[Reveiw] FOBIA – St. Dinfna Hotel โรงแรมสยองขวัญสุดระทึก

7,052 views
Share

เกมแนวสยองขวัญมีพัฒนาออกมาให้พวกเราได้เล่นกันอย่างมากมาย ล่าสุดก็มีเกม FOBIA – St. Dinfna Hotel ผลงานจากทีมพัฒนาอินดี้ Pulsatrix Studios ออกมาวางจำหน่ายให้เราได้เล่นกัน ซึ่งส่วนตัวแล้วถือว่าเป็นเกมที่น่าสนใจมาก เพราะมันเต็มไปด้วยปริศนาและการเล่นคล้ายๆ กับ Resident Evil โดยในบ้านเราได้ทาง Ripples Thailand เป็นผู้จัดจำหน่าย ซึ่งหลังจากที่ได้ลองเล่นเกมนี้บนเวอร์ชั่น PS5 มาแล้ว ก็เลยจะมารีวิวรายละเอียดของเกมและความรู้สึกหลังจากที่เล่นจบให้ได้อ่านกันครับ

FOBIA – St. Dinfna Hotel เป็นเกมแนว survival horror game + puzzle หรือเกมเอาชีวิตรอดสุดหลอนระทึกขวัญและผสมเรื่องของการแก้ปริศนาเข้าไปด้วย ผ่านมุมมองการเล่นแบบ FPS หรือบุคคลที่หนึ่ง โดยอย่างที่บอกไปแล้วว่าตัวเกมมีความคล้ายกับ Resident Evil อยู่บ้างในเรื่องของการเล่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้ปริศนา การต่อสู้กับสิ่งลึกลับ หรือแม่กระทั่งพวกกิมมิคในการเซฟกับ UI อินเตอร์เฟส เป็นต้น แต่บอกเลยว่าบรรยากาศโดยรวมของเกมกับเนื้อเรื่องและความซับซ้อนของปริศนาต่างๆ ทำออกมาได้ดีจนต้องยกนิ้วเลยทีเดียว

รายละเอียดกราฟิกของเกมนี้พบว่าน่าสนใจมากเพราะทีมพัฒนาเล่นใช้รุ่นใหม่อย่าง Unreal Engine 5 ในการพัฒนาจึงทำให้ด้านภาพนั้นออกมาดูดีมาก ไม่ว่าจะพวกพื้นผิว แสงเงา ควัน หรือพวก Effect ต่างๆ ฉากไฟไหม้ทำออกมาได้สมจริงและสวยงาม รายละเอียดข้าวของวัตถุแต่ละชิ้นนั้นถือว่างานดีเลยทีเดียว ซึ่งทั้งหมดพอรวมกันแล้วมันทำให้บรรยากาศของเกมดูน่ากลัว สมจริง ชวนเสียวสันหลังเอามากๆ แต่แอบเสียดายที่พวกโมเดลตัวละครนั้นดูเก่าและแข็งๆ ไปซักหน่อย ก็พอเข้าใจได้ว่าเป็นทีมพัฒนาอินดี้ที่ไม่มีทรัพยากรหรือเงินทุนเท่าบริษัทใหญ่ๆ ส่วนทางด้านของเสียงส่วนตัวมองแล้วว่าสอบผ่าน ทั้งเสียงพากย์ของตัวละคร เสียงเพลงประกอบฉากซาวด์เอฟเฟคต์ มันสามารถสร้างบรรยากาศได้ดีเอามากๆ

เรื่องราวของเกมนี้จะให้เราได้เล่นเป็นนักข่าวที่ชื่อว่า Roberto Leite Lopez ที่เดินทางมายังเมือง Treze Trilhas ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรม St. Dinfna Hotel ซึ่งว่ากันว่าเป็นโรงแรมปริศนาที่มีผู้เข้าพักหายตัวไปอย่างลึกลับมากมาย แต่กลายเป็นว่าตัวเราเองก็ต้องพบเจอกับเรื่องแปลกๆ และการเอาชีวิตรอดจากสิ่งลี้ลับ จนต้องทำการสืบสวน แก้ปริศนา และค้นหาความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นไปด้วย จากตอนแรกที่เป็นแค่โรงแรมเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นว่ามันทำให้เราต้องเข้าอยู่ท่ามกลางการเชื่อมโยงเหตุการณ์ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยต้องบอกทุกคนก่อนเลยว่าเรื่องราวต่างๆ ในเกมนี้ผู้เล่นจะต้องอ่านเอกสารเยอะมาก และต้องใช้ความชำนาญในภาษาอังกฤที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ไม่งั้นบอกเลยว่างงทั้งเนื้อเรื่องและปริศนาอย่างแน่นอน

