YoKai Saga ออกลุยด่านผจญภัย เจาะลึกสิ่งที่ไม่ควรพลาดในแต่ละวัน

การผจญภัยที่เป็นการลงด่านแบบลุยไปเรื่อยๆ นั้น ถึงแม้จะดูเหมือนว่ามันไม่มีอะไรเลย เพียงแค่พยายามเอาตัวเก่งๆ ลงมาด่านให้ผ่านไปเรื่อยๆ จนสุดทางก็เพียงพอแล้ว แต่จริงๆ แล้วในการเล่นเกมแนว RPG ของมือถือ ตัวด่านในการผจญภัยนี่แหละถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะมีอะไรหลากหลายแจกให้เราฟรีกันอยู่เยอะทีเดียว

ระบบต่างๆ ในการผจญภัย
ระบบนี้ไม่ต้องแนะนำเรื่องเบื้องต้นกันมากนัก เพราะตัวระบบของเกมได้แนะนำให้การลงเล่นอยู่แล้ว เป้าหมายก็แค่เพียงพยายามลงแล้วผ่านด่านปราบบอสประจำฉากนั้นๆ ให้ได้ก็เป็นอันผ่านด่านปลดล็อคไปสู่ด่านต่อไปแล้วแหละ ในตอนแรกแนะนำว่าพยายามลงด่านให้ผ่านไปเรื่อยๆ ได้เลย จนถึงด่านที่เราตันไปต่อไม่ได้แล้ว จากนั้นถึงเริ่มมาดูส่วนเสริมอื่นๆ หรือสิ่งอื่นๆ ที่ต้องทำ เพื่อเพิ่มความสามารถของตัวละครในทีมจะได้เก่งขึ้นแล้วผ่านด่านนั้นไปได้ ส่วนเรื่องลึกๆ เกี่ยวกับระบบผจญภัยที่หลายคนอาจไม่รู้ เราจะพามาดูว่ามีอะไรบ้างที่น่าสนใจ

ลุยด่านไปทำไม
คำถามนี้ตอนแรกๆ ผู้เล่นหลายคนอาจไม่สงสัยเพราะตัวเกมมันเหมือนบังคับให้ลงอยู่แล้วไปเรื่อยๆ แต่พอถึงจุดหนึ่งที่เริ่มติดลุยด่านแล้วไม่ค่อยผ่านก็จะเริ่มมีคำถามย้อนกลับมาว่าจะรีบลุยด่านไปทำไมกันล่ะ คำตอบคือ การลุยด่านจะได้รับผลตอบแทนกลับมาเยอะมาก หนึ่งอย่างที่สำคัญก็คือ บางด่านจะแจกตัวละครให้มาฟรีๆ เมื่อผ่านได้ และเป็นตัวละครที่ใช้ได้ดีไม่น้อย อย่าง ยอฮีล นักธนูสายว่องไว หากผ่านในด่านที่ 6-10 ก็จะได้รับมันมาทันทีแถมยังเป็นระดับ 4 ดาวอีกด้วย เอามาก็กดใช้เข้าทีมได้เลย และอีกหนึ่งต่อคือ รางวัลที่ได้รับจากระบบ ภารกิจ > ผลงาน หลังจากเริ่มเข้าด่านที่ 5 แล้ว ทุกๆ 5 ด่านย่อยที่เราผ่านได้ ก็จะได้รับเป็น หินเลื่อนขั้น 2 อันแบบเลือกสีได้ จะทำให้เราพัฒนาเพิ่มดาวให้กับตัวละครในระดับ 3 ดาวของเรากลายเป็น 4 ดาวได้ทันที โดยไม่ต้องไปรอดันเจี้ยนประจำวันอย่างรอยแยกแห่งเวลาอีกด้วยนั่นเอง ทำให้ตัวละครของเราไม่ตันเลเวลได้ง่ายและเก่งขึ้นไปในเวลาเดียวกัน

