ยังคงสำคัญ Seven Knight ทวงบัลลังก์ตัวหลักของทีม

ท่ามกลางหมอกควันของสงคราม จอมจักรพรรดิม้าแดงยิ่งใหญ่ค้ำฟ้า เหล่าเจ็ดอัศวินไม่อาจหาญกล้าต่อกรแม้เพียงปลายก้อยจนเกมเกือบต้องเปลี่ยนชื่อเป็น ‘จักรพรรดิออนไลน์’ ในที่สุดเหล่าอัศวินทั้งเจ็ดที่เจ็บช้ำมานานก็กลับมาครองตำแหน่งยอดนักรบในเกมได้อีกครั้ง Seven Knight ยังคงชื่อ Seven Knight อยู่…

หลังจากมีแพทใหญ่รีเมคสกิลของเหล่าอัศวินทั้งเจ็ดไปแล้วนั้น ทำให้หลายคนยังงงชีวิต บางคนอาจไต่อารีน่าได้แบบงง ๆ หรือบางคนก็ร่วงกราวรูดไปเลย ชีวิตผกผันจนตั้งตัวไม่ติด และวันนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่าความเปลี่ยนแปลงนี้ก่อให้เกิดผลอย่างไรบ้าง

ลูดี้

อัศวินสายป้องกันเพียงหนึ่งเดียว เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมไม่มากนัก แค่เปลี่ยนการเร่งเทิร์นจาก 2 เทิร์นไปเป็น 3 เทิร์น

ดูผิวเผินเป็นการปรับที่น้อยเป็นบ้า…และมันก็น้อยจริง ๆ นั่นแหละ แต่ว่าหน้าที่โดยปกติของ ลูดี้ นั้นอยู่ที่การเสริมความถึกให้กับทีมทั้งทีม และการป่วนฝ่ายตรงข้ามด้วยสกิลเร่งเทิร์น จากแต่เดิมการเร่งเพียงแค่ 2 ดูเหมือนจะไม่เพียงพอเสียแล้ว เมื่อลูซี่มีป้องกันสถานะ 4 เทิร์น คริสกับไป่หลงเป็นซอมบี้ 3 เทิร์น และด้วยเอไอของตัว ลูดี้ เองที่เน้นจ้วงใส่ตัวที่บนหัวมีบัฟเยอะที่สุดอยู่แล้ว จึงทำให้ ลูดี้ สามารถจัดการกับศัตรูที่มีความสามารถพิเศษได้ดี

สรุป : ลูดี้ ยังคงเป็น ลูดี้ คนเดิมที่ยืนหยัดเสริมกำลังพวกพ้อง และคอยจัดการกับศัตรูแบบพิเศษที่ค่อนข้างจัดการได้ยุ่งยาก แต่ใครคิดอยากให้ ลูดี้ เป็นสุดยอดพระเอก ถึกทนไร้เทียมทาน ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คงต้องคิดใหม่แล้วล่ะ

ไอลีน

ไอลีน เจ้าแม่แห่งสายฟ้าเป็นหนึ่งในตัวละครที่มีความเปลี่ยนแปลงมาก… ถึงมากที่สุด เริ่มจาก

– ท่าเดี่ยวสั่งตาย ทะลุบัฟด้วยความแรง 250% แถมถ้าไม่ตายยังอุตส่าห์แถมช็อตให้อีก ใจดีเหลือจะกล่าวจริง ๆ การทะลุบัฟนี่หมายความว่า ทะลุ “อมตะ” “ป้องกันกายภาพ” พวกตัวกางโล่อมตะอย่าง เดลโลนซ์ เดซี่ หมิงหมิง ที่ว่าแน่โดนไปคงหลับสถานเดียว กระทั่งบัฟป้องกันอย่างเมย์หรือจินก็ไม่เกี่ยง หรือบัฟโล่ของลูดี้ก็ยังทะลุอีก! (แต่ว่าบัฟที่เพิ่ม def ของตัวละครอย่างพาสซีฟลูดี้ไม่ทะลุ และพาสซีฟลดโจมตีของกวนอูยังมีผล)

– ท่าหมู่ปรับให้ติดช็อตมากขึ้น

– ตายแล้วเกิดใหม่เลือดเต็ม

“….”