ในส่วนของรูปแบบการเล่นหรือเกมเพลย์นั้น ถ้าใครเคยเล่น Resident Evil มาก่อนจะเข้าใจได้ไม่ยาก เกมจะให้เราเปิดลิ้นชัก ตู้ โต้ะ ต่างๆ เพื่อสำรวจและหาเอกสารเพื่อหาคำใบ้กับการแก้ปริศนา รวมถึงเปิดประตูหาทางไปต่อเรื่อยๆ ซึ่งต้องใช้ความจำอย่างสูงในเรื่องของเส้นทางที่ซับซ้อน และตัวปริศนาต่างๆ เองก็ซับซ้อนเช่นกันรวมถึงมีขั้นตอนในการแก้แบบหลายตลบจริงๆ แถมเรายังมีกล้องปริศนาที่สามารถส่องแล้วทำให้เห็นโลกอีกใบได้ เช่น เมื่อเรายกกล้องขึ้นมาบางเส้นทางที่ปกติจะไปไม่ได้กลับเข้าไปได้ หรือของบนโต๊ะที่ไม่มีอะไรกลับมีสิ่งของตั้งอยู่ เป็นต้น แต่ส่วนตัวชอบตรงที่โลกปกติกับโลกที่มองผ่านกล้องนั้นสามารถเชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ ไม่มีการโหลดหรืออะไรให้กวนใจเลย

นอกจากการสำรวจและการแก้ปริศนาแล้ว ในเกมนี้ยังมีส่วนของการต่อสู้อยู่ด้วย โดยตัวเราจะสามารถใช้อาวุธปืนต่างๆ ได้ ทั้งปืนพก ปืนลูกซอง หรือปืนกล เป็นต้น แต่จะไม่มีพวกอาวุธระยะประชิดให้ใช้ โดยอาวุธนั้นสามารถที่จะอัพเกรดค่าความสามารถได้ กระสุนมีให้ใช้กันสบายพอตัวแต่กลับต้องมาปวดหัวกับจำนวนช่องเก็บของที่เปลืองเนื้อที่และต้องบริหารจัดการให้ดีเหมือนกับ Resident Evil เป๊ะๆ แต่ส่วนตัวคิดว่าการยิงต่อสู้ในเกมนี้ยังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และจำนวนกับประเภทของศัตรูก็ไม่มีความหลากหลายเท่าไหร่นัก

สรุปแล้วภาพรวมของเกมนี้ส่วนตัวคิดว่าเป็นเกมอินดี้ที่ทำออกมาได้ดีเกินคาด และสร้างบรรยากาศภายในเกมได้หลอนระทึกดีเลยทีเดียว ทีเด็ดคงต้องยกให้กับปริศนาอันซับซ้อนและท้าทาย ยกนิ้วให้กับทีมพัฒนาที่ออกแบบมาได้อย่างชาญฉลาด ทำให้ชวนปวดหัวอยู่พักใหญ่ แถมเนื้อเรื่องดูจะลึกลับและล้ำๆ พอสมควร เพียงแต่ไม่ค่อยถูกใจในบทสรุปซักเท่าไหร่ ใครที่กำลังมองหาเกมบรรยากาศหลอนๆ ท้าทายและซับซ้อนก็สามารถไปหาซื้อเกม FOBIA – St. Dinfna Hotel มาเล่นกันได้แล้วตอนนี้

Share

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Inti Creates Gold Archive Collection ประกาศเปิดตัวลง Nintendo Switch
Hunter x Hunter: Nen x Impact ปล่อยตัวอย่างแรกให้ชม
BlizzCon 2024 ประกาศยกเลิกจัดงาน
Stellar Blade พร้อมวางจำหน่ายให้ไปลุยกันแล้วบน PS5
TSX by Astronize : แนวทางการเก็บเลเวล เลเวลขึ้นไว เก่งแบบง่ายๆ ในสไตล์ TSX
Thalassa: Edge of the Abyss เตรียมวางจำหน่ายบน PC Steam 18 มิถุนายนนี้