BlueStacks เปิดตัว BlueStacks Inside ระบบใหม่ที่จะนำเกมมือถือไปสู่แพลทฟอร์มพีซี
BlueStacks แพลทฟอร์มเล่นเกมมือถือบนพีซีอันดับ 1 ของโลก ได้ทำการเปิดตัว BlueStacks Inside ซึ่งเป็น 1-Step SDK สำหรับผู้พัฒนาเกมมือถือที่จะช่วยให้สามารถนำเกมขึ้นให้บริการบนแพลทฟอร์มเล่นเกมพีซีเจ้าใหญ่อย่าง Steam และ Discord ได้โดยไม่ต้องทำการพอร์ทเกมมาเป็นพีซีเวอร์ชัน ซึ่งเกมนำร่องของโครงการนี้จะมาจากขณะนี้มีผู้พัฒนาเกมชั้นนำอย่าง KOG, Funplus และ Fabled Game Studio ก่อนที่จะเปิดให้ผู้พัฒนาจากทั่วโลกได้เข้าร่วมโครงการต่อไป
ในปัจจุบันงบประมาณในการพัฒนาเกมมือถือของผู้พัฒนาเกมแต่ละรายนั้นสูงขึ้นกว่าเดิมมาก มีผลให้เกมมือถือมีการพัฒนาขึ้นทั้งทางด้านกราฟฟิกและเกมเพลย์ และเริ่มติดกับข้อจำกัดของอุปกรณ์มือถือในตลาดที่ไม่สามารถพัฒนาสเปคให้สูงทันที่จะรองรับเกมใหม่ๆได้ ขณะเดียวกันผู้ใช้งานอุปกรณ์มือถืออย่างเหล่าเกมเมอร์เองก็ไม่สามารถที่จะซื้อมือถือรุ่นตัวท็อปใหม่ๆได้ทุกปีเพื่อให้ตามทันความต้องการของเกมมือถือรุ่นใหม่ BlueStacks Inside จึงเป็นโอกาสที่ผู้พัมนาเกมมือถือจะสามารถขยายฐานผู้เล่นเข้าสู่ตลาดเกมเมอร์สายพีซีโดยไม่ต้องพัฒนาเป็นเวอร์ชันพีซีแยกต่างหากอีกต่อไป ขณะเดียวกันก็เป็นทางเลือกให้กับกลุ่มเกมเมอร์ที่ไม่สามารถเล่นเกมใหม่ๆด้วยมือถือของตัวเองได้
“เราพบว่าผู้ใช้งาน BlueStacks กับ Steam ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดียวกัน เลยเป็นที่มาของความร่วมมือระหว่างสองบริษัทในการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นเกมพีซีได้สามารถเข้าถึและเล่นเกมแอนดรอยด์ได้ คุณ Rosen Sharma – CEO ของ BlueStacks กล่าวในงานเปิดตัว “เราช่วยลดขั้นตอนในการพัฒนาของผู้พัฒนาเกม เมื่อผู้พัฒนาเลือกใช้งาน BlueStacks Inside ผู้เล่นจะสามารถดาวน์โหลดและเล่นเกมผ่าน Steam ได้โดยตรง ซึ่งมันไม่ใช่ Steam ไม่ใช่ BlueStacks แต่มันคือการเปลี่ยนเกมแอนดรอยด์ให้เป็นเกมพีซี”
BlueStacks Inside จะเป็นตัวเปิดทางให้ผู้พัฒนาเกมสามารถปรับเปลี่ยนฟีเจอร์ต่างๆในเกม เช่น ระบบเติมเงิน, ระบบล็อกอิน หรือคอมมูนิตี้จากระบบของสโตร์มือถือต่างๆไปเป็นระบบของ Steam ไม่ว่าจะเป็น Community Hub, Collection รวมถึงการเติมเงินผ่าน Steam Wallet ด้วย
ซึ่งถือเป็นโอกาสดีของผู้พัฒนาเกมที่จะได้มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มเกมเมอร์ที่มียอดเติมเงินสูงและอยู่กับเกมนานกว่า เช่น เกมเมอร์สายพีซี Mike Peng Head of Global Operations ของ Funplus เจ้าของเกมอย่าง King of Avalon และ Guns of Glory ที่เข้าร่วมโครงการนำร่องให้ความเห็นว่า “80% ของผู้เล่นเกมมือถือที่สถิติการใช้ใช้จ่ายสูงเป็นผู้เล่นเกมพีซีด้วย ดังนั้นนี่ไเป็นโอกาสดีมากที่เราจะได้เข้าถึงผู้ใช้งานของ Steam ที่อยู่กับเกมนานกว่าและมียอดการใช้จ่ายในเกมสูงมาก”