ตอนนี้การลงด่านผจญภัยจะมีทั้งหมด 10 ด่านใหญ่ แต่ละด่านก็จะมีแยกย่อยอีก 10 ด่านเล็ก เมื่อผ่านทั้งหมดก็จะปลดล็อคไปสู่ด่านใหม่ แต่หลังจากที่ผ่านด่าน 10 ครั้งแรกแล้ว เราก็จะเริ่มวนกลับมาที่ด่าน 1 อีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้จะเพิ่มระดับความยากจากตอนแรกที่เป็นแบบง่ายจะเป็นแบบปกติแทน (แต่สามารถเลือกกลับไปสู้แบบง่ายได้ บริเวณขวาล่างจะมีระดับให้เรากดเลือก) โดยมอนสเตอร์ที่เจอจะเก่งขึ้นกว่าระดับก่อนเยอะมาก และระดับสูงสุดของด่านจะอยู่ที่ระดับยาก (แต่ในอนาคตจะมีระดับนรกด้วย) บอกเลยว่ากว่าจะมาถึงระดับนี้ได้ก็ต้องใช้เวลานานไม่พอ ตัวละครของเราจะต้องเก่งแบบถึงขั้น 6 ดาว เลเวลเต็มทั้งหมด และต้องปรับจูนตัวละครเลือกตัวให้มีความสามารถแก้ทางมอนสเตอร์ในด่านนั้นๆ ได้ดี ถึงจะผ่านในระดับความยากแบบสุดท้ายนั่นแหละ

รางวัลที่คาดว่าจะได้รับ
ในแต่ละด่านที่เรากดเข้าเล่น จะมีหน้าต่างแสดงรายละเอียดต่างๆ ของด่านนั้นเอาไว้ด้วย ซึ่งสิ่งที่เราควรสนใจมากที่สุดคือ รางวัลจากการผ่านด่าน จะมีบางด่านที่เราจะได้รับไอเทมพิเศษ เช่น แก่นเวทมนตร์ เอาไว้ใช้เลื่อนระดับของอุปกรณ์ต่างๆ ได้ หรืออย่างตัวละครในระดับอัศวิน (ขอบม่วง) ก็มีโอกาสในอัตราต่ำที่เราจะได้รับมันมาเช่นกัน ขอบอกเลยว่าหากได้รับมาแล้วสามารถปั้นมันใช้ได้ยาวๆ แน่นอน อีกทั้งตัวพวกนี้เราสามารถหาได้เพิ่ม ถึงจะยากมากก็เถอะ แต่มันจะมีโอกาสในการนำมาข้ามขีดจำกัด ทำให้มันกลายเป็นเลเวล 40 ได้ มันจะเก่งกว่าตัวละครระดับโบราณ (ขอบทอง) เลเวล 30 ที่เปิดสุ่มหาได้ยากเอามากๆ นั่นเอง อีกทั้งตัวละครที่เราได้รับจากการลงด่านในระดับอัศวินนั้น จะเป็นกลุ่มที่เรียกว่านักรบเทพปีศาจ เป็นโยไกที่ขึ้นชืื่อว่าเก่งที่สุดทั้งหมด 9 ตัว โดยสามารถหาได้จากการลงด่านผจญภัยอยู่ถึง 7 ตัวด้วยกัน เพียงแต่มันก็ไม่ได้หาได้ง่ายๆ เน้นย้ำอีกทีว่ามีโอกาสในระดับต่ำที่จะได้รับมันมานั่นเอง ขึ้นอยู่กับดวง บางคนลงด่าน 3-5 เพื่อหาบาโฟเม็ต ใช้เวลาไป 3 วันก็ยังไม่ได้ แต่บางคนลงแค่วันเดียวก็ได้รับมาแล้ว