สารภาพตามตรง นี่มันเจ้าแม่ชัด ๆ ใครอารีน่าบ่อย ๆ คงเห็นความเก่งกาจของไอลีนเป็นอย่างดี นอกจากตัวเองจะเก่งขึ้น ตายยากขึ้น บัฟเพิ่มพลังโจมตีให้กับทีมก็ยังช่วยเสริมให้ทีมแกร่งขึ้นอีกระดับ นับเป็นหนึ่งตัวละครที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคนเล่นสายโจมตี

ราเชล

หากไอลีนเป็นเจ้าแม่อารีน่าในเวลานี้ ราเชลก็มีหน้าที่ที่ค่อนข้างแตกต่างโดยสิ้นเชิง นั่นคือเน้นความสามารถในการตีปราสาท ไต่หอคอย และตะลุยดันรายวันแบบยากได้ดีขึ้นมาก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่สุดแสนจะมีประโยชน์ (ในโหมดที่สามารถบังคับเองได้)

– ท่าโจมตีเดี่ยวของราเชลค่อนข้างรุนแรงมาก และทำให้อีกฝ่ายติดไฟไหม้อีก 2 เทิร์น

– ท่านกไฟโจมตี 3 ตัว ส่งผลให้เกิดดีบัฟ ลดพลังป้องกันและพลังโจมตี 80% จำนวน 3 ตัว… ใช่ ฟังไม่ผิดแล้ว เป็นการดีบัฟหมู่ถึง 3 ตัวพร้อมกัน

– ตายแล้วเกิดใหม่เลือดเต็ม และสกิลทั้งสองด้านบนแรงขึ้นอีก

สำหรับราเชลนั้นหากจะใช้ในการไต่อารีน่าก็พอทำได้ ไม่ใช่ไม่สามารถ แต่ก็เป็นเรื่องยาก เพราะว่ายุคนี้ใคร ๆ ก็อมตะ แถมยังพกพาสไปค์ไว้เป็นยาสามัญประจำบ้านอีกด้วย ทำให้จุดเด่นของราเชลค่อนข้างจืดจางหน่อย ๆ การจะใช้ราเชลไต่หอ จำเป็นต้องมีตัวเร่งเทิร์นช่วยเสริม แล้วยังต้องหวังให้เอไอฝ่ายเราเร่งเทิร์นอีกฝ่ายก่อนราเชลออกสกิลอีก ไม่อย่างนั้นก็แป้ก

คิดในแง่ความน่าจะเป็น เราไม่ควรใช้ตัวละครที่หวังพึ่งโชคดวงมากจนเกินไปครับ เพราะอารีน่าปกติก็วัดดวงมากอยู่แล้วเสียด้วยสิ…

เดลโลนซ์

ราชาแห่งความตายที่เต็มไปด้วยกระแสแห่งความอวย แต่ส่วนตัวผู้เขียนรู้สึกว่ามันเป็นราชาแห่งความซวยสำหรับแพทนี้เสียมากกว่า เพราะความเปลี่ยนแปลงทำให้ความเก่งที่เคยมีตกหลุมดำไปไหนไม่ทราบ แถมยังได้สกิลให้ซึ่งเรียนรู้มาจากสไปค์… นั่นคือ “ขัดแข้งขัดขาพวกตัวเอง” เข้ามาด้วย… เป็นอย่างไรน่ะเหรอ มาดูกันดีกว่า

– ใบ้หมู่ 5 เป้าปรับหลบโซอีให้เหลือ 3 เป้าแล้วเพิ่มความแรงขึ้น… ดูเหมือนจะดีนะครับ ดูเหมือนจะ แต่เอาจริง ๆ นี่ล่ะความผิดพลาดใหญ่หลวง อย่างแรกเลยก็คือโซอีตกยุคไปแล้วครับ ไม่มีใครเขาเอามาใช้กันแล้วเพราะโดนลิโป้ 30 เหยียบพินาศสิ้นหมด มิหนำซ้ำการปรับจาก 5 เป้าที่โดนทุกตัว ใบ้เกือบทุกตัวมาเป็น 3 เป้า… ซึ่งทำให้โดนแต่พวกตัวยืนหน้าครับ ลองนึกสภาพดูเถิด ใบ้ใส่ตัวหน้าหมดแล้วตัวหลังที่เป็นดาเมจหลักออกท่ารัว ๆ คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ!