ขณะนี้ BlueStacks Inside ยังอยู่ในช่วง Soft Launch ร่วมกับผู้พัฒนาที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการนำร่อง โดย Pirate Outlaws จาก Fabled Game Studio เป็นเกมแรกที่ใช้ BlueStacks Inside และเปิดให้ทดสอบเล่นในงาน GDC ที่ผ่านมา และเริ่มเปิดให้บริการเล่นบน Steam ไปแล้ว ซึ่ง Nicolas Lavergne, Game Producer ของ Fabled Game Studio ชี้ว่าจำนวนฐานผู้ใช้งานของ Steam ที่สูงถึง 40 ล้านคนต่อวันและระบบ SDK ที่ง่ายต่อการเพิ่มเข้าไปในเกมเป็น 2 เหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจให้บริการ Pirates Outlaws บนพีซีร่วมกับ iOS และ Google Play Store “สิ่งที่เราตื่นเต้นที่สุดในการทำงานร่วมกับ BlueStacks ในครั้งนี้คือการได้เข้าถึงฐานผู้ใช้งานจำนวนมหาศาลของ Steam โดยที่แค่ใส่ SDK เข้าไปเพิ่มแค่นิดเดียวและไม่ต้องใช้ทีมพัฒนาปรับอย่างอื่นอีกเลย ตอนนี้ผู้เล่นของเราสามารถใช้งานผ่านแพลทฟอร์มของ Steam รวมถึงฟีเจอร์ Community ต่างๆ เช่น ไกด์เกม และพวกวีดีโอจากสตรีมเมอร์ด้วย ”
KOG ผู้พัฒนาเกมรายใหญ่ก็เข้าร่วมโครงการนำร่องของ BlueStacks แทนการพัฒนาเวอร์ชัน PC เองเช่นกัน “เราอยากให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกมได้ในทุกแบบที่พวกเขาต้องการ” Rafael Noh, VP ของ KOG กล่าว “ถ้ามีผู้เล่นของเราอยากเล่นเกมบนพีซี เราก็จะพยายามให้พวกเขาสามารถเล่นบนพีซีได้ด้วยประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด ซึ่งโครงการ BlueStacks Inside จะทำให้ผู้เล่นของเราสามารถเล่นเกมบนพีซีผ่านแพลทฟอร์มที่พวกเขาคุ้นเคยอยู่แล้วอย่าง Steam ได้เลย”
BlueStacks เป็นบริษัทจากประเทศสหรัฐอเมริกา และมีสาขาอยู่ในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เกาหลี และประเทศจีน รวมทั้งมีทีมประจำอยู่ 26 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย BlueStacks ถือหุ้นโดยกลุ่มบริษัทผู้นำในวงการไอทีไม่ว่าจะเป็น Ignition Partners, Radar Partners, Andreessen-Horowitz, Samsung, Redpoint, Qualcomm, Intel, Presidio Ventures (a Sumitomo Corporation Company), Citrix, AMD และ Helion Ventures ซึ่งบริษัทก่อตั้งในช่วงกลางปี 2011 และเปิดให้บริการ BlueStacks เวอร์ชันแรกในเดือนมีนาคมปี 2012 ล่าสุดมีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 370 ล้านคน