เคลียร์ 3 ดาวหมดทั้งด่าน รับรางวัลเพิ่มเติม
การลุยด่านเมื่อผ่านแล้วสุดท้ายจะมีการสรุปผลออกมาเป็นดาว ซึ่งหากเราสามารถผ่านด่านได้ 3 ดาวทั้งหมดในด่านนั้นๆ เช่นด่าน 1 ตั้งแต่ 1-1 ถึง 1-10 ก็จะได้รับรางวัลพิเศษประจำด่านนั้นๆ ไป โดยเงื่อนไขการเก็บแต่ละดาวนั้นก็ไม่ยากเลย โดยเราจะต้องผ่านด่านให้ได้ภายในเวลาที่กำหนด และต้องไม่มีตัวละครใดในทีมของเราตายเลยแม้แต่ตัวเดียว นี่คือเงื่อนไขในการเก็บ 3 ดาวของทุกๆ ด่าน ถึงแม้จะดูเหมือนง่าย แต่บางด่านบอกเลยว่ายากจริงๆ นอกจากเลเวลและความสามารถของตัวละครต้องถึงแล้ว จำเป็นต้องมีสกิลที่แก้ทางมอนสเตอร์บอสในด่านนั้นๆ เอาไว้ด้วย ถึงแม้ช่วงแรกจะไม่มีปัญหานี้เท่าไหร่ แต่หากมาถึงระดับปกติแล้วละก็ การเก็บ 3 ดาวใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย

นอกจากนั้นการเก็บ 3 ดาวยังได้รับโบนัสพิเศษอีกหนึ่งต่อคือ ดาวรวมทั้งระดับ โดยจะมีแจกเป็นไอเทม 3 อย่าง โดยในระดับง่ายเริ่มต้น หากเก็บดาวได้ครบ 120 ดวง จะได้เงิน 40,000 เหรียญทอง ต่อมาที่ 210 ดวง จะได้รับโยไก มารีโอเน็ต 3 ดาว และสุดท้ายที่ 300 ดวง จะได้ผลึกดาว 300 ชิ้น ซึ่งในระดับปกติและยากก็จะเป็นเช่นนี้ด้วย เพียงแต่เพิ่มเหรียญทอง เปลี่ยนตัวละครที่ได้รับ และเพิ่มจำนวนผลึกที่ได้รับ ในระดับยากหากทำได้ 210 ดวง จะได้รับโยไก จิ้งจอกเก้าหาง 5 ดาวมาใช้เลย

โบนัสการผ่านเดิม ซ้ำไปเรื่อยๆ
หากเราผ่านด่านเดิมๆ ซ้ำกันจนครบ 5 ครั้งก็จะได้รับเป็นรางวัลพิเศษ เราจะได้กดเข้าไปในด่านเพื่อกดรับเอง รางวัลที่ได้รับนั้นจะวนในรูปแบบเดิมซ้ำๆ ไปทั้งหมด 10 ระดับด้วยกัน ในระดับสุดท้ายที่ 10 หากทำได้สำเร็จจะได้รับเป็นผลึกดาว 2 เม็ดอีกด้วย ถือว่าคุ้มเอามากๆ ทำให้การฟาร์มหาตัวละครระดับอัศวินของเราจะไม่สูญเปล่านั่นเอง แนะนำเลยว่าหากใครอยากฟาร์มด่านเดิมก็ให้กดผจญภัยต่อเนื่องไปได้เลย มันจะลงด่านเดิมๆ ซ้ำไปเรื่อยๆ จนกว่าพลังงานจะหมด หรือช่องเก็บตัวละครจะเต็ม