– ท่าเดี่ยวทะลุบัฟ ก็แรงดีนะครับ ใช้ได้

– พาสซีฟบัฟเพิ่มดาเมจทีม ปรับจาก 25% เป็น 40% ก็ดีนะ… ก็ดี

สรุปเกือบดีแล้วครับ แต่ดันมีท่าที่ทำให้ความน่าใช้ลดลง แถมไม่ใช่แค่ในโหมดอารีน่า แต่ในการลุยดันประจำวันแบบยาก หรือการทำฟาร์มลิโป้ 9-13 จวบจน 9-15 ที่คนส่วนมากมักใช้ทริคเอาเดลใบ้มันเลยตัดปัญหา ตอนนี้ก็ไม่สามารถใช้ได้แล้ว โดยส่วนตัวคิดว่าจุดเด่นหลักของเดลโลนซ์ได้จากไปจนไม่น่าใช้เอาเสียเลย (แต่ถ้าใครทำเดล 40 มาแล้วก็ใช้ไปเถอะครับ เพราะ 7k 40 อย่างไรก็เก่งเพราะค่าสถานะสูงกว่าตัวละครปกติมาก)

สไปค์

ยาสามัญประจำบ้านไงจะใครล่ะ…

สไปค์เป็นหนึ่งในตัวละครยอดฮิตของแพทนี้เลยล่ะครับ แต่ว่าเป็นตัวละครที่คนมักใช้งานกันแปลก ๆ สักหน่อย บางคนใช้งานตั้งแต่ 4 ดาวด้วยซ้ำ เพราะอะไร ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น มาลองดูกัน

– พาสซีฟที่พยายามดัดแปลงให้เก่งและน่าใช้ขึ้น เริ่มจากพาสซีฟที่คนหวังมากที่สุดนั่นคือ “กันสถานะทุกอย่าง 2 เทิร์น” หลายคนเลือกเอาสไปค์มายืนบัฟแล้วปล่อยให้ลาโลกไป ไวที่สุดได้ยิ่งดีเพราะไม่ขัดแข้งขัดขาคนอื่น… (ทำไมฟังน่าอนาถชะมัด) คนสร้างเกมจึงพยายามจะหาทางลดความน่าอนาถของอัศวินแห่งน้ำแข็งผู้นี้ลงจึงเพิ่มความสามารถพิเศษอีก 2 อย่างเข้าไปนั่นคือ… เพิ่มคริติคอลทีม 40% และทำให้สไปค์ติดบล็อก 100% ซึ่งทำให้แลมีประโยชน์ขึ้นมาก… และสไปค์ก็ถึกขึ้นอีกมาก ๆ ด้วย

สไปค์เป็นอัศวินที่ค่อนข้างแปลก และมีความอินดี้ค่อนข้างสูงครับ ความเก่งนั้นขึ้น ๆ ลง ๆ แล้วแต่ความขยัน… เคยไหมที่เอาสไปค์เข้าทีม มาถึงเทินแรกโดดไปแช่แข็งตัวละครเทพของอีกฝั่งไว้ แล้วรุมสกรัมตัวละครอื่นของอีกฝั่งจนตายหมด ขณะที่ทีมเรากำลังพิกลพิการ สกิลใช้หมดแล้ว เลือดเริ่มริบหรี่น้ำแข็งก็แตก และหายนะก็บังเกิด… เทพเจ้าแห่งสงครามของอีกฝั่งพิโรธ รัวสกิลใส่ไม่ยั้งแล้วเราก็ตาย…

ใช่ครับ… นั่นแหละ…

ส่วนตัวมองว่าสไปค์เก่งนะแต่เก่งแบบ… ถ้าไม่ตายง่าย ๆ ไปเลย ก็ต้องเทพเลเวล 40 ไปเลย ถึงจะไม่ขัดแข้งขัดขาคนอื่นนี่สิ ส่วนสไปค์ครึ่ง ๆ กลาง ๆ เลเวลระหว่าง 32-34 นี่เป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะให้ตายก็ไม่ตาย จะให้เก่งก็ไม่เก่ง ชีวิตมันก็น่าเศร้าเช่นนี้เอง

