[Review] The DioField Chronicle เกมวางแผนการรบแบบเรียลไทม์ใหม่จาก Square Enix

หากพูดถึงเกมวางแนวแผนการรบจาก Square Enix หลายคนน่าจะนึกไปถึงเกมดังในอดีตอย่าง Final Fantasy Tactics หรือถ้าใหม่กว่านั้นก็ Tactics Ogre แต่ล่าสุดมีเกมใหม่ออกมาซึ่งวางจำหน่ายให้ได้เล่นกันมาซักพักแล้วกับเกมที่มีชื่อว่า The DioField Chronicle แต่จะมีเกมเพลย์ที่แตกต่างไปจากสองเกมที่กล่าวมาอยู่พอสมควร วันนี้เรามีรีวิวรายละเอียดของเกมนี้พร้อมความรู้สึกหลังจากที่ได้ลองเล่นมาให้อ่านกันครับ

The DioField Chronicle เป็นเกมวางแผนการรบที่มาในสเตอร์ของ Real-Time Tactical Battle คือจะไม่ได้เป็นเกมวางแผนแบบเทิร์นเบสเป็นช่องตารางเหมือนกับ FF Tactics แต่จะเป็นการต่อสู้กันแบบเรียลไทม์แทน ให้เราได้ควบคุมตัวละครกับใช้พวกสกิลต่างๆ คล้ายกับเกมฝั่งตะวันตกอย่าง Warhammer 40,000: Dawn of War นั่นเอง

เรื่องราวของเกมนี้จะเป็นสไตล์ของโลกแฟนตาซีที่ผสมกับยุคกลางพวกอัศวินบนเกาะ DioField Island โดยมีอาณาจักร Alletain ที่ราชวงศ์ Shaythamปกครองอยู่ ทั้งนี้เกิดเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างอาณาจักร Alletain กับจักรวรรดิ Trovelt-Schoevian และ Rowetale Alliance ซึ่งเราจะได้เล่นเป็นกลุ่มตัวเอกที่อยู่ในหน่วยทหารรับจ้าง Blue Fox โดยทำงานขึ้นตรงกับ Alletain งานนี้บอกเลยว่าเราจะได้เจอกับเนื้อเรื่องการเมืองและสงครามแย่งชิงอำนาจอันเข้มข้น ซึ่งถ้าใครไม่ชำนาญภาษาอังกฤษก็อาจจะลำบากหน่อย แถมมีทั้งคัทซีนการเล่าเรื่องและบทสนทนาอีกเพียบเลยทีเดียว แต่ถ้าใครเข้าใจจะพบว่าเนื้อเรื่องของเกมนี้ทำมาดีมาก ดูสนุก จริงจังและน่าติดตามตั้งแต่ต้นไปจนจบเลยล่ะครับ

ในด้านของเกมเพลย์บอกเลยว่าเล่นง่าย ด้วยความที่เป็น Real-Time Tactical Battle การเล่นการควบคุมเลยเน้นเกมเพลย์ที่รวดเร็ว ใช้การลากรวมทั้งกลุ่มตัวละครหรือสั่งการทีละตัวเพื่อเข้าโจมตีก็ได้เช่นกัน แต่ด้วยความที่เป็นเรียลไทม์เลยจะไม่ค่อยมีเวลาให้เราได้คิดมากนัก มันไม่ใช้เทิร์นเบสที่ผลัดกันเดินทีละฝั่ง แต่เกมนี้เราเดินเข้าโจมตีฝั่งศัตรูก็โจมตีกลับตามไปด้วย จะดีหน่อยตรงที่สามารถกดหยุดเกมได้ในตอนกดเลือกใช้สกิล ซึ่งระบบ Skill Tree ของเกมนี้จะเป็นการผูกอยู่กับอาวุธที่ตัวละครนั้นๆ ใส่อยู่ด้วย นอกจากนี้ก็มีระบบการอัพเลเวล การเพิ่มค่าสกิล ไว้สำหรับอัพท่า และมี Abilities ของตัวละครที่จะเป็นสถานะติดตัวซึ่งแยกไปเลยไม่เกี่ยวข้องกับตัวอื่นๆ ด้วย

นอกจากเกมเพลย์ในฉากต่อสู้แล้ว เรายังสามารถที่จะบังคับตัวละครเดินไปไหนมาไหนในฐานบัญชาการรบได้ โดยจะมีทั้ง NPC ต่างๆ ให้ได้พูดคุย รับภารกิจ ซื้อขายของ หรืออัพความสามารถ ไปจนถึงการบรีฟแผนการก่อนที่จะได้ทำภารกิจ แต่น่าเสียดายว่าเราจะได้เดินไปมาอยู่ในฐานที่ไม่ได้กว้างนักแถมวาร์ปไปห้องต่างๆ ได้เลยถ้าไม่อยากเดิน ซึ่งจะไม่มีการเดินในฉากแผนที่นอกเหนือจากนี้เลยไม่ว่าจะเป็นในเมืองอื่นๆ หรือที่ไหนก็ตาม

กราฟิกของเกมนี้ใช้ Unreal Engine ในการสร้าง จึงหายห่วงเรื่องความสวยงามและความไหลลื่น รวมถึง Effect สกิลต่างๆ โดยเฉพาะท่าใหญ่ๆ กับการใช้มนต์อสูรนี่อลังดีแท้ ส่วนมุมมองของเกมก็เป็น RTS แบบมองจากข้างบน ซึ่งเราสามารถที่จะหมุนมุมกล้องได้รอบ สิ่งที่ชอบมากก็คือเรื่องการดีไซน์ตัวละครที่ทำออกมาดูดี แต่เทกเจอร์อาจจะดูแข็งๆ ไปหน่อย ส่วนงานด้านเสียงเพลงประกอบก็ดูแปลกหูไปจากเกมฝั่งญี่ปุ่น อาจจะเป็นเพราะว่าเกมนี้ได้คนแต่งเพลงที่เคยผ่านงานอย่างซีรีส์ Game of Thrones มาช่วยทำเพลงให้ก็เป็นได้เลยได้บรรยากาศแบบดาร์คแฟนตาซียุคกลางสไตล์ยุโรป แถมเสียงพากย์ของตัวละครก็พูดสำเนียงอังกฤษอีก ก็ถือว่าเข้ากับภาพรวมของเกมอยู่ไม่น้อย

สรุปภาพรวมของ The DioField Chronicle มันเป็นเกมวางแผนการรบแบบเรียลไทม์ที่เล่นได้เพลินๆ เข้าใจง่าย ซึ่งเหมือนกับเป็นเกมแนวใหม่ที่ทาง Square Enix ดูจะส่งออกมาทดลองตลาด เกมเพลย์โดยรวมดูดี งานออกแบบตัวละครดูน่าสนใจ แต่กราฟิกแอบเหมือนเกมตกยุคไปซักนิด โดยเฉพาะพวกเทกเจอร์กับฉากสภาพแวดล้อมในแผนที่ เนื้อเรื่องเข้มข้นแต่ก็ต้องเข้าใจภาษาในระดับค่อนข้างดีหน่อย ถ้าใครอยากเล่นเกมวางแผนหรือมองหาเกมแนวนี้เล่นก็สามารถไปซื้อมาเล่นกันได้ครับ