ปัญหาการลงด่านแล้วไม่ผ่าน ควรทำอย่างไร
หลักๆ แล้วหากลงด่านไหนแล้วไม่ผ่านนั่นจะหมายถึงว่า ความเก่งของตัวละครในทีมของคุณยังไม่ถึงขั้นที่จะผ่านด่านนี้ได้ ส่วนใหญ่วิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้นก็คือ เก็บเลเวลในด่านก่อนหน้าที่เคยผ่านมาแล้วให้เลเวลตัน หรืออัพดาวแล้วเพิ่มเลเวลขึ้นมาใหม่ หลังจากพร้อมแล้วก็จะผ่านด่านได้ไม่ยาก หรืออัพเกรดใส่อุปกรณ์สวมใส่ให้ครบ ถึงแม้ในช่วงแรกอุปกรณ์สวมใส่อาจจะไม่ดีอะไรมากมายนัก แต่ก็เป็นอีกหนทางในการช่วยเพิ่มระดับของตัวละครเราได้เช่นกัน นี่คือเรื่องพื้นฐานที่ช่วยในการไถด่านไปได้
เพียงแต่ในช่วงท้ายๆ เช่นตอนด่านที่ 9 หรือ 10 นั้น มอนสเตอร์จะเพิ่มความเก่งมากขึ้นเป็นพิเศษ หากต้องการผ่านเราจำเป็นต้องมานั่งกดสกิลเอง กดโยไกเอง ไม่ควรปล่อยแบบออโต้ เพราะการออโต้จะทำให้ใช้สกิลพลาด หรือใช้ไม่คุ้มเอาได้ง่ายมาก จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เราไม่สามารถผ่านด่านได้นั่นเอง เพราะฉะนั้นหากเกิดแพ้ในด่านขึ้นมาก็ลองลงใหม่แล้วคราวนี้ลองกดใช้งานสกิลเอง แต่เราก็ต้องรู้ด้วยว่าแต่ละสกิลทำอะไรได้ ถึงจะรู้ว่าควรใช้ในจังหวะใดถึงจะคุ้มค่า

แต่หากทั้ง 2 วิธีข้างต้นนั้นไม่สามารถใช้ได้ คืออัพเลเวลจนสุดแล้ว กดสกิลเองก็แล้วยังไม่ผ่าน อีกหนึ่งปัญหาที่คุณเผชิญอยู่ก็คือ ตัวละครในทีมของคุณไม่เก่งพอ ซึ่งในระดับสูงนั้นจำเป็นต้องมีตัวละครที่เป็นพวกอัศวิน (ขอบม่วง) ร่วมทีมแล้วอย่างน้อย 1-2 ตัว และการจัดตัวละครลงก็ควรจะมีความสมดุลหรือแก้ทางเหล่ามอนสเตอร์ในฉากนั้นๆ กับดาวของตัวละครเราต้องถึง เช่นในช่วงท้ายของด่านที่ 10 เมืองแห่งเทพเจ้า จะผ่านด่านพวกนี้ได้ ตัวละครเราควรจะมี 5 ดาวแล้ว 3 ตัวที่เลเวลเต็ม ถึงจะเพียงพอต่อการผ่านด่านสุดท้ายแล้วเปลี่ยนไปผจญภัยในระดับปกติได้นั่นเอง

อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญคือเรื่องของตัวละครอย่างที่ว่า ดังนั้นการเปิดหาตัวละครจากร้านค้าสุ่มนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญ ทางที่ดีคือ ต้องพยายามเปิดให้ตัวละครในระดับขอบม่วงมาใช้งานให้ได้ อาจต้องพึ่งดวงหรืออาศัยเวลาหน่อย แต่หากมีตัวละครระดับนี้มาจะช่วยทำให้การผจญภัยไปได้ไกลมากขึ้น ยิ่งมีเยอะก็ย่ิงดี เพราะเราต้องเลือกใช้ปรับแต่งให้เหมาะกับทีม การมีตัวละครเยอะเท่ากับว่ามีตัวเลือกเยอะเพิ่มขึ้น และที่สำคัญก็คือเราต้องศึกษาดูสกิลของแต่ละตัวด้วยว่ามันทำอะไรได้ จะได้เลือกมาจัดขึ้นที่ลงตัว ความสามารถแต่ละตัวคอยเสริมจุดเด่น ปิดจุดอ่อนของกัน