[Review] Death Stranding Director’s Cut เวอร์ชั่นอัพเกรดบน PS5

8,139 views
Share
หลังจากที่ออกมาให้เล่นกันกว่า 2 ปี Death Stranding ของ Hideo Kojima ยังไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น เพราะล่าสุดมีการเข็นตัวเกมในเวอร์ชั่นปรับปรุงใหม่ออกมาให้เล่นกันอีกครั้งในชื่อใหม่ Death Stranding Director’s Cut ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพราะทำมาเพื่อให้เล่นกันในเวอร์ชั่นของเครื่อง PlayStation 5 และอีกส่วนก็คือการปรับปรุงกับเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้าไปในเกมให้ผู้เล่นได้เข้าเกมไปเล่นกันอีกครั้ง แต่ทั้งนี้หากใครจะอัพเกรดจาก PS4 มาเล่นใน PS5 ก็ต้องเสียเงินค่าอัพเกรดกันเล็กน้อย
ในส่วนของเรื่องราวภายในเกมนั้นโดยรวมยังคงเหมือนกับเวอร์ชั่น PS4 ที่ทุกคนเล่นกันมาตั้งแต่ต้นจบจบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่จะมีภารกิจใหม่เพิ่มเข้ามาสั้นๆ เป็นเหมือนเนื้อหาเสริมเพื่อเล่าเรื่องราวที่มาของตัวละครหลักแต่ก็ไม่ได้มีคัทซีนอะไรให้ดูกันเพิ่ม รวมถึงใส่ภารกิจของ Half-Life และ Cyberpunk 2077 จากบน PC มาให้เล่นกันด้วย ถ้าใครหวังจะเห็นเรื่องราวเสริมหรือเนื้อเรื่องพิเศษอะไรบอกเลยว่ามองข้ามภาคนี้ไปได้เลย
สำหรับกราฟิกของ Death Stranding Director’s Cut มีการปรับปรุงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งเรื่องรายละเอียดเทกเจอร์ แสงเงา หรือ Effect ต่างๆ แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ ตัวเกมในเวอร์ชั่น PS4 เดิมก็มีความสวยงามและสมจริงอยู่แล้ว ถ้าเอาให้เห็นชัดขึ้นไปอีกคงต้องยกให้เรื่องของการโหลดฉากต่างๆ หรือการ Fast Travel ที่ทำได้รวดเร็วฉับไวเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น กับความคมชัดของตัวเกมที่ยกระดับเป็น 4K HDR แถมยังรองรับขนาดจอ ultra-wide แบบ 21:9 ด้วย กว้างซะใจแน่นอน นอกจากนี้ฟีเจอร์ของจอย DulSense ทั้ง haptics กับ adaptive triggers ก็ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นได้เป็นอย่างดี เราจะรู้สึกถึงแรงสั่นและน้ำหนักของพัศดุที่แบกอยู่บนหลังแบบสมจริงสุดๆ
ทางด้านของเกมเพลย์มีการเพิ่มอาวุธใหม่อย่าง Maser Gun เป็นปืนช็อตไฟฟ้า อุปกรณ์ช่วยทุ่นแรง Support Skeleton ที่เอามาใส่ตรงขาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง โดยจะมีทั้งแบบที่ช่วยให้แบกน้ำหนักได้ดีขึ้นหรือจะแบบที่เอาไว้ทำให้เคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น เป็นต้น มีไอเทมที่เป็นเหมือนไอพ่นติดไว้ด้านหลังให้เราแลนดิ้งจากที่สูงได้อย่างปลอดภัย หรือจะเป็น Catapulr ปืนใหญ่ส่งของกับ Buddy Bot ที่สามารถขึ้นไปนั่งได้และปล่อยให้มันเดินไปตามเส้นทางได้อย่างอัตโนมัติ
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มโหมด Racing Track ที่เป็นเหมือนกับสนามแข่งรถเอาไว้แข่งขันกับผู้เล่นคนอื่นได้ ซึ่งสามารถเอารถทุกชนิดในเกมมาแข่งขันได้ แถมในแผนที่ปกติยังมีสิ่งก่อสร้างที่เป็นจุดคล้ายแท่นกระโดดชื่อว่า Jump Ramp ช่วยเอาไว้ขับรถผ่านแล้วสามารถกระโดดได้สูงแถมยังกดเล่นท่าทางบนหลังมอเตอร์ไซต์ได้อีกต่างหาก ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ชอบ Photo Mode จะต้องถูกใจแน่ๆ ส่วนใครที่อยากลองอาวุธต่างๆ ในเกมก็จะมีโหมด Firing Rang ที่เหมือนกับมินิเกมให้เราได้เข้าไปฝึกใช้อาวุธต่างๆ ได้
สรุปแล้ว Death Stranding Director’s Cut น่าจะเหมาะสำหรับคนที่ยังไม่เคยลองหรือคนที่ยังเล่นไม่จบแล้วอยากอัพเกรดเกมไปเป็นเวอร์ชั่น PS5 มากกว่า เกมมีกราฟิกที่ดีขึ้น มีการโหลดที่รวดเร็ว เพิ่มเนื้อหามาเล็กน้อยกับฟีเจอร์และมินิเกมใหม่ที่ทำให้สนุกขึ้น ส่วนคนที่เคยเล่นมาแล้วไม่ชอบหรือไม่ถูกใจก็ให้มองผ่านไปได้เลยเพราะเกมเพลย์ไม่ได้แปลกใหม่ไปกว่าเดิมถึงขนาดนั้น
Share

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

TSX by Astronize : แนวทางการเก็บเลเวล เลเวลขึ้นไว เก่งแบบง่ายๆ ในสไตล์ TSX
Thalassa: Edge of the Abyss เตรียมวางจำหน่ายบน PC Steam 18 มิถุนายนนี้
เกม “ArcheAge: War” เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์อินเตอร์อย่างเป็นทางการใน Q2 นี้ ผู้เล่นทั่วเอเชียเตรียมพร้อมสำหรับการรบครั้งใหญ่ได้เลย!
Puyo Puyo Puzzle Pop ส่งอัปเดตใหญ่ให้ลุยบน Apple Arcade
Insurmountable ประกาศเปิดตัวทั้งในแพลตฟอร์มคอนโซลหลายเครื่อง
Death end re;Quest Code Z เปิดเผยข้อมูลครั้งแรกพร้อมภาพตัวอย่าง