คริส

คริสเป็นอีกหนึ่งอัศวินที่ผงาดขึ้นมาในแพทนี้… ราชาแห่งความตายที่ไม่ตาย…

ความเปลี่ยนแปลงของคริสเริ่มที่ “ปรับโอกาสติดเดธให้สูงขึ้น” ซึ่งสถานะเดธนี้ หากอีกฝ่ายมีสไปค์จะผันสถานะเดธให้กลายเป็นพลังโจมตีอีกหนึ่งฮิต… สรุปง่าย ๆ มีสไปค์ไม่ติดเดธแต่จะเจ็บตัวกันมากขึ้น และใคร ๆ ก็มีสไปค์ครับในเวลานี้ คงพอเห็นกันแล้วว่าคริสจะสามารถสร้างความปั่นป่วนให้ได้มากแค่ไหน แถมไม่ใช่แค่ทีมแบบใดแบบหนึ่ง ‘แต่กับทุกทีม’

เรื่องต่อมาที่มีการปรับสำหรับคริสคือ…การตายแล้วฟื้นขึ้นมาเป็นซอมบี้ครับ หลายคนอาจมองว่านี่คือจุดเด่นใหม่ของคริส แต่ผู้เขียนมองว่า ‘ไม่ควรคิดพึ่งพาสกิลนี้’ แต่ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของโชคดวงในท้ายที่สุดดีกว่า…

เพราะอะไร? คำตอบคือคริสเหมาะจะเป็นทีมถึกทนทาน ยืนแจกเดธ ปั่นป่วนศัตรู และช่วยทีมให้ฮีลหมู่ได้ในช่วงเวลาคับขันซึ่งจะนำพาทีมได้รับชัยชนะแบบมึน ๆ งง ๆ ได้หลายต่อหลายครั้งทีเดียวล่ะ… ดังนั้นสำหรับผู้เขียน คริสมีชีวิตหลังความตายก็จริงอยู่ แต่เป็นราชาที่ไม่ควรตายมากกว่า เพราะว่าซอมบี้นั้นตายง่ายกว่าที่คิดนะ (ยิ่งลูดี้ปรับเป็น 3 เทิร์นแล้วด้วยสิ)

เจฟ

ห้วงเวลาของราชันมังกรได้มาถึงแล้ว

การปรับของเจฟไม่มากมายอะไรเพียงแค่ท่าหนึ่งทะลุบัฟเท่านั้น… และท่านั้นเป่า 5 ตัว

แต่เดิมเจฟเป็นอัศวินที่เก่งในแทบทุกด้านอยู่แล้ว ตีแรงก็แรง ถึกก็ถึก ดูอย่างไรก็เพียบพร้อม แต่ว่า… พลังอันยิ่งใหญ่หากใช้ไม่ถูกที่ถูกทางก็ไร้ประโยชน์ ที่ผ่านมาเจฟใช้ชีวิตค่อนข้างลำบากเพราะ ทุบไปใครก็ไม่ตาย… เขาอมตะหมด แถมก่อนหน้านี้ยังมีแม่นางโซอีมาเหยียบย่ำน้ำใจราชันมังกรอีก ทำให้ท่า 5 เป้า เป่า 0 สนิท ไม่มีใครบาดเจ็บแม้เพียงปลายก้อย

หลังจากไปแอบร้องไห้มาพักหนึ่ง เจฟกลับมาใหม่ด้วยสกิล ‘ทะลุบัฟ’ ซึ่งเป็นการทุบจุดอ่อนเดิม ๆ ทิ้งไปในทันทีเพราะไม่ว่าจะโซอี หรืออมตะก็โดนเป่ากระจุยทั้งนั้น และเจฟยังค่อนข้างชนะทางจักรพรรดิลิโป้อีกด้วย เนื่องจากการสะท้อนการโจมตีนั้นถือเป็นการโจมตีหนึ่งครั้ง ลิโป้ทุบเจฟก็เหมือนโดนโต้ตอบหนึ่งครั้งแล้ว หากโดนโต้ตอบซ้ำอีก อมตะก็หายอีก ซึ่งนั่นทำให้อมตะของลิโป้หายไปไวมากด้วยเช่นกัน

ทิ้งท้ายก่อนจากกัน… กิลด์วอร์รอบถัดไปแบน หมิงหมิง ลิโป้ ลูดี้ และสไปค์นะครับ… ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจฟจะผงาดในศึกชิงบัลลังก์กิลด์ครั้งนี้อย่างแน่นอน

By… Tongfar