บอร์ดไม่มีทางเคลื่อนไหวได้ง่ายๆ ทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการเล่นเกมได้น้อย โดยเฉพาะเกมพวก FPS ที่ชอบใช้คีย์บอร์ดหนักๆ เพื่อให้มันยึดติดกับโต๊ะได้ดี ไม่อยากให้คีย์บอร์ดลอยเคลื่อนที่ไปมาได้ตามแรงในการกด และตัว KM 570 MX ตัวนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน รวมไปถึง Switch ของปุ่มที่พื้นฐานเป็น Mechanical ของ Cherry MX ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ของเกมเมอร์เลยก็ว่าได้ แถมยังมีสีของ Switch ที่ให้เราเลือกได้ตามว่าต้องการแบบไหน แต่ละแบบนั้นก็จะมีปุ่มสัมผัสการกดที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตัวเราว่าชื่นชอบแบบไหน ส่วนข้อมูลความแตกต่างนั้นก็สามารถหาได้จากทางอินเตอร์เน็ตเลย หรือถาม Google ดูก็ยังได้จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น
ส่วนตัวคีย์บอร์ดของ KM 570 MX นั้นจะมีอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องพูดถึงเลยก็คือมันคือคีย์บอร์ดที่มีปุ่มมาตรฐานตามคีย์บอร์ดปกติทั่วไปเท่านั้น มีปุ่มเพิ่มเติมเล็กน้อยเพียงแค่ 4 ปุ่มเหลือพื้นที่บน Numpad จึงทำให้ไม่กินพื้นที่มาก และได้อัดใส่ฟังก์ชั่นต่างๆ ที่จำเป็นใส่ข้าไปตามปุ่มพวก F1-12 เป็น Quick Function ทั่วไปนี่แหละ เพื่อให้เข้าถึงส่วนต่างๆ ของโปรแกรมที่เราต้องการได้ไวและสะดวกมากขึ้น ส่วนปุ่ม Marco ก็ให้ปรับตั้งแล้วจับแทนที่ปุ่มธรรมดาไปเลย โดยจะมีคู่มือสอนในเรื่องการตั้งปุ่ม Marco พวกนี้เอาไว้อยู่ในแพคเกจอยู่แล้ว และรีเซ็ทค่าให้กลับมาเป็นแบบเดิมได้ง่าย

DSC_07621

Share

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

[Review] Omelet Switch Pro+ Red Jumper สำหรับ Nintendo Switch
พบกับจอยคอนเรืองแสงใหม่ล่าสุด Omelet Gaming Mini Joy-Pad เตรียมวางขายธันวาคมนี้
Omelet Gaming SWITCH PRO+ Red Jumper จอยรุ่นใหม่พร้อมเปิดให้พรีออเดอร์แล้วตอนนี้
WINNER WINNER CHICKEN DINNER เสิร์ฟคอลเลกชันชุดพิเศษอุปกรณ์ RAZER’S PUBG: BATTLEGROUNDS พร้อมไอเทมสุดพิเศษในเกม แถมอยู่ในอุปกรณ์ของคอลเลกชันนี้
[Review] Cloud III หูฟังตัวล่าสุดจาก HyperX ที่มาพร้อมการปรับปรุงใหม่และสวมใส่สบายมาก
HyperX เปิดตัวหูฟังเกมมิ่ง Cloud III HyperX สร้างนิยามใหม่ของความสบาย ด้วยการเปิดตัวหูฟังรุ่น Cloud III พร้อมกับหูฟัง Earbuds ในรุ่น Cirro True Wireless ในงาน Computex